"สมยศ" ปัด บอลไทยล้มเหลว อชก. อ้างเยอรมันยังตกรอบแรกบอลโลก

by ThaiQuote, 21 สิงหาคม 2561

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย  กล่าวถึงภาพรวมของทีมฟุตบอลทีมชาติไทยว่า ในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ รวมไปถึงการเตรียมทีมสู่ปรีโอลิมปิกในอนาคต ซึ่งฝ่ายพัฒนาเทคนิคได้มีการวางแผนระยะยาว ในการเตรียมทีมสู่รอบคัดเลือกของรายการชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 18-26 มีนาคมปีหน้า เพื่อหา 16 ทีมของทวีปในการแย่งชิงโควตาไปโอลิมปิกส์ 2020 ณ ประเทศญี่ปุ่น

          

“การพัฒนากีฬาฟุตบอล หรือการพัฒนากีฬาทุกประเภท จะต้องพัฒนาอย่างเป็นระบบและทุกมิติ ซึ่งระยะเวลา 2 ปี เป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่จะพัฒนาฟุตบอลไทยไปสู่ความเป็นเลิศ อย่างทีมชุดที่ส่งไปแข่งขันเอเชียนเกมส์ ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจของประธานเทคนิค วิทยา เลาหกุล และเฮดโค้ช วรวุธ ศรีมะฆะ เราจึงเปิดโอกาสให้นักเตะที่อายุต่ำกว่า 23 ปี เลือกที่จะไม่ใช้เอานักเตะอายุเกินเล่น เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับปรีโอลิมปิก”

          

นายกลูกหนังไทย กล่าวต่อไปว่า เอเชียนเกมส์ ไม่ใช่ฟีฟ่าเดย์ ทำให้ไม่สามารถเรียกนักเตะจากสโมสรได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย แม้เราจะมีการพักเบรคเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่สโมสรก็ตาม ทำให้ทีมนี้จึงเป็นทีมที่ยังไม่พร้อมสมบูรณ์เต็มร้อย นอกจากนี้นักกีฬาสังกัดสโมสรมีอาการบาดเจ็บไม่สามารถรวมตัวฝึกซ้อมด้วยกันได้ ถือว่าต่างจากฟุตบอลหญิง ที่ก่อนจะเดินทางไปแข่งขันเอเชียนเกมส์ ได้มีการเตรียมความพร้อม มีการเก็บตัวตลอดมาทั้งปี สมาคมฯ ส่งไปเก็บตัวที่ประเทศออสเตรเลีย ประเทศอินโดนีเซีย และประเทศญี่ปุ่น จะเห็นว่าผมพยายามทำให้ดีที่สุดกับทีมชาติทุกชุด ตามเงื่อนไขที่อำนวยตลอดช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา

          

ในเรื่องของแผนการทำงาน นายกลูกหนังไทย กล่าวว่า แผนการทำงานของสมาคมฯ ในวันนี้ เราตั้งเป้าไว้ที่เยาวชน ซึ่งจะผลิดอกออกผลในอีก 10 ปีข้างหน้า ยกตัวอย่างในขณะนี้ ผมส่งเยาวชน รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ไปเก็บตัวที่ประเทศสเปน ถามว่าทำไมผมเลือกส่งนักเตะทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ไปเก็บตัว เพราะทีมชาติไทยชุดนี้จะเป็นตัวแทนในการเล่นรอบคัดเลือก ฟุตบอลโลก ปี 2026 ซึ่งเหตุผลที่ผมเริ่มจากรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี เพราะว่าในปี 2026 ทวีปเอเชียจะได้โควตาสำหรับการเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเพิ่มขึ้น ก็หมายความว่าโอกาสของทีมชาติไทยมีมากขึ้น เราจึงต้องเตรียมตัวตั้งแต่วันนี้ เพื่อหวังผลในอีก 8 ปีข้างหน้า

          

