คพ.เผย 8 จังหวัดเหนือค่าฝุ่นละอองลดลง –เฝ้าระวัง ‘เชียงราย –ลำปาง-แม่ฮ่องสอน’

by ThaiQuote, 23 เมษายน 2562

กรมควบคุมมลพิษ เผยสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ ค่าฝุ่นละอองลดลง 8 จังหวัด แต่ยังต้องเฝ้าระวังพื้นที่‘เชียงราย –ลำปาง-แม่ฮ่องสอน’

สถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ ล่าสุด กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ออกรายงานสถานการณ์ประจำวันที่ 23 เม.ย. เวลา 09.00 น. พบว่าค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลงในพื้นที่ 8 จังหวัด ส่วนพื้นที่ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้แก่ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน คุณภาพอากาศมีค่าอยู่ในเกณฑ์ดี – เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นสีเหลือง 10 พื้นที่ (คุณภาพอากาศปานกลาง) พื้นที่สีส้ม 3 พื้นที่ (เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ) พื้นที่สีเขียว 4 พื้นที่ (คุณภาพอากาศดี)


- ค่า PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 26 – 84 มคก./ลบ.ม. (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.)

- ค่า PM10 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 43 – 104 มคก./ลบ.ม. (มาตรฐานไม่เกิน 120 มคก./ลบ.ม.)
ทั้งนี้สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทางเว็บไซต์ air4thai.pcd.go.th และแอพลิเคชั่น air4thai

จังหวัดเชียงใหม่ พล.ท.สุภโชค ธวัชพีระชัย แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ระดับภาค ส่วนหน้า เปิดเผยว่า สถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ 9 จังหวัดขณะนี้ เกิดจากกระแสลมที่พัดและนำหมอกควันเข้ามาในพื้นที่ สำหรับจุดความร้อนในพื้นที่ภาคเหนือ ยังคงมีจุดความร้อนเกิดขึ้น แม้ว่าจะมีฝนตกในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือก็ตาม ซึ่งทุกอำเภอเป็นอำเภอเสี่ยงที่จะต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง และขอให้ทางจังหวัดเข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดจุดความร้อนในพื้นที่ และได้สั่งการให้หน่วยทหารในพื้นที่ ร่วมกับ ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จิตอาสา และประชาชน จัดทำแนวกันไฟเพิ่มเติม เนื่องจากยังคงมีปริมาณเชื้อเพลิงในพื้นที่ประกอบกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นในระยะนี้ จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่อาจจะทำให้เกิดจุดความร้อนขึ้นในพื้นที่ ทั้งนี้ จากการปฏิบัติงานที่ผ่านมาอย่างเข้มแข็งของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานในพื้นที่ เจ้าหน้าที่เสือไฟ ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่อนุรักษ์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และจิตอาสา ทำให้ในหลายพื้นที่สามารถควบคุมจุดความร้อนได้ในระดับหนึ่ง

 

ขณะที่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน สถานีควบคุมไฟป่าปางมะผ้า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งพบจุดความร้อนเกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอปางมะผ้า จำนวน 1 จุด ได้ทำการตรวจเช็คตามค่าพิกัดที่ได้รับพบว่าจุดความร้อนดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ในป่าใกล้บ้านแสนคำลือ หมู่ 2 ต.ถ้ำลอด อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน จึงได้ประสานไปทางหมู่บ้านเครือข่ายที่ได้รับเงินอุดหนุนเข้าไปทำการตรวจสอบพื้นที่แล้ว สามารถทำการควบคุมไฟป่าไว้ได้
ขณะที่เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าแม่ฮ่องสอน ร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่าพิษณุโลกและนครราชสีมา เข้าปฏิบัติการดับไฟป่าบริเวณทิศตะวันออกบ้านชานเมือง ม.12 ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน พบโดยรับแจ้งทางโทรศัพท์ พื้นที่เสียหาย 6 ไร่ สาเหตุหาของป่า ชนิดป่าเต็งรัง ในเขตป่าอนุรักษ์ และยังได้ร่วมระดมฉีดพ่นละอองน้ำ เพื่อเพิ่มความชื้นในอากาศ ลดปัญหาหมอกควัน ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน


