ขยายเส้นทางรถไฟฟ้าสีม่วง ข้อเสนอที่น่าคิด

by ThaiQuote, 4 กุมภาพันธ์ 2559


รถไฟฟ้า สายสีม่วง (ช่วงบางใหญ่ –เตาปูน) ที่ชาวนนทบุรี รอคอยมายาวนาน เกือบ 8 ปี นับตั้งแต่เริ่มต้นก่อสร้างราวเดือน พฤศจิกายน 2552 และ คาดว่า จะเปิดให้บริการได้ในราวเดือนสิงหาคม 2559 นิ้ แต่เมื่อใกล้กำหนดของการเปิดเดินรถอย่างเป็นทางการ หลายฝ่ายเริ่มหันกลับมาพิจารณาทบทวนอีกครั้งว่า รถไฟฟ้าสายนี้ ในปัจจุบันอาจสั้นเกินไป เมื่อทิศทางการขยายตัวของเมือง เริ่มมีรัศมีออกไปไกลมากกว่าเดิม  

                การขยายตัวของเมือง ส่งผลให้เกิดโครงการหมู่บ้านจัดสรรเป็นจำนวนมาก และมีพื้นที่หลายอำเภอของจังหวัดนนทบุรีต่อเนื่องจังหวัดปทุมธานี อันเป็นแนวถัดจากสถานีสุดท้ายของรถไฟฟ้าสายสีม่วง (คลองบางไผ่)  จากที่เคยเป็นพื้นที่ว่างเปล่า เป็นพื้นที่เกษตร กลายสภาพเป็นพื้นที่เมือง ถัดออกไป ยังเป็นพื้นที่อุตสาหกรรม ที่มีความต้องการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่อย่างรถไฟฟ้า ซึ่งกลายมาเป็นเสียงเรียกร้องให้ภาครัฐพิจารณาต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีม่วงออกไปโดยควรบรรจุเป็นหนึ่งในโปรเจ็กต์การลงทุนภายใต้รัฐบาลชุดนี้

                เกี่ยวกับแนวคิดดังกล่าว “นายภัสพลภ์ ชัยสุริยาทวิกุล”  ประธานหอการค้าจังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้เคียงกับจุดสิ้นสุดรถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดเผยกับ “THAIQUOTE” ว่า “รถไฟฟ้าสายสีม่วงนี้ ถ้าขยายมาได้ก็ดี เพราะในพื้นที่ของจังหวัดปทุมธานีฝั่งตะวันตกเองก็มีการขยายเมืองออกไปมาก โดยเฉพาะมากจากทางฟากจังหวัดนนทบุรี ที่เร็วๆ นี้ก็จะมีโครงการการต่อขยายถนนราชพฤกษ์ มาถึงเขตจังหวัดปทุมธานี ส่งผลให้เกิดการขยายตัวของหมู่บ้านจัดสรรในพื้นที่ซึ่งใกล้เคียงรถไฟฟ้าสายสีม่วงเป็นจำนวนมาก

                ทั้งนี้ จึงอยากเสนอให้มีการต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีม่วงจากเดิมที่สิ้นสุดที่บางใหญ่-บางบัวทอง ให้มาถึงแยกลาดหลุมแก้ว โดยยึดเอาแนวเส้นทางหมายเลข 9 ถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวน) ที่จะมาถึงแยกลาดหลุมแก้วได้ เพื่อรองรับกับการขยายตัวของอุตสาหกรรม และหมู่บ้านจัดสรร รองรับกับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นในอนาคต ของพื้นที่จังหวัดปทุมธานีฝั่งตะวันตก”  

ขณะที่ “นาย สุริยัน บุญยมโนนุกุล” ประธานหอการค้าจังหวัดนนทบุรี กล่าว  กับ “THAIQUOTE” ว่า “ทางหอการค้าเคยเสนอไปยังรัฐบาลก่อนๆ ว่ารถไฟฟ้าสายนี้ ควรจะขยายไปถึงแยกไทรน้อย ซึ่งจะเลยจากสถานีสุดท้ายคลองบางไผ่มาอีกประมาณ 4-5 กิโลเมตร ซึ่งหากมีการขยายเส้นทางมาถึงสี่แยกไทรน้อย และเลี้ยวขวา ไปทาง  5 แยกปากเกร็ด เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู  เพราะรถไฟฟ้าสายสีชมพูสามารถผ่านไปยังเมืองทองธานี –ศูนย์ราชการ -ถนนวิภาวดีฯ –ใกล้ท่าอากาศยานดอนเมือง และข้ามไปยังกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกที่มีนบุรี ซึ่งจะทำให้ระบบคมนาคมครบวงจรมากยิ่งขึ้น

โดยก่อนหน้านี้เคยมีการนำเสนอและมีการให้ทางหอการค้าไปสำรวจเส้นทางในแถบแยกทางหลวงสาย 345 ซึ่งเลยจากแยกไทรน้อยไปเล็กน้อย พบว่ามีความเหมาะสมสำหรับการสร้างสถานีใหญ่ของรถไฟฟ้า เพราะเป็นพื้นที่ชุมทางในการเชื่อมต่อรัศมี 5 จังหวัด คือ จังหวัดสุพรรณบุรี นครปฐม อยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี และเลยจากสถานีบางไผ่ออกไปราว 5-6 กิโลเมตรเท่านั้น

