นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับภาคเอกชนจัดงาน SMART Startup 2017 ระหว่างวันที่ 16-18 ก.พ.60 ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน พบว่ามีภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคธุรกิจ และประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก พร้อมเยี่ยมชมกิจกรรมและใช้บริการให้คำปรึกษาธุรกิจภายในงานอย่างคับคั่ง สำหรับกิจกรรมภายในงาน SMART Startup 2017 แบ่งออกเป็น 4 โซน คือ โซนที่ 1 เชื่อมโลก Startup และ SME (New Vision New World) นิทรรศการที่บอกเล่าความเป็นมาในโลกของ Startup ต้นแบบความสำเร็จ และการปฏิรูปเกษตรกรรมไทยซึ่งเป็นธุรกิจที่อยู่คู่กับประเทศมาอย่างยาวนานไปสู่การเป็น Smart Farmer หรือเกษตรกร 4.0 โซนที่ 2 เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกิจ (Smart Business Solution) เป็นการนำเสนอเครื่องมือต่างๆ ที่จะช่วยให้ SME มีความคล่องตัวในการทำธุรกิจ สร้างมาตรฐานใช้นวัตกรรมช่วยผ่อนแรงการผลิตและบริหารจัดการ โซนที่ 3 แปลงความคิดสู่ธุรกิจจริง (Idea Commercialization) เปิดเวทีเพื่อระบายปัญหาการทำธุรกิจที่เกิดขึ้นกับ SME เพื่อให้ Startup เข้ามามีส่วนรวมช่วยขจัดอุปสรรคต่างๆ และโซนที่ 4 งานสัมมนาโอกาสสู่ธุรกิจยุคใหม่ (New Economy Dialogue  2017) เป็นการเติมความรู้และถ่ายทอดเรื่องราวการทำธุรกิจจาก Startup ที่ประสบความสำเร็จทั้งจากไทยและต่างประเทศให้ SMEs ได้มองเห็นมุมมองใหม่ ๆในการทำธุรกิจ ซึ่งตลอดทั้ง 3 วันของการจัดงานที่ผ่านมามีผู้สนใจสำรองที่นั่งเพื่อเข้าฟังการสัมมนาแล้วกว่า 5,000 ราย รมช.พาณิชย์กล่าวว่า หลังจากจบงานในวันแรกกระทรวงพาณิชย์ได้ประเมินผลการจัดงานพบว่ามี SMEsให้ความสนใจลงทะเบียนและเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก และขอเข้ารับคำปรึกษาในการทำธุรกิจจาก Startup เป็นกิจกรรมที่อยู่ในโซนที่ 2-3 ซึ่งได้รับความนิยมสูงสุดจากผู้เข้าร่วมงาน ทั้งนี้ก่อนเข้ารับคำปรึกษา SMEs จะได้รับการวิเคราะห์ปัญหาของตนเองในการทำธุรกิจผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยเครื่องจะประมวลผลและแจ้งว่า Startup จากธุรกิจใดสามารถให้คำปรึกษาและช่วยแก้ไขปัญหาของท่านได้อย่างเหมาะสมตรงจุด โดยไม่ต้องเสียเวลาในการเดินหาภายในงาน ทั้งนี้ภายในงานมี Startup เข้าร่วมกว่า 122 ราย แบ่งตาม 5 Pain Point หลักได้แก่ Business Management E-commerce Finance&Accounting Logistics และ Marketing  ซึ่งการจัดงานในวันแรกพบว่า SMEs และ Startup สามารถจับคู่ธุรกิจเจรจาซื้อขายได้มากถึง 70% ของ Startup ที่เข้าร่วมงานจึงเป็นสัญญาณที่ดีที่จะผลักดัน SMEs ไทยให้ได้มีเวทีเชื่อมโยงกับ Startup และสร้างเครือข่ายระหว่างกันก้าวไปสู่การปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจของไทยไปสู่ “Value-Based Economy” หรือ “เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม” โดยใช้จุดแข็งของ SMEs และ Startup มาเกื้อหนุน ส่งเสริม และเติมเต็มซึ่งกันและกันต่อไป นายสนธิรัตน์กล่าวต่อว่า กระทรวงพาณิชย์ได้รับฟังความคิดเห็นจากผู้ร่วมงานพบว่าอยากให้จัดกิจกรรมในลักษณะนี้อย่างต่อเนื่องในทุกปี เพราะช่วยให้ภาคธุรกิจเกิดการตื่นตัวในการพัฒนาตนเองและได้เปิดโลกทางธุรกิจได้ทราบถึงนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะนำมาปรับใช้ในการทำธุรกิจโดยไม่ได้ทำธุรกิจอยู่แค่เพียงลำพัง “ขอเชิญชวน SMEs และผู้สนใจยังสามารถเข้าร่วมงานได้จนถึงวันที่ 18 ก.พ.60 โดยคาดว่าจะมี SMEs และผู้เข้าร่วมงานตลอด 3 วันมากถึงหมื่นราย และกระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการประมวลผลความสำเร็จของการจัดงานและเผยแพร่ข้อมูลนวัตกรรมดี ๆ ที่น่าสนใจให้เป็นที่รับทราบต่อไป” รมช.พาณิชย์ ระบุ