วันหยุดอย่าเผาเวลา! ไปเที่ยว “ล้ง 1919” เสพวัฒนธรรมจีนกว่า 100 ปี
by ThaiQuote, 13 สิงหาคม 2561
“ล้ง 1919” คือ อดีตท่าเรือ “ฮวย จุ่ง ล้ง” (แปลว่า ท่าเรือกลไฟ)ก่อกำเนิดขึ้นในปี พ.ศ. 2393 โดยการก่อตั้งของพระยาพิศาล ศุภผล (ชื่น พิศาลบุตร) มีพื้นที่ทั้งหมดราว ๆ 6 ไร่ พร้อมพื้นที่อาคาร 6,800 ตารางเมตร ท่าเรือกลไฟริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีบทบาทสำคัญของสยาม เป็นสถานที่เชื่อมความสัมพันธ์อันรุ่งเรือง ในช่วงยุคทองของการค้าระหว่างไทย-จีนในสมัยรัชกาลที่ 4 ซึ่งปัจจุบันนี้ตั้งอยู่ ตรงข้ามกับย่านตลาดน้อย-เยาวราช
ต่อมาเมื่อท่าเรือแห่งประเทศไทยได้เข้ามามีบทบาททางการค้ากับต่างชาติมากขึ้น ท่าเรือฮวย จุ่ง ล้ง ก็ได้ลดบทบาทลง นายตัน ลิบ บ๊วย แห่งตระกูลหวั่งหลี จึงได้รับช่วงเป็นเจ้าของต่อจากตระกูลพิศาลบุตรในปี พ.ศ. 2462 และได้ปรับพื้นที่ให้กลายเป็นอาคารสำนักงานและโกดังเก็บสินค้า พร้อมทั้งเป็นที่อยู่อาศัยให้เช่าของคนงานในพื้นที่คือ โกดังของบ้านตระกูลหวั่งหลี ต่อมาที่อยู่อาศัยและอาคารสำนักงานได้ย้ายออกพื้นที่ผืนนี้จึงเป็นโกดังร้างมาเป็นสิบๆ ปี
ทางตระกูลตั้งใจปลุกอาคารที่หลับใหลมายาวนานกว่า 100 ปี ขึ้นมาอยู่กับปัจจุบัน แต่คงรูปร่าง หน้าตาดั่งเดิมไว้ จนทำให้ “ล้ง 1919” และพื้นที่สาธารณะแห่งนี้มีเสน่ห์และถูกกล่าวขวัญขึ้น สร้างความมีชีวิตชีวาใหม่ให้เกิดขึ้นกับ”ล้ง 1919” หลังจากที่ได้หลับใหลไปนาน ทุกวันนี้ “ล้ง 1919” กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไทย-จีน และที่เที่ยวแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ อีกด้วย
"“ล้ง 1919”" ตั้งอยู่สุดถนนเชียงใหม่ แขวงคลองสาน เขตคลองสาน กรุงเทพฯ โดยพื้นที่จะอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามกับย่านตลาดน้อย-เยาวราช การเดินทางมายัง “ล้ง 1919” หากมาทางเรือนั่นไม่ยาก ถ้านั่งเรือด่วนเจ้าพระยามาลงที่ท่าเรือสี่พระยา แล้วนั่งเรือข้ามฟากไปลงที่ท่าเรือหวั่งหลี หรือจะไปลงที่ท่าเรือสวัสดีก็ได้
- เดินทางโดยรถส่วนตัว ขัยมาบนถนนเจริญกรุง เลี้ยวเข้าถนนเชียงใหม่ (ถนนนี้อยู่ตรงข้ามสถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา ซอยเดียวกับวัดทองธรรมชาติวรวิหาร) ตรงเข้ามาสุดซอยจะพบที่จอดรถอยู่ทางขวามือ
- เดินทางโดย BTS ลงสถานีกรุงธนบุรี ประตูทางออกที่ 3 จากนั้นต่อรถโดยสารสาธารณะ หรือลงสถานีสะพานตากสิน ทางออกประตูที่ 2 แล้วต่อเรือโดยสารสาธารณะมาลงที่ท่าเรือสวัสดี
เมื่อเดินเข้าไปในพื้นที่อาณาจักรของ “ล้ง 1919” สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือ เหมือนกำลังเข้าไปอยู่ในฉากหนึ่งของละครย้อนยุค ที่มีวัฒนธรรมจีนชาวโพ้นทะเลเข้ามาผสม จะเห็นถึงสถาปัตยกรรมจีนโบราณโดดเด่นด้วยจิตกรรมฝาพนังจากช่างฝีมือชาวจีนตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4
สิ่งที่จะเป็นจุดดึงดูดความสนใจของผู้มาเยือน และแลดูโดดเด่นเป็นตระหง่านคือสถาปัตยกรรม โดยเป็นรูปแบบงานสถาปัตยกรรมจีนที่นิยมในสมัยรัชกาลที่ 3 ตัวอาคารก่ออิฐถือปูน พื้นเป็นไม้ หลังคาสร้างจากกระเบื้อง มีลักษณะเป็นอาคารหมู่แบบซาน เหอ หยวน ซึ่งเป็นการวางผังอาคารแบบจีนโบราณ โดยจะมีอาคาร 3 หลังเชื่อมต่อกัน 3 ด้าน เป็นผังรูปทรงตัว U มีพื้นที่ว่างตรงกลาง มักใช้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์
นอกจากรูปแบบสถาปัตยกรรมแล้ว ก็ยังมีเรื่องของการออกแบบภายในที่คำนึงถึงหลักฮวงจุ้ย พร้อมทั้งมีงานจิตรกรรมฝาผนังแบบศิลปะจีนอันเก่าแก่อายุกว่า 160 ปี ที่สวยงามควรค่าแก่การอนุรักษ์
นอกจากตัวอาคารที่น่าประทับใจแล้วที่ “ล้ง 1919” ยังเป็นสถานที่ตั้งของสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่าง เจ้าแม่ทับทิม ที่พ่อค้าชาวจีน ต้องมาสักการะทั้งตอนมาถึงและก่อนออกจากเมืองไทย ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ทั้งยังมีศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว (คลองสาน) ที่มีอายุมากกว่า 167 ปี ซึ่งเป็นศูนย์รวมใจของชาวจีนในแผ่นดินไทยด้วย
เนื่องจาก “ล้ง 1919” เป็นสถานที่ที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ การบูรณะใหม่ได้มีการจัดสรรพื้นที่ต่างๆ ออกเป็นส่วนๆ ดังนี้
- ศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว (คลองสาน) อายุมากกว่า 180 ปี สิ่งศักดิ์สิทธิ์และศูนย์รวมใจของชาวจีนในแผ่นดินไทย
- อาคารจัดงานอีเว้นท์ หรืองานเลี้ยงสังสรรค์ต่างๆ
- ลานกิจกรรมกลางแจ้ง
- Co-Working Space
- ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดีไซน์ งานฝีมือ จากศิลปินร่วมสมัยรุ่นใหม่
- ร้านอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำ อาทิ ร้านนายห้าง, ร้านอาหาร โรงสี, ร้านกาฟงกาแฟ ฯลฯ
- บริเวณที่นั่งพักผ่อนระเบียงริมแม่น้ำเจ้าพระยา
- ท่าเรือสัญจรทางแม่น้ำเจ้าพระยา
- ศิลปวัฒนธรรม อาทิ อาคารไม้สถาปัตยกรรมจีนโบราณ, ภาพจิตรกรรมฝาผนังจากปลายพู่กันจีน