นิรโทษกรรม “กัญชา” เริ่มเลยวันนี้

by ThaiQuote, 27 กุมภาพันธ์ 2562

ราชกิจจานุเบกษาออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขนิรโทษครอบครองกัญชา ใครมีให้แจ้งขึ้นทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้ หากมีข้อสงสัยโทรสอบถามสายด่วน อย.1556

วันที่ 27 ก.พ. 2562 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นกฎหมายลำดับรองจาก พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ(ฉบับที่ 7) พ.ศ.2562 จำนวน 3 ฉบับ เกี่ยวกับการนิรโทษครอบครองกัญชาใน 3 กลุ่ม ประกอบด้วย

ฉบับแรก คือ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การกำหนดให้ยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชาตกเป็นของกระทรวงสาธารณสุข หรือให้ทำลายกัญชาที่ได้รับมอบจากบุคคล ซึ่งไม่ต้องรับโทษ ตามมาตรา 22 แห่งพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ(ฉบับที่ 7 ) พ.ศ.2562

ฉบับที่ 2 ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการครอบครองยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชา สำหรับผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้เพื่อรักษาโรคเฉพาะตัว ก่อน พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7 ) พ.ศ.2562 ใช้บังคับให้ไม่ต้องรับโทษ

ฉบับที่ 3 ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การแจ้งการมีไว้ในครอบครองกัญชา สำหรับผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา 26/5 และบุคคลอื่นที่มิใช่ผู้ป่วยตามมาตรา 22 (2) ก่อน พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7 ) พ.ศ.2562 ใช้บังคับให้ไม่ต้องรับโทษ กล่าวคือ บุคคลที่ไม่ใช่กลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 ซึ่งทั้ง 3 ฉบับให้มีผลบังคับใช้ในวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ประกาศทั้ง 3 ฉบับให้มีผลบังคับใช้ในวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป คือตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ. 2562 เป็นต้นไป

ส่วนหน่วยงานที่สามารถนำเข้าและส่งออกกัญชาได้มีทั้งหมด 7 กลุ่ม สงวนให้เฉพาะสัญชาติไทย ประกอบด้วย

1. หน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่ศึกษาวิจัย หรือจัดการเรียนการสอนทางการแพทย์ เภสัชกรรม วิทยาศาสตร์ เกษตรศาสตร์ หน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่ป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด สภากาชาด
2. ผู้ประกอบการวิชาชีพเวชกรรม เภสัชกรรม ทันตกรรม สัตวแพทย์ หรือแพทย์แผนไทย หมอพื้นบ้าน ตามเงื่อนไขที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กำหนด
3. สถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่มีหน้าที่ศึกษาวิจัย และจัดการเรียนการสอนด้านการแพทย์หรือเภสัชศาสตร์
4. เกษตรกรที่รวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน หรือสหกรณ์การเกษตรซึ่งจดทะเบียนตามกฎหมายและร่วมกันดำเนินการกับหน่วยงานรัฐ หรือสถาบันอุดมศึกษา
5. ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ
6. ผู้ป่วยเดินทางระหว่างประเทศที่มีความจำเป็นต้องพกพาติดตัวเพื่อใช้รักษาโรค
7. ผู้ขออนุญาตอื่นๆ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

ผู้ขออนุญาตที่ไม่ใช่หน่วยงานรัฐ เป็นบุคคลธรรมดาตัองมีสัญชาติไทยและมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย กรณีเป็นนิติบุคคลต้องจดทะเบียนตามกฎหมายไทย และกรรมการ หุ้นส่วน หรือผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 2 ใน 3 ต้องมีสัญชาติไทยและมีสำนักงานในประเทศไทยเท่านั้น