"อ๋อย"อัด"กกต." แจงเหตุผลทำไมใครๆ ก็ไม่รัก

by ThaiQuote, 8 เมษายน 2562

จาตุรนต์ร่ายยาวผ่านเฟซบุกส่วนตัว เผย 12 เหตุผลที่สังคมไม่ไว้วางใจกกต. ลั่นต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยการกระทำให้ได้

วันที่ 8 เมษายน 2562 - นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองผ่านเฟซบุกส่วนตัวอีกครั้ง โดยระบุถึงเหตุผลที่กกต.ไม่ได้รับความไว้วางใจจากสังคมในการทำหน้าที่จัดการการเลือกตั้ง ซึ่งข้อความของนายจาตุรนต์ร่ายยาวเอาไว้ 12 ข้อซึ่งมีการเขียนหัวข้อว่า "เหตุใด กกต.จึงไม่เป็นที่เชื่อถือของสังคม" ทั้งนี้ ข้อความระบุว่า


"เห็น กกต.ออกมาชี้แจงเหตุผลที่ดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทกับผู้ที่วิจารณ์ กกต. พร้อมทั้งมีการเอาตัวอย่างข้อความที่ผมทวีตวิจารณ์เรื่องนี้ โดย กกต.ได้คาดข้อความทับเป็นสีแดงว่า “ข่าวคลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริง” ผมจึงจำเป็นต้องชี้แจงเรื่องนี้เพิ่มเติม ทำไมผมจึงบอกว่ากกต.ไม่เป็นที่เชื่อถือของสังคม จะขอยกตัวอย่างให้เห็นดังนี้ครับ

1. กกต.ชุดนี้มีที่มาที่ไม่เป็นไปตามกระบวนการตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่มาโดยการแทรกแซงของ คสช. ที่เห็นได้ชัดคือตั้งแต่ คสช.ปลดกรรมการ กกต.บางคนออกจากตำแหน่งเป็นต้นมา กกต.ชุดนี้จึงไม่ใช่องค์กรอิสระมาตั้งแต่ต้น และนับแต่นั้นมา ก็ไม่เคยเป็นอิสระจาก คสช.อีกเลย เนื่องจาก คสช.จะปลด กกต.คนใดหรือทั้งหมดเสียเมื่อใดก็ได้

2. มักมีข่าวทำนองว่าผู้นำ คสช.และผู้นำรัฐบาลมอบเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้ กกต.ไปทำอยู่บ่อยๆ กกต.ก็ไม่เคยทักท้วงว่ามอบไม่ได้ สั่งไม่ได้ เท่ากับยอมรับว่า กกต.พร้อมทำตามคำสั่งของ คสช.และรัฐบาล

3. ที่ผ่านมา คสช.ได้ออกคำสั่งที่มีผลเป็นการแก้กฎหมายเกี่ยวกับพรรคการเมืองและการเลือกตั้ง สส.หลายครั้ง เช่นในเรื่องการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย และการทำกิจกรรมต่างๆ ทำให้เกิดความเสียหายต่อพรรคการเมือง และบางครั้งก็ให้คุณและโทษแก่พรรคการเมืองอย่างไม่เท่าเทียมกัน แต่ กกต.ก็ไม่เคยทักท้วง

4. คสช.สั่งให้แบ่งเขตเลือกตั้งใหม่อย่างกะทันหัน กกต.ก็ดำเนินการตามสั่งไปอย่างไม่มีหลักไม่มีเกณฑ์ ทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบกันอย่างชัดเจน มีหลักฐานที่แสดงความไม่ชอบมาพากล เช่นการแบ่งอำเภอๆ เดียวออกเป็นหลายส่วน แยกไปอยู่กับเขตเลือกตั้งหลายเขต เป็นต้น

5. กกต.ออกระเบียบว่าด้วยการจัดรายการที่เกี่ยวกับการหาเสียงทางสื่อต่างๆ ที่กลายเป็นข้อจำกัดทำให้สื่อต่างๆ ไม่กล้าจัดรายการกันเสียเป็นส่วนใหญ่ ประชาชนเสียโอกาสในการรับฟังความคิดเห็นและนโยบายของพรรคการเมืองไปมาก

