ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นประธานในพิธีเปิด และกล่าวปาฐกถาพิเศษ ในงาน "Thailand Economic Challenges 2019" โดยกล่าวว่า มิติที่สองแม้ว่าเรามองไปข้างหน้าไม่ค่อยชัดเจน แต่โอกาสยังมี ไม่มียุคไหนที่เรามีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับจีนและญี่ปุ่นเท่ายุคสมัยนี้ ในทางการต่างประเทศไม่มีใครที่ไม่เป็นมิตรกับไทย หัวหอกในการรุกต่างประเทศคือฮ่องกงได้มาใช้ไทยเป็นฐาน การที่เรามีตัวเลขบริษัทมาลงทุนในประเทศไทยสูง ทั้งนี้ล้วนเพราะต้องการให้ไทยเป็นศูนย์ลงทุนไปสู่ CLMV ทั้งสิ้น โอกาสมาอยู่ข้างหน้า เพราะเราเป็นผู้นำในการทำแผนแม่บทของ CLMVT ถ้าไม่มีอะไรมาทำให้เสียบรรยากาศ ไทยจะมีโอกาสมารออยู่หน้าประตู แต่คู่แข่งที่น่ากลัวคือเวียดนาม หากเราไม่ระวังอีกไม่นานเขาจะแซงหน้าเรา มาเลเซียก็เป็นคู่แข่งที่สำคัญอีกราย ถ้าเราไม่จริงจังทำไม่ดี โอกาสเลี้ยวออกจากไทยอย่างแน่นอน การปฏิรูปการเปลี่ยนแปลงจึงสำคัญ เป็นเรื่องที่ยาก และต้องทำให้ทุกคนตระหนักว่าต้องทำร่วมกัน ประชากรฐานราก 20-30 คนเป็นเกษตรกรที่มีผลผลิตน้อย ราคาต่ำ ไม่มีข้อมูลทางการตลาด สิ่งที่รัฐบาลทำคือเข้าไปกระตุ้นให้เกิดผู้นำในการเปลี่ยนแปลง นำเทคโนโลยีเข้าไป การส่งเสริมให้เกษตรกรใช้อี-คอมเมิร์ชไม่ใช่เรื่องง่าย สำหรับเรื่องการท่องเที่ยว หากสามารถนำนักท่องเที่ยวเกือบ 40 ล้านคนไปสู่เมืองรองได้ สินค้าเกษตรจะได้รับการสนับสนุน แต่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ต้องมีการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว การคมนาคม การเข้าไปจุนเจือร้ายได้เกษตรกรในเบื้องต้นเป็นสิ่งจำเป็น และสุดท้ายต้องเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงโครงสร้าง สวัสดิการให้ได้แต่เฉพาะในระยะที่พยุงคนให้ยืนขึ้นได้ แต่การปฏิรูปต้องเกิดขึ้น https://www.youtube.com/watch?v=rhu97TcOZOo&feature=youtu.be