"สมชัย" ชี้ จุดตาย กกต. ชุดปัจจุบัน

by ThaiQuote, 1 เมษายน 2562

'สมชัย'เตือน ชี้จุดตาย กกต.คำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ หากเอียงเอื้อประโยชน์ให้บางพรรคระวังถูกถอดถอนและ ดำเนินคดีอาญา โทษถึงติดคุกได้

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขต 2 จ.สมุทรสาคร พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และอดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Somchai Srisutthiyakorn ชี้ จุดตาย กกต. ระวัง อย่าปล่อยให้การคำนวณ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ เอนเอียงเป็นการสนับสนุนพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง อาจจะมีความผิดนำไปสู่การถอดถอนและคดีอาญาได้

“จุดตายของ กกต.ชุดปัจจุบัน”

“ความวุ่นวายไม่เรียบร้อยในการจัดการเลือกตั้งในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร นอกเขต การนับคะแนน การรายงานผล บัตรเขย่ง การให้ข้อมูลที่ไม่ชัดเจน เป็นความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ โดยไม่อาจเป็นสาเหตุเพียงพอหรือมีนัยยะสำคัญที่นำไปสู่การถอดถอนหรือลงโทษใดๆต่อ กกต.ได้ชัดเจนนัก”

“เพราะหากกล่าวให้เกิดความเป็นธรรม การที่ กกต. เพิ่งเข้ามาใหม่ ความเข้าใจในรายละเอียดต่างๆ กับการเลือกตั้งที่ต้องอาศัยบุคลากรร่วมล้านคนมาช่วยกันทำงานนั้นยากที่ กกต. จะเข้าไปกำกับดูแลให้เกิดความเรียบร้อย ทุกอย่างจึงเป็นเรื่องที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งต้องรับผิดชอบมากกว่า แต่กระแสสังคมกลับมาลงที่ กกต. 7 ท่าน”

“แต่เรื่องหนึ่งที่ต้องเตือนและเป็นจุดตายแน่นอนที่อาจนำไปสู่การถอดถอนอย่างมีเหตุผลและอาจนำไปสู่ความผิดทางอาญาได้โดยง่ายหากยังไม่ใส่ใจ โดยยังให้สำนักงานเป็นผู้กระทำโดยปราศจากการกำกับอย่างจริงจัง คือ เรื่องสูตรการคำนวณ สส.บัญชีรายชื่อ การคำนวณ สส.บัญชีรายชื่อนั้น มีขั้นตอนของการคำนวณ เขียนไว้ใน มาตรา 128 ของ พ.ร.ป. สส. ซึ่งอ่านแล้วไม่สามารถเข้าใจได้โดยง่าย และสามารถอ่านแปลความหมายนำไปสู่การคำนวณที่แตกต่างกันและทำให้เกิดผลแตกต่างกันอย่างน้อยสองแบบ”

“แบบแรก เป็นแบบที่เห็นเผยแพร่ในสื่อทั่วไป ทำให้มีพรรคเล็กได้ สส. บัญชีรายชื่อ 1 ที่นั่ง เพิ่มขึ้นมาจำนวน 11 พรรค โดยเป็นพรรคที่ได้คะแนนระหว่าง 33,748 - 69,417 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนที่ต่ำกว่า ค่าเฉลี่ยของ สส. 1 ที่นั่ง ที่คำนวณไว้ว่า เท่ากับ 71,065 คน เป็นการขัดกับเหตุผลว่า คะแนนแค่สามหมื่นเศษ ทำไมถึงได้ สส. ในขณะที่ พรรคใหญ่และพรรคกลางต้องใช้คะแนนถึงเจ็ดหมื่นเศษจึงได้ สส. 1 คน”

“แบบที่สอง เป็นการคำนวณโดยนักวิชาการ ที่นำแต่ละบรรทัดของกฎหมายมาแปลความและทดลองคำนวณ ซึ่งมีผลทำให้ 11 พรรคเล็กที่มีคะแนน สส.เขต ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 71,065 คน ไม่ได้รับการจัดสรร สส.บัญชีรายชื่อ และทำให้พรรคกลางและพรรคใหญ่ มีจำนวน สส.มากขึ้น”

“การตัดสินใจแบบใดแบบหนึ่ง หากมีการพิสูจน์ได้ว่าเป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่ของ กกต. เพื่อไปสนับสนุนให้พรรคการเมืองใด ชนะการเลือกตั้งและสามารถตั้งรัฐบาลได้ จะตรงกับข้อหาที่ กกต. ชุดที่สองเคยโดนมาก่อน คือกระทำการเพื่อให้เกิดความได้เปรียบของพรรคการเมืองหนึ่งทำให้สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งผลคือ กกต. ถูกศาลตัดสินจำคุก เรื่องนี้ จึงเป็นเรื่องที่ กกต. 7 ท่านต้องคิดและรับฟังจากทุกฝ่ายให้รอบคอบ เพราะแปลความผิดอักษรเดียว มีพรรคที่ได้ มีพรรคที่เสีย และเขาฟ้องแน่นอนครับ”