“13 หมูป่า” ตั้งบริษัท ดึง “บุ๋ม” ดูแลผลประโยชน์

by ThaiQuote, 4 มีนาคม 2562

รัฐบาลสนับสนุนให้ 13 หมู่ป่า จัดตั้ง “บริษัท 13 ถ้ำหลวง จำกัด ชี้ต้องมีนิติบุคคลจัดการให้เป็นระบบ


นับเป็นข่าวฮือฮาและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมาอีกครั้งเมื่อทีม 13 หมูป่าอะคาเดมี่จัดตั้ง “บริษัท 13 ถ้ำหลวง จำกัด ” โดยได้แจ้งว่า เพื่อจัดการและรักษาผลประโยชน์ของน้องๆ ทั้ง 13 คน และแจ้งว่าจะนำผลประโยชน์ที่ได้มาช่วยเหลือสังคมในทุกด้าน เพราะน้องๆ 13 ได้ชีวิตใหม่จากคนทั้งโลก

โดยทางเฟซบุ๊กของวัดพระธาตุดอยเวา ต เวียงพางคำ อ แม่สาย จ เชียงราย ได้โพสต์ว่า “ต้องขอขอบคุณและอนุโมทนาบุญทุกท่านที่มีความห่วงใยในการจัดตั้งบริษัท13ถ้ำหลวงจำกัด จริงแล้วการจัดตั้งบริษัท13ถ้ำหลวง เป็นความประสงค์ของคณะกรรมสื่อสร้างสรรค์ กระทรวงวัฒนธรรม เพื่อรักษาผลประโยชน์ของน้องๆ13คน เพื่อที่จะนำผลประโยชน์ตอบแทนสังคม ซึ่งในขณะนี้ได้จัดตั้งบริษัทแล้วใช้ชื่อว่า. บริษัท 13ถ้ำหลวง จำกัด ฃ

โดยมี เอกพล จันทะวงค์ เป็นประธานบริษัทผู้ปกครอง 4 ท่านเป็นคณะกรรมการ น้องๆ 12 คน เป็นผู้ถือหุ้น คุณบุ๋มปนัดดา และคุณแคนดี้ เป็นผู้จัดการ คณะกรรมการที่รัฐบาลมอบหมายอีก 3 ท่านเป็นคณะกรรมการ พระครูประยุตเจติยานุการ ที่ปรึกษา ซึ่งรายละเอียดทุกอย่างทางรัฐบาลโดยท่านรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมและน้องๆ ผู้ปกครองน้องจะเปิดแถลงข่าวถึงที่มาที่ไปและวัตถุประสงค์รายละเอียดที่ชัดเจนในเวลาอันใกล้นี้ เพื่อไห้ทุกคนทุกท่านได้รับทราบ หากมีสิ่งหนึ่งประการใดที่ท่านทั้งหลายไม่สบายใจต้องขออภัยด้วย สาธุอนุโมทนา”

 

นอกจากนี้เมื่อวันที่ 3 มี.ค.62 ที่บริเวณหน้าถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย "บุ๋ม"ปนัดดา วงศ์ผู้ดี พิธีกรชื่อดัง และแคนดี้ รากแก่น หมอลำชื่อกระฉ่อน พร้อมนักฟุตบอล 13 หมูป่า ร่วมจุดธูปเทียน วางดอกไม้เซ่นไหว้เจ้าแม่นางนอน และทำพิธีไหว้บอกกล่าวรูปปั้นจ่าแซม น.ต.สมาน กุนัน อดีตนักทำลายใต้น้ำจู่โจม หรือหน่วยซีล ที่สละชีพกลางถ้ำหลวง ในภารกิจช่วยเหลือ 13 หมู่ป่าติดถ้ำ ที่หน้าพิพิธภัณฑ์ถ้ำหลวง

ก่อนจะเดินทางไปที่วัดพระธาตุดอยเวา ทำพิธีทอดผ้าบังสุกุลแผ่ส่วนบุญกุศลให้จ่าแซม และพันผ้ารอบพระธาตุดอยเวา พร้อมกับทำพิธีตัดริบบิ้นเปิด "บริษัท 13 ถ้ำหลวง จำกัด" เพื่อดูแลรักษาสิทธิประโยชน์ ของ 13 หมูป่า ซึ่งผลประโยชน์หรือรายได้ที่ได้รับมาจะนำไปใช้จ่ายในส่วนของการศึกษา การซ้อมบอล ปั่นจักรยาน ตลอดจนส่งเสริมให้ 13 หมูป่าได้เดินไปตามฝันของแต่ละคน เพราะนี่เป็นความปรารถนาของคนทั้งโลกที่อยากเห็นทุกคนเติบโตมามีอนาคตที่ประสบความสำเร็จ

โดยการจัดตั้งบริษัทนี้ทางรัฐบาลได้เป็นที่ปรึกษามาโดยตลอด ตนเองเป็นเพียงผู้เข้ามาคอยให้ความช่วยเหลือดูแลการจัดการต่างๆ ให้เป็นระบบ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เป็นระบบ ทำให้หมูป่าทั้ง 13 คนได้รับผลกระทบ

ด้าน พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกคณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์ เปิดเผยว่า การจัดตั้งบริษัทฯรัฐบาลได้ให้คำแนะนำและอำนวยความสะดวก เนื่องจากมองว่า 13 หมูป่าและครอบครัวควรมีนิติบุคคลมาดูแลเรื่องผลประโยชน์ และการดำเนินการได้ปรึกษากับ สำนักงานอัยการสูงสุด กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์แล้ว

ทั้งนี้แม้มีการตั้งบริษัทเป็นนิติบุคคลแต่อำนาจตัดสินใจยังเป็นของ 13 หมูป่าและครอบครัว

อนึ่ง มีรายงานว่าการจัดตั้งบริษัทขึ้นมานี้เพื่อแก้ไขปัญหาที่มีการเชิญตัวเด็กไปออกงานต่างๆ แล้วมีค่าใช้จ่ายแต่เจ้าภาพที่มาเชิญก็ไม่เคยจ่ายค่าเสียเวลา เด็กต้องทำเสื้อยืดขายหาเงินเอง ต้องเสียการเรียน ไม่มีโอกาสในการฝึกซ้อมกีฬา ขี่จักรยาน หรือสันทนาการที่ตนเองชอบเหมือนเดิม ทำให้วิถีชีวิตเปลี่ยน ส่วนผู้ใหญ่ได้หน้าได้ผลงาน

นอกจากนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Kang Kitipong Inthachai ซึ่งเป็น 1 ในกลุ่มคนที่ก่อตั้ง สโมสรหมูป่าทีนทอคล์อะคาเดมี่ และมีน้องๆ ทั้ง 13 ชีวิตสังกัดอยู่ก่อนหน้าเกิดเหตุไปติดถ้ำหลวง ได้โพสต์ข้อความแสดงความเห็นชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเผยว่า

“ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อตั้งบริษัทดังกล่าว อีกทั้งไม่เคยคิดรับผลประโยชน์ใดๆ จากเด็กๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ไม่ขอแสดงความเห็นเกี่ยวกับการก่อตั้งบริษัทดังกล่าว และจะขอมุ่งแต่เรื่องกีฬาการแข่งขันฟุตบอลให้กับเด็กๆ ในทีมเท่านั้น พวกเราผู้ก่อตั้งสโมสรหมูป่าทีนทอคล์อะคาเดมี่ทุกท่าน พวกเราทำด้วยใจรักเด็กเล่นกีฬาฟุตบอล พวกเราส่งเสริมเด็กๆ ที่อยากเล่นฟุตบอล ไม่มีคำว่าหาผลประโยชน์ใดๆ กับเด็กในสโมสรทุกคน ล้วนแต่มีแต่มอบให้เด็กๆ ทั้งสิ้น

ที่ผ่านมา 3 ปีกว่า พวกเราผู้บริหารทั้งหมดทำด้วยใจ ด้วยจิตอาสาทุกคน กระผมในนามผู้บริหารสโมสรหมูป่าขอชี้แจงกับทุกๆ ท่าน ที่หลงคิดว่าพวกเราได้รับผลประโยชน์กับเด็กๆ โปรดเข้าใจใหม่ด้วยนะครับ ที่ผ่านมามีแต่ให้กับให้เท่านั้น”