สำหรับ จังหวัดตาก นายสุพจน์ ภู่รัตนโอภา ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 (ตาก) และผอ.ทสจ.ตาก อำนวยการให้หน่วยส่งเสริมการควบคุมไฟป่าตากร่วมกับหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ตก.18 (ผาลาด) และตก.25 (ทรัพย์สมบูรณ์) ทำความสะอาด/อำนวยความสะดวก บริเวณจุดลงทะเบียนจิตอาสาและรับสิ่งของพระราชทาน

ด้านศูนย์บัญชาการหมอกควันและไฟป่าอำเภอแม่สอดจัดรถดับเพลิงทำการฉีดพ่นละอองน้ำและล้างถนน เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศในพื้นที่อำเภอแม่สอด โดยได้รับการสนับสนุนรถดับเพลิงจาก เทศบาลนครแม่สอด เทศบาลตำบลท่าสายลวด องค์การบริหารส่วนตำบลแม่ปะ และศูนย์ ปภ.เขต 9 พิษณุโลก

 

ขณะที่จังหวัดเชียงราย สภาพอากาศทั่วไปของจังหวัดเชียงราย เริ่มปลอดโปร่งขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน หลังจากได้เกิดฝนตกและลมพัดแรงในหลายพื้นที่เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา โดยที่ชายแดนไทย - เมียนมา มีเขตติดต่อระหว่างอำเภอแม่สาย กับ จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ที่เคยมีปริมาณฝุ่นละอองและหมอกควันขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนหรือ PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน พบว่าค่าลดลงซึ่งแม้จะอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ แต่สภาพอากาศก็สดใสและสามารถมองเห็น ตัวเมืองแม่สาย -ท่าขี้เหล็ก จากพื้นที่สูงได้อย่างชัดเจน และหากไม่มีการเผาเพิ่มเติม คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ตามสถานการณ์ไฟป่าในบางจุดยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะบริเวณเทือกเขาดอยยาง เขตวนอุทยานน้ำตกห้วยแม่สัก วนอุทยานน้ำตกตาดสายรุ้ง วนอุทยานน้ำตกขุนน้ำยาบ วนอุทยานน้ำตกตาดควัน และวนอุทยานห้วยน้ำช้าง ซึ่งเป็นเขตติดต่อ 4 อำเภอ คือ อำเภอดอยหลวง อำเภอเวียงเชียงรุ้ง อำเภอเชียงของ และอำเภอขุนตาล โดยเฉพาะพื้นที่ตำบลโชคชัย อำเภอดอยหลวง โดย พลตรีบัญชา ดุริยพันธุ์ รองแม่ทัพภาคที่ 3 และนายกมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 ได้ประสานนำเฮลิคอปเตอร์ จากกองบินกองทัพบกและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำการโปรยน้ำ โดยมีกำหนดนำน้ำจากแหล่งน้ำใกล้เคียงเข้าโปรยน้ำเพื่อลดจุดความร้อนในพื้นที่ นอกจากนี้ในภาคพื้นดิน ยังมีการทำแนวกันไฟเพิ่มเติม เนื่องจากยังคงมีปริมาณเชื้อเพลิงอยู่เป็นจำนวนมาก ประกอบกับอุณหภูมิสูงขึ้น


ด้านจังหวัดพะเยา ตำรวจ สภ.เมืองพะเยา ร่วมกับเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลบ้านต๋อม ทางหลวงชนบท และองค์การบริหารส่วนจังหวัดพะเยา ได้นำรถน้ำจำนวน 3 คัน เข้าดับไฟไหม้ป่าชุมชน พื้นที่ต.บ้านต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ทำให้ไฟได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันสกัดไฟ เพื่อไม่ให้ลุกลามไหม้บ้านเรือนของชาวบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลานานเกือบ 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมไฟไว้ได้ ขณะที่ในพื้นที่จังหวัดพะเยาได้เกิดลมพายุ และฝนตกหลายพื้นที่ ส่งผลให้ปัญหาหมอกควันและไฟป่าลดลง ซึ่งก่อนหน้านี้ปริมาณฝุ่นละอองในอากาศสูง ส่งผลกระทบสุขภาพของประชาชน โดยในหลายพื้นที่หลังจากพายุฝนสงบ ได้มีบ้านเรือนของราษฎร และทรัพย์สินของประชาชนได้รับความเสียหาย รวมถึงต้นไม้หักโค่นหลายพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เร่งสำรวจเพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป

