พปชร. ลุย อุบลฯ ชูนโยบายช่วยรากหญ้า

by ThaiQuote, 2 มีนาคม 2562

“อุตตม” นำทัพ อ้อนชาวอุบลฯ “ปัดค้ามนุษย์” ชี้ เขาย้ายมาเพราะเบื่อความขัดแย้ง ด้าน “สุพล ฟองงาม”สำนึกผิดทำบ้านเมืองเสียหาย ป้อง “ลุงตู่” ยึดอำนาจ เพราะทุกฝ่ายทะเลาะไม่เลิก


วันนี้ (2 มี.ค.62) ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี พรรคพลังประชารัฐ นำโดยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาตร์การเลือกตั้งภาคกลาง นายสุพล ฟองงาม แกนนำจังหวัดอุบลราชธานี และ น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี หรือ มาดามเดียร์ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เปิดเวทีปราศรัยกับประชาชนกว่า 15,000 คน

นายอุตตม ปราศรัย ว่า “อนาคตของประเทศอยู่ในมือของพี่น้องประชาชน การเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย พี่น้องทราบแล้วว่า อะไรเกิดขึ้นในประเทศในช่วงที่ผ่านมา แต่วันนี้เราต้องมองไปข้างหน้าด้วยกัน เพื่อให้มั่นใจว่าประเทศไทยต้องสงบ คนไทยมีความสุขอย่างแท้จริง ที่สำคัญต้องมีอนาคตที่สดใส เกษตรการต้องมีความเป็นอยู่ที่ดี ไม่ใช่ลุ่มๆดอนๆ พรรคพลังประชารัฐเกิดใหม่ได้ 4 เดือน แต่พวกเราสู้ และทำเต็มที่ วันนี้เพราะความกรุณาจากพี่น้องจึงทำให้พรรคมีพลัง พรรคพลังประชารัฐไม่มีใครเป็นเจ้าของ ไม่มีใครสั่งการ เป็นการรวมตัวกันของคนจากหลากหลายฝ่ายที่มีความตั้งใจอยากเห็นบ้านเมืองไปข้างหน้า มีคนจากพรรคอื่นขู่ฟ้องผมกับพรรคพลังประชารัฐกล่าวหาว่าค้ามนุษย์ เพราะไปซื้อตัวคนอื่นจากพรรคอื่นมา ทั้งที่ไม่เป็นความจริง คนที่เข้ามาด้วยใจ และต้องการก้าวข้าวความขัดแย้ง ซึ่งพรรคพลังประชารัฐถือเป็นกุญแจสำคัญ ในการเดินไปสู่จุดนั้น เพราะวันนี้เราเรียนรู้จากอดีตเพื่อเดินต่อไปข้างหน้า บ้านเมืองสงบ ปรองดอง”



นายอุตตม กล่าวอีกว่า “หากพี่น้องให้โอกาสพรรคพลังประชารัฐเข้าไปบริหารประเทศ พรรคจะขับเคลื่อนนโยบายต่างๆเพื่อพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะภาคการเกษตรอย่างชาวนา ด้วยการช่วยค่าเก็บเกี่ยวไร่ละ 2000 บาท จำนวน 20 ไร่ เพิ่มบัตรประชารัฐให้คนไทย 14.5 ล้านใบ แต่ยังมีคนที่ตกสำรวจอีก 2-3 ล้านคน เราจะออกบัตรให้ทันที เพื่อให้เข้าถึงสวัสดิการที่จำเป็น แม้ไม่ได้ทำให้ร่ำรวย แต่สามาารถช่วยในการดำรงชีวิต นอกจากนั้นจะขยายบัตรประชารัฐไปสู่กลุ่มคนไทยคนอื่น ๆที่จำเป็น พักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 3 ปี โครงการมารดาประชารัฐ ที่ดูแลตั้งแต่ต้นทาง เพราะเด็กที่อยู่ในครรภ์มารดาเป็นช่วงสำคัญ ด้วยการดูแลตั้งแต่ตั้งครรภ์ เดือนละ 3,000 บาท 9 เดือน ช่วยค่าคลอด 10000 บาท ค่าเลี้ยงดูจนถึง 6 ปี เดือนละ 2 พันบาท รวม181,000 บาท โดยยืนยันว่า นโยบายของเราให้กับการตั้งครรภ์ทุกครั้ง เพราะคือการลงทุนสำหรับอนาคตประเทศ ซึ่งทุกนโยบายทำได้จริง ทำได้ทันที”

นายสุพล ปราศรัยว่า “ก่อนที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเข้ามาบริหาร เกิดเหตุการณ์ความรุนแรง ทั้งการปิดถนน เผาบ้านเผาเมือง ล้มการประชุมอาเซียน ยึดสนามบิน เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงระหว่างประชาชนสองฝ่าย นำไปสุ่การบาดเจ็บล้มตาย วนเวียนเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี ตนอยู่ในบ้านหลังนั้นเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง จึงตัดสินใจ ออกมาเพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้า ก้าวข้ามความขัดแย้ง บ้านเมืองต้องสงบ และปรองดอง วันนี้สำนึกผิดที่ทำให้บ้านเมืองเสียหาย จึงขอโทษพี่น้องประชาชนด้วย และขอชี้แจงว่าอย่าไปหลงวาทกรรมที่ใช้โจมตีพรรพลังประชารัฐ โจมตีรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ อย่าไปโทษคนปฏิวัติ แต่ต้องโทษคนสร้างปัญหาจนนำมาสู่การปฏิวัติ ถ้าเสื้อเหลือง เสื้อแดง ไม่ตีกัน พล.อ.ประยุทธ์ จะยึดอำนาจหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้สืบทอดอำนาจ เพราะขณะนี้อำนาจอยู่ในมือพี่น้องประชาชนในการกำหนดอนาคตประเทศ จะเลือกใครก็เป็นสิทธิ แต่หากเลือกพรรคเดิม บ้านเมืองก็จะเป็นแบบเดิม ดังนั้นขอให้มาช่วยกันนำพาประเทศออกจากความขัดแย้ง”

สำหรับ สุพล ฟองงาม นั้นเป็นลูกหลานชาวอุบลฯ อดีตเป็นถึง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และเป็นหนึ่งในอดีตแกนนำแนวร่วมเผด็จการเพื่อประชาธิปไตยในภาคอีสาน เป็นแกนนำกลุ่มชักธงรบ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ จ.อุบลราชธานี ร่วมกับ นาย ชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ เป็นหนึ่งในผู้ที่ ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ออกหมายเรียกเนื่องจากอาจมีส่วนรู้เห็นกับการเผาสถานที่ราชการ(ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ฯลฯ)ในขณะนั้น