ช้างศึกบดเจ้าภาพ ตีเจ๊า 1-1 ลิ่วรอบ 16 ทีมชาติไทย คุมที่โดย “โค้ชโต่ย”  ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ที่นัดนี้หากทำได้แค่เสมอก็มีลุ้นเข้ารอบ มีการปรับทัพเล็กน้อยจากเกมก่อน ส่ง มิก้า ชูนวลศรี แทน พรรษา เหมวิบูลย์ ที่ติดโทษแบน นอกนั้นเป็นชุดเดิมในระบบ 3-5-2 ส่วนเจ้าภาพ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ภายใต้การคุมทีมของ อัลแบร์โต ซัคเคโรนี จัดทัพชุดใหญ่ เริ่มการแข่งขัน เป็นยูเออีที่ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วในนาทีที่ 7 จากจังหวะบุกมาทางด้านซ้าย อัล ฮามาดี หลุดเข้าไปชิพมุมแคบชนคาน ก่อนเข้าทาง อาลี มับคูต ตามเข้าโขกตุงตาข่ายให้ ยูเออีนำไทย 1-0 ไทยมาตีเสมอได้ในนาทีที่ 41 จากจังหวะที่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ วางบอลเข้าไปในเขตโทษให้ ธีรศิลป์ แดงดา กองหลังเจ้าถิ่น สกัดบอลไม่ขาด ทำให้ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ที่สอดเข้ามามีโอกาสตอกลูกส้นทำประตู ผู้รักษาประตูเซฟได้ในจังหวะแรก แต่บอลยังมาเข้าทาง เจ้านิวซ้ำเข้าไปไม่เหลือ ไทยตามตีเสมอได้เป็น 1-1 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้ ครึ่งหลังเป็นเจ้าภาพที่ครองบอลได้มากกว่า เปิดเกมรุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง แต่ทีมชาติไทยเล่นเกมรับได้อย่างเหนียวแน่นแล้วรอจังหวะสวน ซึ่งไม่มีการทำประตูกันได้ จบเกมเสมอกันไป 1-1 ทีมชาติไทยเข้ารอบเป็นที่สองของสาย เหนือกว่าบาห์เรนที่มี 4 คะแนนเท่ากันด้วยผลเฮดทูเฮดที่ดีกว่า ซึ่งเป็นการผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 47 ปี “โค้ชโต่ย” ชี้ ทุกคนต้องการสร้างประวัติศาสตร์ หลังเกม “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย รักษาการณ์กุนซือใหญ่ทีมชาติไทย เปิดเผยว่า ก่อนเกมมีความกังวล แต่การที่เตรียมตัวมาดี เล่นด้วยความทุ่มเท จึงทำให้เกมออกมาเป็นที่น่าพอใจสำหรับสำหรับทีมชาติไทย “จบเกมรู้สึกดีใจ เด็กทุกคนต้องการสร้างประวัติศาสตร์เพื่อทีมชาติไทย ยิ่งเล่น เราก็ยิ่งเห็นความมุ่งมั่นของเด็ก และการทำงานร่วมกันระหว่างโค้ชกับนักเตะ ว่าสามารถทำงานไปได้ด้วยดี ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ให้กับประเทศไทยและสมาคมฟุตบอล” โค้ชโต่ย กล่าว นอกจากนี้ รักษาการกุนซือใหญ่ทีมชาติไทย ได้กล่าวอีกว่า ในรอบน็อกเอาต์นั้นไม่สามารถเลือกทีมได้ เจอทีมไหนก็ขอสู้เต็มที่ ต้องทำการบ้านให้หนักขึ้น เพราะฟุตบอลอะไรก็เกิดขึ้นได้ ทีมที่เหนือกว่าอาจไม่ได้เป็นผู้ที่ชนะเสมอไป จากนี้ไปจะเป็นการสู้กันที่แท็กติกมากกว่า มุ้ย-เจ ยกย่องทีมสปิริต ด้าน “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา 2 ผู้เล่นตัวสำคัญทีมชาติไทย ให้สัมภาษณ์หลังเกมว่ารู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ช่วยกันพาทีมเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย พร้อมขอบคุณโค้ช ทีมงานสตาฟฟ์ ที่ช่วยกันทำงาน