 

ส่วนจังหวัดลำปาง นายประเดิม เดชายนต์บัญชา นายอำเภองาว ร่วมกับทหาร กกล.รส.จว.ล.ป. โดยร้อย.รส.ที่ 3 (ร้อย.ฝรพ.3) พื้นที่ อ.งาว รายงานสถานการณ์ไฟป่ากรณีเกิดจุดความร้อน (Hotspot) ในพื้นที่อำเภองาว จำนวน 2 จุด บริเวณป่าอนุรักษ์ ต.บ้านอ้อน ศูนย์ฯ War room อำเภองาว โดยฝ่ายความมั่นคงได้แจ้งให้ผู้รับผิดชอบในพื้นที่ดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ ประกอบด้วย หน่วยอช.ถ้ำผาไท ชุดเหยี่ยวไฟร่วมกับหน่วยฯต้นน้ำห้วยโล่ง เครือข่ายดับไฟป่า และกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งได้ดำเนินการแล้วเสร็จ ทั้งนี้ ได้ร่วมกับฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำการลาดตระเวนเส้นทางและตรวจสอบจุดเกิดความร้อน (hotspot) ในพื้นที่รอยต่อ บ้านขุนอ้อนพัฒนา ม.8 ต.บ้านอ้อน และ บ.แม่ฮ่าง ม.4 ต.นาแก ความเสียหาย 5 ไร่ สาเหตุจากการลักลอบเผา ได้เข้าทำการดับเรียบร้อย

 

ขณะที่จังหวัดแพร่ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พร.11 (บ้านปิน) สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม่ที่ 3 สาขาแพร่ กำนันตำบลบ้านปิน และเครือข่ายอาสาสมัครดับไฟป่าบ้านบ่อ ม.2 ต.บ้านปิน อ.ลอง นำรถดับเพลิงลงพื้นที่ดับไฟป่าตามจุดความร้อนเพื่อแก้ไขปัยฆาไฟป่าและหมอกควัน บริเวณห้วยจุมปุย เขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ลาน-แม่กาง สาเหตุมาจากการจุดเผาไร่ข้าวโพด แล้วลุกลามเข้าไปในเขตป่าสงวนแห่งชาติ สวนกล้วย และสวนสักบริเวณใกล้เคียง จึงได้ช่วยกันดับไฟและทำแนวกันไฟเพื่อไม่ให้ลุกลามข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งได้ พื้นที่เสียหายประมาณ 30 ไร่ หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ พร.9 (ช่อแฮ) ร่วมกับเขตห้ามล่าช้างผา ด่านชุดช.ป. ม.พัน 12 และอาสาสมัครไฟป่าบ้านนาแคม ม.6 ร่วมกันดับไฟป่าบริเวณห้วยขุนนาน้อย ในเขตอุทยานแห่งชาติลำนำน่าน ในเขตป่าแม่เติ๊ก – แม่ถาง พื้นที่เสียหายประมาณ 20 ไร่ ไม่ทราบสาเหตุการเกิดไฟป่า

สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแพร่ ปฏิบัติการฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กและเพิ่มความชื้นในอากาศเป็นประจำทุกวัน โดยได้รับการสนับสนุนรถหุ่นยนต์ดับเพลิงแรงดันสูงควบคุมระยะไกล จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 15 เชียงราย และได้รับการสนับสนุนรถน้ำดับเพลิงพร้อมเจ้าหน้าที่จากเทศบาลเมืองแพร่ กองพันทหารม้าที่ 12 แขวงทางหลวงแพร่ แขวงทางหลวงชนบท อบจ.แพร่ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ทุกแห่งร่วมปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง


