ส่องผลงาน “ติดดาว”รัฐบาลลุงตู่ (1)

by ThaiQuote, 22 ธันวาคม 2558

สำหรับผลงานในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์จาก 5 กลุ่มหลักที่น่าสนใจ เริ่มที่กลุ่มงานที่ 1 คือกลุ่มงานด้านความมั่นคง  ที่น่าสนใจและยกมาเป็นกรณีตัวอย่างได้แก่เรื่องของปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ พบว่าเหตุความรุนแรงลดลงอย่างเห็นได้ชัด จากเดิมเมื่อปี 57 เกิดเหตุระเบิดรวม 325 ครั้ง แต่ปี 58 (ตั้งแต่ม.ค.ถึง 29 ก.ค.) เกิดเหตุระเบิดรวมเพียง 167 ครั้งโดยปัตตานีเหลือแค่ 40 ครั้ง ยะลา 87 ครั้ง นราธิวาส 37 ครั้ง สงขลา 3 ครั้ง จากเดิมปี 57 ปัตตานี 109 ครั้ง ยะลา 79 ครั้ง นราธิวาส 136 ครั้ง สงขลา 1 ครั้ง
                ต่อประเด็นดังกล่าวรัฐบาลโดยพล.อ.ประยุทธ์เคยกล่าวว่า ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นปัญหาที่ทับซ้อนมานานจึงต้องปรับโครงสร้างให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาถ้ารัฐบาลใช้การปราบปรามอย่างเดียวจะทำให้มีคนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมากกว่านี้ แม้ปัจจุบันสถิติการก่อเหตุการณ์ และการสูญเสียจะลดลงก็ตาม

                กลุ่มถัดมาคือ กลุ่มงานด้านกระบวนการยุติธรรม ภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 ด้านที่ถูกวางไว้ตั้งแต่รัฐบาลเข้าบริหารประเทศ อาทิเช่น ด้านการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ด้วยการส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกระบวนการยุติธรรมจึงได้บูรณาการร่วมกับกระทรวงมหาดไทยโดยศูนย์ดำรงธรรม ในการจัดตั้งศูนย์ยุติธรรมชุมชนนำร่องในที่ตั้งขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 312 ศูนย์ ในพื้นที่ 18 จังหวัด และมีแผนจะจัดตั้งต่อเนื่องให้ครบทุกตำบลจำนวน 7,256 ศูนย์ หรือจะเป็นในเรื่องของานการสร้างสังคมแห่งความปลอดภัย กระทรวงยุติธรรมได้ปฏิรูปการฟื้นฟูผู้กระทำผิดด้วยการเสนอแก้ไขกฎหมายพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.. ๒๔๗๙ และพระราชบัญญัติคุมประพฤติ พ....

ด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ด้านการปราบปรามนั้นมีการยกระดับโดยความร่วมมือกับต่างประเทศโดยเน้นการแก้ปัญหาพื้นที่ผลิตยาเสพติด การลักลอบขนสารเคมีภัณฑ์ และการดำเนินการทางการข่าว  ขณะที่การปราบปรามภายในประเทศ มีการบูรณาการการปฏิบัติของฝ่ายพลเรือน ตำรวจ และทหาร ทั้งในด้านการสกัดกั้นโดยมีแผนปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติดตามเส้นทางคมนาคม การปราบปรามการแพร่ระบาด การดำเนินการตามเรื่องร้องเรียน การสืบสวนทางการเงิน การเอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ไปทาผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และการปราบปรามการแพร่ระบาดยาเสพติดในเรือนจำ สำหรับผลการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยในปี 2558 (ต.ค.57-ก.ค.58) สามารถจับกุมผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติดได้ 47,966 คน เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2557 (ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.56 - 30 ก.ย. 57) สามารถจับกุมคดียาเสพติดในภาพรวม 345,774 คดี ผู้ต้องหา 364,587 ราย

เรื่องการป้องกันและขจัดปัญหาการคอรัปชั่น นับจากรัฐบาลเข้าบริหารประเทศได้มีการประกาศให้เรื่องของปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นเป็นวาระแห่งชาติ เหตุเพราะไทยติดอันดับที่ถูกจัดในเวทีโลกพร้อมทั้งมีการรณรงค์ต่อต้านในเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง นอกจากนี้รัฐบาลยังได้จัดตั้งคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นของทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม เข้าด้วยกัน โดยจะทำงานควบคู่ไปกับคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ ที่จะมุ่งเน้นในเรื่องของการปฏิบัติของหน่วยงานภาครัฐ

นอกจากนี้ยังได้วางกรอบการทำงานออกเป็น 4 ด้านหรือนโยบาย 4 ป. คือ ด้านการป้องปราม เป็นการวางมาตรฐานการป้องกันต่าง ๆ เช่น การแก้ไขระเบียบจัดซื้อจัดจ้าง การนำมาตรการจัดซื้อจัดจ้างสากลมาประยุกต์ใช้ ข้อตกลงสัญญาคุณธรรม (Integrity Pact) และ การแก้ไขกฎหมายต่าง ๆ เช่น เพิ่มบทลงโทษให้ครอบคลุมทั้งผู้ให้และผู้รับ เพิ่มมาตรการดำเนินการกับข้าราชการที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชั่น และการปฏิรูปโครงสร้างรัฐวิสาหกิจเพื่อป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น ด้านการปราบปราม ทั้งยังได้เร่งรัดติดตามความคืบหน้าของคดีทุจริตคอร์รัปชั่นหลายคดี ที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติเพื่อให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว

ต่อกรณีดังกล่าวนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่าหลังจากคสช.เข้ามาเป็นรัฐบาลสู่ปีที่สองพบว่าตัวเลขปัญหาการทุจริตคอรัปชัน ลดลงกว่า 3.4% เหลือประมาณ 15-20% จากเดิมที่อยู่ 30-35% และภาคประชาชนมีส่วนร่วมได้มากขึ้นถือเป็นสัญญาณที่ดีมาก และรัฐบาลเองก็ให้ความสำคัญกับปัญหาการทุจริตคอรัปชัน หวังว่าในปีหน้าตัวเลขการทุจริตคอรัปชันจะลดลงเหลือไม่เกิน 2 แสนล้านบาท และหวังว่าดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์ปัญหาคอร์รัปชันหรือซีพีไอของประเทศไทยในปีนี้ เมื่อเทียบกับประเทศทั่วโลกจัดทำโดยองค์กรโปร่งใสนานาชาติจะจัดให้ไทยรั้งอยู่ในลำดับที่ดีขึ้น 40 จาก 175 ประเทศ

เรื่องราวของผลงานรัฐบาลยังไม่จบ ตอนหน้าจะเป็นเรื่องในหมวดกลุ่มใดต้องติดตามกันต่อ สำหรับการติดดาวผลงานลุงตู่

ที่มา : Thaiquote