และยกย่องทีมสปิริตว่ามีความสามัคคี โดยพร้อมเจอกับทุกทีมในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ดวลที่ 2 กลุ่มซี ไม่เกาหลีใต้ ก็จีน สำหรับรอบ 16 ทีมสุดท้าย “ช้างศึก” ในฐานะรองแชมป์กลุ่มเอ ต้องโคจรไปเจอกับรองแชมป์ของกลุ่มซี ระหว่าง จีน หรือ เกาหลีใต้ ซึ่งทั้งคู่ควงกันเข้ารอบน็อกเอาต์แน่นอนแล้ว หลังมี 6 คะแนนเท่ากัน แต่จีนมีลูกได้เสียดีกว่า โดยทั้ง 2 ทีมจะต้องแย่งกันเป็นแชมป์กลุ่มในนัดสุดท้าย วันที่ 16 ม.ค. โดยเกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายจะลงเล่นในวันอาทิตย์ที่ 20 มกราคมนี้ ที่สนามฮัซซา บิน ซายิด สเตเดียม ในเมืองอัล ไอน์ เริ่มแข่งขันเวลา 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย นายกสมาคมฯ ประกาศอัดฉีดเข้ารอบ 10 ล้าน รวมรับแล้ว 15 ล้านบาท ด้านสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ  ล่าสุด “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง นายกสมาคมฯ ประกาศมอบเงินอัดฉีดเข้ารอบ 10 ล้านบาท แก่นักเตะทั้ง 23 คน และสตาฟฟ์โค้ช โดยเงินรางวัลก้อนนี้เท่ากับว่าทีมชาติไทยรับแล้ว 15 ล้านบาท หลังจากเกมก่อนหน้านี้ได้เงินจากสปอนเซอร์ 5 ล้านบาท ที่เอาชนะ บาห์เรน 1-0 และมีความเป็นไปได้สูงที่จะได้รับเงินอัดฉีดเพิ่มมากขึ้นหากสามารถผ่านเข้ารอบ 8 ทีมเอเชียนคัพได้สำเร็จ “บิ๊กอ๊อด”  เคลียร์ใจ "ขอโทษ" และขอสู้ไปด้วยกัน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวขอบคุณทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หลังล่าสุด ทีมชาติไทย ผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ในเอเชียนคัพได้สำเร็จ โดยนายกสมาคมฯ กล่าวว่า ขอขอบคุณแฟนบอลชาวไทย ทั้งที่เข้ามาเชียร์ในสนามหรือส่งแรงใจมาจากประเทศไทย ขอกราบเรียนแฟนบอลชาวไทยว่าวันนี้ตนได้ทำในสิ่งที่ปรารถนา หรือตั้งใจไว้อย่างดีที่สุด สิ่งใด คำพูดใด เรื่องราวใด เหตุการณ์ใดที่เคยก้าวล่วง หรือทำให้แฟนบอลชาวไทยไม่พึงพอใจในตนเอง ก็ขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ “วันข้างหน้า คือวันของคนไทย ไม่ใช่วันของนายกสมาคมฯ ไม่ใช่วันของคนใดคนหนึ่ง ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย เป็นของคนไทยทุกคน เพราะฉะนั้น นับแต่นี้ต่อไป เราจะชนะด้วยกัน จะแพ้ด้วยกัน คนไทยจะรวมหัวใจให้เป็นหนึ่ง เราจะก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน ไม่มีที่สิ้นสุดครับ กราบขอบคุณแฟนบอลชาวไทยทุกคนครับ” พล.ต.อ.สมยศ กล่าวทิ้งท้าย ทั้งนี้ นัดต่อไปของทีมชาติไทย จะพบกับรองแชมป์กลุ่มซี ระหว่าง “จีน” กับ “เกาหลีใต้” ในศึกเอเชียนคัพ 2019 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่สนาม ฮัสซา บิน ซายิด สเตเดียม, อัล ไอน์ ในวันที่ 20 มกราคม 2562 เวลา 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 HD และ FOX Sports HD ขอบคุณภาพจาก FB  ช้างศึก    ข่าวอื่นที่น่าสนใจ   https://www.thaiquote.org/content/61458