ด้านจังหวัดลำพูน เกิดเหตุไฟไหม้ที่นาเครือสหพัฒน์ ลุกลามพื้นที่เกิดเหตุ หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 5 หมู่ที่ 4 ในพื้นที่ตำบลเวียงยอง ผลการปฏิบัติหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้เรียบร้อย หน่วยส่งเสริมการควบคุมไฟป่าลำพูน กรมป่าไม้ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารค่ายพิชิตปรีชากร ร.7 พัน 2 ร่วมกันออกลาดตระเวนป้องกันและควบคุมไฟป่าท้องที่ตำบลป่าไผ่ และตำบลแม่ตืน อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ตรวจพบไฟป่า จำนวน 1 จุด ร่วมกันดับไฟเขตติดต่อบ้านวงศ์ษาพัฒนา หมู่ที่ 1 ตำบลแม่ตืน และบ้านจัดสรรคอกช้าง หมู่ที่ 8 ตำบลป่าไผ่ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน เป็นพื้นที่เกษตรกรรมในเขตป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่เสียหาย 25 ไร่ ไม่ทราบสาเหตุ สถานีควบคุมไฟป่าผาเมือง – ลำพูน สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) เจ้าหน้าที่ร่วมกับปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อำเภอแม่ทา และผู้ใหญ่บ้านหล่ายสาย หมู่ที่ 16 ตำบลทาสบเส้า เข้าตรวจสอบจุดความร้อนตามที่ได้รับแจ้งจากศูนย์ War room จังหวัดลำพูน จากการตรวจสอบพบว่าจุดความร้อน (hotspot) ตามพิกัด เป็นจุดที่เกิดขึ้นบริเวณหลังคาของโรงงานฟาร์มหมู VPF ซึ่งตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ได้มีไฟป่าแต่อย่างใด และเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจุดความร้อนบริเวณทิศตะวันออกห้วยมะแหน ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ทา หมู่ที่ 2 บ้านแพะยันต์ ตำบลทากาศ อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน พื้นที่เสียหาย 7 ไร่ สาเหตุหาของป่า ป่าเต็งรัง (ร่วมกับเครือข่ายฯบ้านแพะยันต์)


ด้านจังหวัดน่าน พ.อ. รัตนะ พัฒนโสภน ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 32 กองกำลังผาเมือง สั่งการให้ ร้อยโท พิทักษ์พล จิตอารีย์ ผู้บังคับกองร้อย ควบคุมไฟป่าและหมอกควัน ชป.ที่ 4 ฉก.ทพ.32 อำเภอบ้านหลวง มทบ.38 ร่วมกับ ประชาชนจิตอาสา "เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ" หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นน.12,หน่วยดับไฟป่านันทบุรี ออกลาดตระเวนตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงเกิดไฟป่าบริเวณ บ้านเกษตรสมบูรณ์ หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านพื้ อ.บ้านหลวง ผลการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่พบการเกิดไฟป่า และยังเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ไฟป่าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสถานการณ์หมอกควันและไฟป่าในพื้นที่จังหวัดน่าน ยังเฝ้าระวังต่อเนื่อง สภาพอากาศบนท้องฟ้า หลังเกิดพายุโชนร้อนพัดผ่านไปเมื่อ สองสามวันที่ผ่ามมาทำให้สภาพอากาศดี แต่ก็เกิดไฟป่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่เขตป่าอนุรักษ์ และเขตป่าสงวน พบไฟไหม้เป็นวงกว้าง ซึ่งล่าสุด พันเอกรัตนะ รัตนโสภณ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 32 กองกำลังผาเมือง ได้สั่งการให้ กำลังพลของหน่วย ร่วมกับ หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่า ออกลาดตระเวร โดยนำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการดับไฟป่า ร่วมกับหน่วยจัดการต้นน้ำ ออกลาดตระเวน และเฝ้าระวังไฟป่า ทั้งกลางวันและกลางคืน นำอุปกรณ์ดับไฟป่า สำรวจป่าทั้งในเขตอุทยาน และพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติอย่างต่อเนื่อง


ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
กสทช.เผย “ละครหลังข่าว” ทำทีวีดิจิทัลได้รับความนิยม