6. รัฐบาลใช้งบประมาณแจกจ่ายในโครงการต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับพรรคการเมืองอย่างชัดเจน และพรรคการเมืองก็แสวงประโยชน์จากโครงการของรัฐบาลเป็นที่รับรู้ไปทั่ว นอกจาก กกต.ไม่เคยทักท้วง เมื่อมีคนร้องเรียนหรือวิพากษ์วิจารณ์ กกต.ก็ไม่ได้แสดงความกระตือรือร้นที่จะตรวจสอบ

7. มีการร้องเรียนให้ตรวจสอบกรณีพรรคการเมืองจัดงานเลี้ยงหาเงินสนับสนุนพรรคโดยมีข้อร้องเรียนว่า มีรัฐวิสาหกิจร่วมบริจาคด้วย ซึ่งเป็นการผิดกฎหมาย กกต.ตรวจสอบแล้วชี้แจงเป็นข่าวสรุปว่า ไม่ผิด เนื่องจากไม่มีชาวต่างชาติบริจาค ซึ่งไม่ตรงประเด็นเลย

8. ระหว่างการหาเสียง มีรองนายกฯ บางคนพูดในที่ประชุมผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจ อธิบายถึงความจำเป็นที่นายกฯจะต้องเป็นนายกฯ ต่อไป เท่ากับรองนายกฯ ใช้อำนาจหน้าที่วางตัวไม่เป็นกลาง กกต.ก็ไม่ได้ตรวจสอบ

9. ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง มีนักการเมืองเสนอนโยบายลดงบประมาณกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นสิทธิ์โดยชอบ ผู้บัญชาการทหารบก ออกมาไล่ให้ไปฟังเพลงหนักแผ่นดิน ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่เป็นกลางทางการเมือง กกต.ก็ไม่ได้ดำเนินการใดๆ

10. กกต.เปิดเผยผลการเลือกตั้งในแต่ละเขตเลือกตั้งล่าช้าผิดปรกติ โดยอ้างเหตุผลแบบผิดๆ เช่นประกาศเกิน 95 % ไม่ได้ ทำให้คนสงสัยว่ากำลังปกปิดอะไรอยู่ จนบัดนี้ กกต.ก็ยังชี้แจงเรื่องนี้ไม่ได้

11. หลังจากการเลือกตั้งผ่านไปเป็นสัปดาห์แล้ว กกต.ยังไม่สามารถชี้แจงได้ว่าจะคำนวณจำนวน สส.แบบบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมืองด้วยหลักเกณฑ์วิธีการอย่างไร

12. กกต.กำลังวางตัวเป็นผู้ที่ใครก็แตะต้องไม่ได้ ทั้งๆ ที่ กกต.เป็นองค์กรของรัฐที่พึงถูกตรวจสอบได้ และกรรมการแต่ละคนก็เป็นบุคคลสาธารณะ งานที่ต้องทำก็มีมาก แต่กลับเที่ยวไล่ดำเนินคดีกับผู้ที่ตำหนิติชมการทำงานของ กกต.

แค่นี้ก็น่าจะพอที่จะแสดงว่า กกต.ไม่เป็นที่น่าเชื่อถือเพราะเหตุใดและ กกต.ควรรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์และรับไปปรับปรุงตนเองดีกว่าจะไปเที่ยวดำเนินคดีกับใครๆ

อยากจะขอย้ำว่า เนื่องจากกฎกติกาที่เขียนไว้ให้ผู้นำ คสช.ได้เปรียบในการตั้งรัฐบาล แต่ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ออกมาแล้วยังไม่มีความชัดเจนว่า ใครจะสามารถตั้งรัฐบาลได้ บทบาท กกต.จึงเป็นเรื่องสำคัญ สังคมจึงอยากเห็นการทำงานของ กกต.ที่โปร่งใส และเป็นกลาง ซึ่ง กกต.ควรจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกระทำครับ"