"ปิยบุตร" อัดนโยบายรัฐ "เลื่อนลอย โลเล และหลอกลวง"
by ThaiQuote, 25 กรกฎาคม 2562
"ปิยบุตร" อภิปราย อัด นโยบายรัฐบาล เลื่อนลอย โลเล และหลอกลวง เป็นผลพวงจาก รัฐธรรมนูญ ปี 60 ซึ่งต้องแก้ไขเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง พร้อมยืนยัน พรรคอนาคต ปรารถนาดีต่อบ้านเมือง และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่น้อยกว่าคนอื่น ออกปากเรียกร้อง นายกเปิดหนทางปรองดองโดยการนำ ผู้ต้องหาคดีการเมือง กลับประเทศ ยึดแนว 66/23
นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ได้อภิปรายในการแถลงนโยบายรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต่อรัฐสภา ว่า นโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา มีลักษณะเลื่อนลอย โลเล และหลอกลวง เพราะขาดการแก้ไขปัญหาแบบเฉพาะเจาะจง ไร้วิธีการปฏิบัติ ทั้งนี้ขอทำนายว่ารัฐบาลจะไม่สามารถนำนโยบายไปปฏิบัติใช้ได้จริง เพราะรัฐบาลปัจจุบันมีส่วนผสมจากหลายพรรคการเมืองหรือเรียกว่าสหพรรค
นายปิยบุตร อภิปรายด้วยว่า ประเด็นนโยบายที่ยากลงลึกคือ การสร้างความมั่นคง ความปลอดภัย และความสงบสุขของประเทศ การปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพราะ การปกครองตามระบอบประชาธิปไตยต้องไม่มีที่อยู่ให้กับการรัฐประหาร และไม่มีที่อยู่ให้กับกองทัพได้อยู่เหนือรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง ดังนั้น หากครม.ชุดนี้ยืนยันว่าจะเดินหน้าต่อไปในการเสริมสร้างการปกครอง จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องช่วยกันไม่ให้มีรัฐประหารเกิดขึ้นอีก และต้องทบทวนประกาศคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ออกมาตามมาตรา 44 ซึ่งคำสั่งออกมาจำนวนมากและกระทบทุกเรื่องไม่ใช่เฉพาะเรื่องการเมือง ต้องมีกระบวนการปรองดองเปลี่ยนผ่านเพื่อให้ประเทศเดินหน้า และต้องแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 279 ว่าด้วยการรับรองประกาศ หรือคำสั่งของคสช.ให้ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ตนเชื่อว่าหากแก้ไขได้ จะทำให้ประเทศคืนสู่ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างยั่งยืน ขณะที่ความขัดแย้งในประเทศลดลง เราจะได้กองทัพที่เป็นมืออาชีพ ได้ศาลที่กลับมาสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม
ในส่วนของ ความรักชาติ ขอให้อย่ามองว่าพรรคการเมือง นักการเมือง และประชาชน ที่เห็นไม่ตรงกับท่านเป็นคนไม่รักชาติ แต่เพราะรักมากจึงต้องวิพากษ์วิจารณ์เพื่อให้เกิดสิ่งที่ดี ครม.เป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งของชาติ และองค์ประกอบหนึ่งของการใช้อำนาจบริหาร ดังนั้น อย่าตั้งข้อหาเรื่อง ชังชาติต่อกัน ไม่เช่นนั้นประเทศจะเดินหน้าไม่ได้
"พรรคอนาคตใหม่มีความปรารถนาดีต่อบ้านเมือง และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ได้น้อยไปกว่าพวกท่านและไม่ได้น้อยไปกว่าคนที่กล่าวหาพวกเรา แต่การแสดงออกของแต่ละคนอาจจะมีความแตกต่างกัน ทว่าพวกเราไม่ได้ต่างกับพวกท่าน พวกเราไม่ได้มีความคิดล้มล้างและไม่ได้มีความคิดรุนแรง เราต้องการให้บ้านเมืองกลับมาสู่ระบบประชาธิปไตยและนิติรัฐให้ได้ เราต้องการร่วมกันสร้างฉันทามติร่วมกันเพื่อพาบ้านเมืองออกจากความขัดแย้งเสียที เราไม่ได้คิดตั้งตนเป็นศัตรูกับกองทัพ แต่เราไม่สนับสนุนให้มีการรัฐประหารโดยกองทัพ เราไม่ต้องการให้รัฐบาลพลเรือนไปอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาดูแลของกองทัพเท่านั้น เราต้องการกองทัพที่เป็นอาชีพ และเราต้องการมาตรฐานกระบวนการยุติธรรมที่เท่าเทียมกัน" นายปิยบุตร กล่าว
นอกจากนี้ พรรคอนาคตใหม่สนับสนุนอย่างเต็มที่ให้แก้รัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ขาดความเป็นประชาธิปไตย ทั้งเรื่องของที่มาและเนื้อหา จึงต้องร่างใหม่ทั้งฉบับ และต้องทำอย่างจริงจังไม่เลื่อนลอย เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้เหมือนกับดักที่พร้อมระเบิด หากอยากให้บ้านเมืองเดินไปได้ต้องทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตนอยากให้ทุกฝ่ายร่วมกันเชิญวิญญาณรัฐธรรมนูญ 40 กลับมา หยุดการแก้แค้นเอาคืนเหมือนรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับที่ผ่านมา
นายปิยบุตร กล่าวอีกด้วยว่า ในประเด็นการสร้างความปรองดองตามนโยบายของรัฐบาล ช่วงหนึ่งว่า มีผู้คิดเห็นทางการเมืองแตกต่างจากรัฐบาลยึดอำนาจ เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 หลายคนลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ ซึ่งคนเหล่านั้น ล้วนเป็นคนไทยทั้งสิ้น
"ยกตัวอย่างนโยบาย 66/23 ว่าเป็นนโยบายที่ชาญฉลาดของรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ จนสามารถนำไปสู่ความปรองดองได้สำเร็จ ฉะนั้นจึงขอฝากผ่านท่านประธาน ไปยังนายกรัฐมนตรี ให้พานักโทษทางการเมืองกลับคืนสู่ประเทศ ทั้งนี้การพากลับประเทศนั้น รัฐบาลจะต้องมีหลักประกัน ในเรื่องของคดีความต้องตีเป็นคดีการเมือง"นายปิยบุตร กล่าว