และทางแถบนั้นก็กลายเป็นหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่ รวมทั้งส่วนราชการสำคัญๆ อย่าง ที่ว่าการอำเภอใหม่บางบัวทอง สถานีตำรวจบางบัวทอง รวมถึง ยังเป็นพื้นที่ซึ่งมีภาคเอกชนไปลงทุนทำโกดัง และออฟิศมาขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีม่วงนั้นจะเกิดประโยชน์ต่อการคมนาคมของประชาชนเป็นจำนวนมาก

ในปัจจุบันนี้ หากมองจากประชากรเฉพาะจังหวัดนนทบุรี ที่มีการแจ้งตามระบบนั้นก็มีอยู่กว่า 1.2 ล้านคน และยังมีจำนวนประชากรแฝงอีกราว 5-6 แสนคน ถือว่ามีประชากรค่อนข้างหนาแน่น หากมีการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วงก็จะทำให้นนทบุรีฝั่งตะวันตกมีระบบการคมนาคมที่สะดวกขึ้น และเป็นการรองรับกับจำนวนประชาชนในอนาคต ที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในทุกๆ ปี”  

                นอกจาก แนวการขยายตัวของเมือง ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นเหตุผลสำคัญ ที่รัฐบาลควรหันกลับมาพิจารณาถึงเส้นทางต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีม่วงแล้ว เรื่องของการลงทุนต่อเนื่องในรูปแบบของ ระบบโครงสร้างพื้นฐานก็ยังคงเป็นอีกเหตุผลสำคัญ ที่ควรจะมีการพิจารณาขยายรถไฟฟ้าสายนี้

                นั่นคือรัฐบาลได้อนุมัติโครงการมอเตอร์เวย์ ที่เชื่อมต่อเส้นทางสำคัญ อย่างเส้นทางบางใหญ่ –กาญจนบุรี อันเป็นเส้นทางสำคัญแห่งการค้าการลงทุนในส่วนเมกะโปรเจ็กต์ท่าเรือทวาย ซึ่งก็กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า แม้ว่าจะมีเส้นทางแยกออกจากแนวรถไฟฟ้าไปทางตะวันตก แต่ในด้านทิศเหนือของสถานีบางไผ่ สถานีสุดท้ายแห่งรถไฟฟ้าสายสีม่วง ถึง อำเภอบางบัวทอง และไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี  และข้ามไปยังจังหวัดปทุมธานี และอำเภอ บางปะอิน อำเภอวังน้อย ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพื้นที่อยู่อาศัย และเป็นพื้นที่อุตสาหกรรม ที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นเส้นทางต่อเนื่องจาก รถไฟฟ้าสายสีม่วงสายนี้

                รวมถึงรถไฟฟ้าชานเมือง สายบางซื่อ –ตลิ่งชัน ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และ การเปิดใช้ของระบบทางด่วน “ศรีรัช – วงแหวนรอบนอก ที่จะเปิดใช้ในช่วงใกล้เคียงกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง คือราวกลางปี 2559 ซึ่งก็จะเป็นอีกเส้นทางสำคัญ ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการพิจารณาต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีม่วงออกไปทางทิศเหนือ เพราะทั้งหมดจะเป็นระบบคมนาคมที่รองรับกับการขยายของเมือง และรองรับกับการเดินทางจากชานเมือง และจังหวัดใกล้เคียงในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของภาคกลาง เข้าสู่กรุงเทพมหานคร

                นอกจากนี้เมื่อพิจารณาเส้นทางของรถไฟฟ้าสายสีม่วง ที่ยังมีส่วนต่อขยายที่ดำเนินการแล้ว ไปทางใต้ ช่วงระหว่างเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ เท่ากับว่า หากเกิดโครงการต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีม่วง จาก บางใหญ่ ไปทางด้านเหนือ แล้วเชื่อมกับเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่ปากเกร็ดได้จริง  จะกลายเป็นแนวคมนาคมแบบครบวงจร ครอบคลุมด้านตะวันตกของเมืองหลวงทั้งหมดเป็นแนวเดียวกัน อย่างสมบูรณ์แบบ

                ทั้งหมดนี้เป็นเหตุผลประการสำคัญที่รัฐบาล ควรนำเอากลับไปเป็นการบ้าน เพื่อพิจารณาขยายเส้นทาง ภายในระยะเวลาของรัฐบาลนี้ ที่ตามโรดแม็ป ถือว่า “ยังพอมีเวลาสำหรับการเก็บเกี่ยวเอาเสียงเรียกร้องนี้ไปพิจารณา” และอาจจะกลายมาเป็น “ผลงานชิ้นโบแดง” ที่สร้างไว้ให้กับประชาชนในพื้นที่ ปริมณฑล ทั้ง นนทบุรี และ ปทุมธานี ตลอดจนจังหวัดใกล้เคียงในรัศมีส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีม่วง ในส่วนภูมิภาคอีกหลายจังหวัด  ที่เมื่อรวมจำนวนประชากรแล้ว ประเมินคร่าวๆ ว่า น่าจะไม่น้อยกว่า 3 ล้านคน  ที่จะได้รับประโยชน์จากโครงการนี้