โฆษกเพื่อชาติชี้คนแพ้ทำตัวเป็นคนชนะ ไม่ยอมรับเจตนารมณ์ของประชาชน อย่าให้คนหน้าไม่อายทำให้คนชนะเลือกตั้งท้อถอย

น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ ได้กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองร้อนว่านับวันก็ยิ่งประหลาดใจกับ พฤติกรรมกลุ่มอยากอยู่ยาวเข้าไปทุกวัน หลังจากเลือกตั้ง 24 มีนาคม ที่ผ่านมาในวัน 27 มีนาคม พรรคฝ่ายประชาธิปไตยที่มีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรวมเกินครึ่งสภาได้ประกาศร่วมมือจัดตั้งรัฐบาล

แต่ช่วงเวลา 2 สัปดาห์กว่าๆ ที่ผ่านมาฝ่ายแพ้เลือกตั้งที่มีจำนวน สส. น้อยกว่า ไม่ยอมรับเจตนารมณ์ของประชาชน พยายามตั้งรัฐบาลแข่งฝ่ายประชาธิปไตยที่มีจำนวน สส. มากกว่า ด้วยทุกวิธีการที่ไม่มีความละอาย ตั้งแต่การแสดงความคิดเห็นที่ไร้ความละอายประเภท รัฐธรรมนูญฉบับอยากอยู่ยาวนี่ดีกำหนดให้มี ส.ว. 250 คนไว้สนับสนุนการจัดตั้งนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้เลือก ส.ว. พวกนี้มา การทำฟาร์มงูเห่าที่ประมูลค่าตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยไป

อีกทั้งการปล่อยข่าวว่าพรรคนู้นพรรคนี้มีจำนวนสส. เท่านู้นเท่านี้ไปสนับสนุนการสืบทอดอำนาจกับพรรคตน แต่พอเจอกระแส #โป๊ะแตก ในโซเชียลทำให้แต่ละพรรคต้องออกมาแถลงว่า ไม่เคยตกลงว่าจะไปสนับสนุนพวกอยากสืบทอดอำนาจ

กระแสข่าว 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาพวกอยากอยู่ยาวใช้สื่อกระแสหลักพยายามปล่อยข่าว ว่า ผู้ชนะเลือกตั้งฝ่ายประชาธิปไตยไม่มีทางจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะพวกอยากอยู่ยาวสามารถประกาศตัวทำเรื่องที่คนที่มีความละอายไม่กล้าทำ เรียกว่าเป็นบทเรียนในการใช้กระแสข่าว ความหน้าไม่อายปล่อยข่าวให้คนหน้าบางฝ่ายประชาธิปไตยท้อถอย

แต่โชคดีที่กระแสโซเชียลคนรุ่นใหม่คอยดักพฤติกรรมหน้าไม่อายเหล่านี้ ทำให้ฝ่ายอยากอยู่ยาวที่มีจำนวน สส. แพ้เลือกตั้งยังไม่ประสพความสำเร็จในการจัดตั้งรัฐบาลแข่งกับผู้ที่มีจำนวน สส. ชนะเลือกตั้ง

"ปัญหาความวุ่นวายความสับสนความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล จะหมดไปเมื่อคนแพ้รู้จักแพ้ ไม่ใช่แพ้แล้วทำตัวเป็นคนชนะ ตั้งรัฐบาลแข่งคนชนะ ทำทุกวิธีให้คนชนะที่มีความละอายท้อถอย รวมทั้งอย่าให้คนหน้าไม่อายทำให้คนหน้าบางท้อถอย ตนขอบอกไว้เลยว่าคนที่ไม่รู้จักแพ้ทำทุกย่างขัดเจตนารมณ์ของประชาชนส่วนใหญ่จะได้รับบทเรียนแน่นอน ตัวอย่างในการเลือกตั้งครั้งนี้ก็ได้ให้บทเรียนผู้ที่ไม่รู้จักแพ้แล้ว" โฆษกพรรคเพื่อชาติกล่าวทิ้งท้าย

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

ทางการอินโดนีเซียเรียกเก็บภาษีย้อน google ได้แล้ว