"อุตตม"ร่าย 7 ข้อ แหล่งเงินดันนโยบาย "พปชร." เกิดได้จริง

by ThaiQuote, 14 มีนาคม 2562

หัวหน้าพลังประชารัฐร่าย 7 ข้อหาเงินหนุนนโยบายชี้เกิดได้จริงแน่ ทีเด็ดเก็บภาษีธุรกิจออนไลน์เมืองนอก ไม่ยุ่งกับคนตัวเล็กขายของออนไลน์สัญชาติไทย ชี้หากเดินอย่างนี้ปี'65 สร้างเศรษฐกิจโต 19 ล้านล้านบาท


วันที่ 14 มีนาคม 2562 - นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เขียนข้อความผ่าเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงแหล่งที่มาของเงินงบประมาณที่จะมาช่วยผลักดันนโยบายของพรรคหากได้เป็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคมนี้ โดยนายอุตตม เขียนไว้ถึง 7 ข้อ และแต่ละข้อก็น่าสนใจไม่น้อย

"แหล่งที่มารายได้ เพื่อใช้ทำนโยบายของพลังประชารัฐ

วันนี้ทุกท่านคงจะได้คำตอบกันแล้วนะครับ ว่า พรรคพลังประชารัฐจะทำอย่างไรให้เศรษฐกิจของประเทศติดปีก บินต่อไปได้

หลายคนถามถึงงบประมาณที่จะนำมาใช้ในโครงการสวัสดิการประชารัฐ เช่น มารดาประชารัฐ บัตรประชารัฐ หรือ การสร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ ให้กับคนไทย ให้กับประเทศไทย

ผมขอตอบว่านโยบายทางด้านเศรษฐกิจของพรรคพลังประชารัฐนั้น จะต้องเป็นการสร้างเศรษฐกิจอย่างครบวงจร ไม่ใช่แค่เพียงด้านใดด้านหนึ่ง ที่สำคัญต้องไม่สร้างภาระให้กับประเทศ ภายใต้ “การเพิ่มรายได้ประเทศ เพิ่มรายได้ประชาชน”
การสร้างรายได้ประเทศนั้นจะต้องสร้างเศรษฐกิจยุคใหม่ในทุกนโยบาย ซึ่งเราเชื่อว่าจะสามารถสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตได้ถึง 19 ล้านล้านบาท ภายในปี 2565 ด้วยการดำเนินการผ่าน

1.การปฏิรูประบบเศรษฐกิจ สร้างเศรษฐกิจใหม่ เศรษฐกิจดิจิทัล ขับเคลื่อนด้วยเกษตรฐานรากที่ยั่งยืนที่เข้มแข็ง จะทำให้เกิดการลงทุนเพิ่มรายได้ 2 ล้านล้านบาท ภายในปี 2565

2.รายได้จากการท่องเที่ยวต้องเพิ่มเป็น 4.5 ล้านล้านบาท ด้วยนโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยว การสร้างตลาดใหม่ในต่างประเทศ การเชื่อมโยงการท่องเที่ยวเข้ากับชุมชน ภายในปี 2565

3.รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากเศรษฐกิจฐานราก เงินบาทแรกของเศรษฐกิจทั้งประเทศเริ่มต้นขึ้นที่นี่ครับ ถ้าฐานรากไม่แข็งแกร่งเศรษฐกิจระดับประเทศก็ไม่สามารถพัฒนาได้ ดังนั้นเราจะทำให้รายได้จากภาคเกษตร เศรษฐกิจฐานรากให้ได้เป้าหมาย 2 ล้านล้านบาทภายในปี 2565

แหล่งที่มาของรายได้นั้น สามารถทำได้ผ่านวิธีการคือ

1.ปฏิรูปโครงสร้างระบบการจัดเก็บภาษี จะทำให้รัฐมีรายได้จากภาษีเพิ่มขึ้น 3 แสนล้านบาทต่อปี

2.เสนอเก็บภาษีผู้ประกอบการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศที่เข้ามาขยายธุรกิจในไทย โดยไม่ยุ่งกับผู้ประกอบการ คนตัวเล็กที่เป็นคนไทยซึ่งค้าขายออนไลน์ โดยจะเรียกเก็บภาษีได้ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท

3.ปฏิรูปการบริหารจัดการทรัพย์สินของประเทศ เช่น ทรัพย์สินของ กรมธนารักษ์ ด้วยวิธีการในรูปแบบ การช่วยพัฒนาในพื้นที่ในสอดรับกับยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และ SMEs รวมทั้งอุตสาหกรรมเป้าหมาย จะช่วยเพิ่มรายได้ขึ้นอีกประมาณ 1 แสนล้านบาท

4.ปฏิรูปการบริหารจัดการของหน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะการจัดซื้อจัดจ้าง เงินที่สามารถประหยัดได้ตรงนี้ เท่ากับเงินของรัฐที่สามารถนำไปใช้ทำประโยชน์อื่นๆ หากทำให้เหมาะสมจะประหยัดรายได้อีก 2 แสนล้านบาท

5.ส่งเสริมโครงการร่วมลงทุนขนาดใหญ่ PPP ระหว่างรัฐและเอกชน ทั้งในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี และคน จะเกิดการลดภาระงบประมาณให้รัฐทันที 3 แสนล้านบาท

6.ขยายการใช้กองทุน TFF หรือ ไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ ฟันด์ ในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน สามารถประหยัดงบประมาณของรัฐได้ 1 แสนล้านบาท

7. เสนอจัดตั้งกองทุนใหม่ กองทุนรวมเพื่อสังคม โดยจะเป็นกองทุนเพื่อการพัฒนายกระดับพื้นที่ชุมชน โดยรัฐ ร่วมกับ องค์กรส่วนท้องถิ่น เทศบาล และภาคเอกชน โดยมีรูปแบบที่ยั่งยืน ทำได้จริงและเป็นธรรม สามารถประหยัดงบรัฐได้ประมาณ 2 แสนล้านบาท

โดยหากมีการจัดการในทุกระบบที่ดี จะทำให้ประเทศมีรายได้รวมจากที่ผมได้กล่าวถึงไปแล้วเป็นจำนวนรวม 1.24 ล้านล้านบาท ดังนั้นนโยบายที่เราเสนอเพื่อประชาชน เพื่อต้องการแก้ไขความเหลื่อมล้ำของคนในประเทศ เพื่อให้พี่น้องประชาชนทุกคนมีความหวัง

จะเห็นได้ว่านโยบายต่างๆของพลังประชารัฐ ไม่ได้ทำแบบเลื่อนลอย จะใช้เงินก็ต้องหาเงินเป็น ทุกโครงการจึงทำได้ ทำจริง ทำทันที เพื่ออนาคตประเทศไทยมั่งคั่ง ยั่งยืน ด้วยพลังประชารัฐ ครับ"