คุณหมอประยูรแนะนำว่า วิธีการลดความอ้วนที่ถูกต้องนั้นนอกจากการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอแล้ว การควบคุมอาหารก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งอาหารที่ควรรับประทานระหว่างการลดน้ำหนัก ควรจะเป็นอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำและมีเส้นใยสูง รวมทั้งอุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายด้วย  โดยอาหารเหล่านี้จะทำให้ร่างกายมีผิวพรรณสดใส ไม่แห้งกร้าน

               ทั้งนี้ความอ้วนก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหนังของคนเราเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะผิวหนังของคนที่เคยอ้วนหรือคนที่ลดความอ้วน  หากมีการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วอาจทำให้ผิวที่เคยขยายตัวหดตัวอย่างรวดเร็ว ผิวจึงหย่อนคล้อยจับแล้วจะรู้สึกนิ่ม ๆ เหี่ยว ๆ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับอายุและน้ำหนักตัวของแต่ละคนด้วย หากอายุไม่มาก แม้จะลดน้ำหนักตัวมากก็อาจฟื้นฟูผิวหนังได้เร็วกว่า เนื่องจากอายุที่มากขึ้นก็จะทำให้ผิวหนังมีคอลลาเจนและอิลาสตินน้อยลงไปด้วย

         ดังนั้นวิธีการลดความอ้วนแบบไม่ทำร้ายผิว ไม่แนะนำให้ลดความอ้วนด้วยวิธีอดอาหาร ให้เลือกทานหรืองดรับประทานอาหารเพียงอย่างหนึ่งอย่างใด ซึ่งจะทำให้ร่างกายขาดสารอาหารบางชนิดไปเนื่องจากการอดอาหารทำให้ระบบภายในร่างกายเสียสมดุล เพราะไปลดปริมาณน้ำตาลในเลือดลง แม้ทำให้ผอมเร็ว แต่อาจจะมีปัญหากับสุขภาพในระยะยาว รวมทั้งอาจเกิดอาการหงุดหงิด อารมณ์เสียง่าย และทำให้ร่างกายอ่อนเพลียได้ด้วย ดังนั้นการลดความอ้วนที่ไม่ส่งผลเสียต่อผิวหนัง จะต้องลดน้ำหนักตัวลงไม่เกิน 0.5 ถึง 1 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ และต้องทำอย่างถูกวิธี

สำหรับเทคนิคการลดความอ้วนแบบไม่ทำร้ายผิว คือการรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เช่น ผักและผลไม้ต่าง ๆ ธัญพืช และถั่ว ฯลฯ ควบคู่ไปกับการออกำกลังกาย โดยอาหารที่มีไฟเบอร์สูง (Dietary Fiber) ช่วยให้ระบบการย่อยอาหาร ระบบขับถ่าย เป็นไปได้ดี ช่วยในการขับถ่ายของเสียที่ไม่พึงประสงค์ทำให้ผิวพรรณดูผ่องใส นอกจากนี้ยังช่วยลดคอลเสเตอรอล ควบคุมน้ำตาลในเลือด และลดโอกาสเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจได้อีกด้วย

             ในส่วนของการแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ลบการแตกลายงา นพ.ประยูร แนะนำวิธีว่า ควรจะต้องทำควบคู่ในขณะที่ลดความอ้วน แต่หากลดความอ้วนไปแล้วจะต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน โดยสามารถทำได้ด้วยการออกกำลังกายแบบแอโรบิกเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวกระชับได้บ้างไม่มากก็น้อย

           อย่างไรก็ตามยังมีอีกวิธีคือการรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง เพื่อไปเสริมสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินให้กับผิวหนัง ซึ่งคอลลาเจนนอกจากจะมีในปลาทะเลน้ำลึกแล้วยังมีอยู่ในพืชผัก และผลไม้ด้วย เช่น สาหร่ายทะเล เห็ด ถั่วเหลือง ส้มโอ แอปเปิ้ล นอกจากนี้ควรดื่มน้ำเยอะ ๆ  เพราะน้ำเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น และยังทำให้ผิวหนังชุ่มชื้น ดูนุ่มเนียนขึ้นอีกด้วย