“ที่ผ่านมาสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ทำงานอย่างเป็นระบบ เมื่อมอบหมายให้ใครรับผิดชอบทำอะไร คนนั้นก็ต้องรับผิดชอบทำหน้าที่นั้นๆ อย่างในเอเชี่ยนเกมส์ ก่อนที่ จะเดินทางไปแข่งขันรายการนี้ ทั้งทีมฟุตบอลชาย และทีมฟุตบอลหญิง ผมได้มีการพูดคุยกันว่า ทุกคนไปทำหน้าที่แทนคนไทย สิ่งที่จะต้องทำคือมีความมุ่งมั่น มีความตั้งใจ และทุ่มเท ให้ดีที่สุด ต้องสร้างรอยยิ้ม สร้างผลงานที่ดี ให้กับแฟนบอลชาวไทย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้บอกว่าจะต้องไปให้ถึงจุดนั้นจุดนี้ เพราะมั่นใจว่าสตาฟฟ์โค้ช ทีมงานและน้อง ๆ ทุกคนไม่อยากให้ทีมแพ้ เป็นเรื่องที่ทุกคนเป็นมืออาชีพ มีเกียรติศักดิ์ศรี เพื่อตระกูล และประเทศไทย”

          

ในส่วนของแฟนบอลนั้น ขอวอนแฟนบอลอย่าดูเพียงผลแพ้ ชนะ ผมเข้าใจแฟนบอลทุกคน แต่เมื่อมีความคาดหวัง ต้องมีความผิดหวัง ลองย้อนกลับไปมองทีมชาติเยอรมนี เป็นอดีตแชมป์โลก ยังตกรอบแรกการแข่งขันฟุตบอลโลกได้ เรื่องนี้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จะทำอะไรต่อจากนี้ต้องอยู่บนหลักการและเหตุผล ผมมองว่าการเปลี่ยนโค้ชไม่ใช่ทางออก คือหลังจากที่ทุกคนทำหน้าที่เสร็จสิ้น กลับมาต้องคุยกัน สรุปสิ่งที่เกิดขึ้น ปัญหาอุปสรรคว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพื่อหาแนวทางแก้ไข แล้วค่อยสรุปกันอีกที ต้องคุยด้วยเหตุและผล เราไม่เคยตัดสินโดยการฟังกระแส หรืออคติใดๆ เราจะต้องฟังเหตุผลก่อนตัดสินใจ ส่วนโค้ชคนไหนจะพิจารณาหรือมีความเห็นหรือจะดำเนินการใดๆ เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา จะเห็นว่าที่ผ่านมาเราไม่เคยสั่งปลดโค้ช ไม่เคยสั่งเปลี่ยนโค้ช มีแต่เรียกเข้ามาชี้แจง เว้นแต่โค้ชบางคนไม่ยอมเข้ามาชี้แจง แต่ชิงลาออกไปก่อน”

        

"ยืนยันว่า แฟนบอลส่วนใหญ่เข้าใจ ผมทราบดีว่าในสังคมโซเชียลมีทั้งหวังดีและไม่หวังดี อย่างไรก็ตามผมจะทำอะไรก็แล้วแต่จะยืนอยู่บนหลักข้อมูลและเหตุผล ไม่ใช่เมื่อจบรายการแข่งขันทุกรายการจะต้องปลดโค้ช เปลี่ยนโค้ช มันไม่ใช้เรื่องที่เราทำด้วยความรู้สึกหรือทำตามกระแส ผมไม่ได้ปกป้อง คุณวิทยา หรือคุณวรวุธ ไม่ได้ปกป้องทีมงาน และนักกีฬา แต่เป็นหลักการทำงานของผม ผมพร้อมชี้แจงการทำงาน ตลอดระยะเวลา 2 ปี เพราะฉะนั้นวันนี้บอกเลยว่ายังไม่คิด หรือตัดสินใจใดๆ ทั้งสิ้น ตราบใดที่ยังไม่ได้ฟังเหตุผลจากโค้ชทีมงานผู้ฝึกสอน หรือนักกีฬาก่อน ผมเชื่อว่าแฟนบอลส่วนใหญ่มีเหตุผลและวิจารณญาณ" พล.ต.อ.สมยศกล่าว

Tag :