แม่สปายยอมรับเล่นเฟซลูก พบเงินเพิ่มอีก 2.1 ล้านในบัญชีจาก “เสี่ยอ้วน”

by ThaiQuote, 26 สิงหาคม 2561

น.ส.วันเพ็ญ แม่ของสปาย เปิดเผยว่า ยอมรับว่าเป็นคนใช้เฟซบุ๊กของลูกจริง ซึ่งเริ่มเล่นตั้งแต่น้องเสียชีวิตแล้ว ซึ่งที่ต้องออนและเล่นเฟซของน้อง เพราะอยากรู้ว่าใครยืมเงินน้องของสปายไปบ้าง โดยขอให้มีการทะยอยคืนเงิน และจะได้นำเงินไปเก็บไว้ใช้ทำบุญให้แก่น้อง ส่วนมูลค่าเท่าไรตนไม่ขอตอบ แต่ส่วนใหญ่ก็มีรายละ 1,000 บาทไปจนถึง 10,000 บาท ทั้งนี้ขอยืนยันด้วยว่า การออนไลน์เฟซบุ๊กส่วนตัวลูกสาวนั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์อื่น พร้อมปฏิเสธว่า ก่อนหน้านี้ตนไม่เคยยุ่งหรือเล่นเฟซบุ๊กของสปาย ในการคุยอะไรกับเสี่ยอ้วน และเงินที่สร้างก็ไม่ใช่ของเสี่ยอ้วน เป็นของแม่ทั้งหมด เว้นแต่เงินที่ใช้ของเสี่ยอ้วนก็คือ เงินที่โอนมาให้ซื้อรถ เพราะเสี่ยอ้วนได้จัดการเองทั้งหมด โอนเงินมาให้ไปรับรถเท่านั้น ส่วนที่เหตุผลทำไมถึงรับรถไว้ใช้ ทั้งที่สปายก็ยังไม่เป็นอะไรกับเสี่ยอ้วนขอไม่ตอบ เพราะจะเกี่ยวข้องกับคดีความ หลังจากนี้ หากเสี่ยอ้วนจะฟ้องครอบครัวฐานฉ้อโกง ก็ตอบยืนยันหลังจากพ่อให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่ามีทนายส่วนตัวเตรียมไว้ หากฟ้องมาก็พร้อมต่อสู้คดี และยินดีที่ทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ จะเข้ามาช่วยทางคดี และครอบครัวมีความยินดี ไม่ขัดข้องอะไร หากฟ้องร้องกันขึ้นมา ก็จะทำให้มีคนเก่งๆทางกฏหมาย 2 คนเข้ามาทำงานร่วมกัน ส่วนกระแสสังคมและให้ครอบครัวคืนเงินก่อนเริ่มฟ้องคดีนั้น แม่สปาย บอกว่า ขอให้ว่ากันในชั้นศาล เพราะเขาก็ถือว่าแลกกับชีวิตน้องไปแล้ว ส่วนตัวก็เชื่อว่าถ้าจะฟ้องว่าครอบครัวฉ้อโกง ควรทำตั้งแต่ตอนนั้นยังไม่ตาย ไม่ใช่ตายแล้วค่อยออกมาฟ้อง น.ส.วันเพ็ญ กล่าวต่ออีกว่า ไม่คุ้มเลยกับเงินที่ได้ เพราะลูกสาวแม่มีค่ามากกว่า 7 ล้านด้วยช้ำ และความเป็นจริงยอดเงินในบัญชีก็ไม่ถึง 7 ล้านบาท แต่ไม่สามารถพูดอะไรได้ ขอเอาไปคุยกันในชั้นศาลเท่านั้น ซึ่งแม่ได้ให้พ่อไปติดต่อกับธนาคาร ดำเนินการด้านเอกสารครบถ้วนแล้ว ส่วนที่ตนเองบอกกับสื่อตอนแรกว่า เงินมีเพียง 1 ล้านบาทนั้น ยอมรับว่า เกิดจากความเข้าใจผิด ไม่มีเจตนาปิดบังอะไร เพราะครั้งแรกเห็นเพียง 1 ล้านบาท และเมื่อนำบัญชีไปอัป กลับพบว่ามีเงินเข้ามาร่วม 2,100,000 บาท ตามที่พ่อให้สัมภาษณ์ไป ส่วนตัวยังตั้งข้อสงสัยว่าในบัญชีดังกล่าว จะไม่มีเงินส่วนของสปายเลยหรือไง เช่น เงินเดือน เป็นต้น ดังนั้นจึงไม่ทราบว่ายอดทั้งหมดในบัญชีมีอะไรบ้าง แต่ขอนำข้อมูลทั้งหมดส่งให้ทนายความไปสู้กันในชั้นศาล ขณะที่ การเดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นของครอบครัว ใช้เงินของเสียอ้วนหรือไม่นั้น แม่สปาย บอกว่า เงินมาจากไหนตนเองรู้อยู่แก่ใจ แต่ก่อนรู้จักกับเสี่ยอ้วนพ่อแม่ก็มีเงินเก็บอยู่แล้ว ประกอบกับช่วงที่ผ่านมา สปายอยากพาพ่อแม่ไปเที่ยว ซึ่งแม่บอกว่า มีค่าใช้จ่ายสูงไม่อยากไป สปายจึงอาสาจ่ายเงินให้ แต่ก็ไม่ทราบว่าเงินดังกล่าวมาจากไหน มีเพียงลูกสาวที่ตอบว่า เป็นเงินส่วนตัวที่ทำงานมา ซึ่งค่าตั๋วเครื่องบินก็ลดราคาในขณะนั้นด้วย ส่วนการให้สัมภาษณ์ของพ่อสปาย ที่พูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างฟอส-สปายว่ามีความลึกซึ้ง ทั้งสองบ้านรู้กันดี เกิดอะไรขึ้นนั้น แม่บอกว่า ยืนยันเด็กสองคนเป็นเพื่อนที่มีความสนิทสนมกัน ไปไหนมาไหน กอดคอเป็นเรื่องธรรมดา และความสัมพันธ์ที่เกินเลย ยอมรับว่าไม่มี เพราะนิสัยของสปาย หากมีเรื่องอะไรจะบอกแม่ทุกเรื่องไม่มีปิดบัง ดังนั้นเรื่องนี้จึงเชื่อว่าสองคนไม่ใช่คนรักกันแน่นอน ขอขอบคุณข้อมูล อัมรินทร์ทีวี
Tag :