ผบ.ตร. สั่งตั้งศูนย์เฝ้าข่าวปั่น-ข่าวเท็จท่วมโซเชียล 24 ชม.

by ThaiQuote, 21 มิถุนายน 2562

"ผบ.ตร." ห่วงปั่นกระแส-สร้างข้อมูลเท็จ ในโลกโซเชียล สั่งกำชับให้ ศปอส.ตร. และ บก.ปอท. ตั้งศูนย์เฝ้าระวังสื่อสังคมออนไลน์ ตลอด 24 ชั่วโมง ชี้ โทษผู้สร้างความสับสนและบิดเบือน เข้าข่ายความผิดโทษจำคุก 5 ปี หรือปรับ 100,000 บาท

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยว่าพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการและกำชับไปยังทุกกองบัญชาการฯ โดยเฉพาะอย่าง กองบัญชาการสันติบาล , บก.ปอท. และหน่วยงานความมั่นคงทางการข่าว ในการเฝ้าฟัง สืบสวนสอบสวน บูรณาการ ประสานการปฏิบัติกับทุกหน่วยงานและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการตรวจสอบและหาแนวทางแก้ไขปัญหา การนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์หรือโซเชียลมิเดีย เพื่อไม่ให้สังคมตื่นตระหนกและเกิดความสับสน

โดยในส่วนของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการจัดตั้ง ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) และ บก.ปอท. มีการจัดตั้ง ศูนย์เฝ้าระวังทางสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อตรวจสอบ พิสูจน์ทราบถึงข้อเท็จจริง ตลอด 24 ชั่วโมง โดยบูรณาการร่วมกับ หน่วยงานรัฐ และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ เฝ้าระวังข้อมูลอันเป็นเท็จ พร้อมทำการสืบสวนสอบสวน ดำเนินเนินคดีกับผู้กระทำความผิดและที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนของกฎหมาย

"ปัจจุบันในโลกโซเชียลมีเดีย ได้มีการพบเห็นการนำข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จ หรือ ข้อมูลที่บิดเบือน (FAKE NEWS) เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งขณะนี้พบเห็นได้อยู่บ่อยครั้ง ทำให้เกิดความสับสน หรือเกิดความเสียหาย ทั้งในด้านส่วนตัวของผู้ได้รับผลกระทบ และสังคมโดยรวม ผบ.ตร.มีความเป็นห่วงจึงได้สั่งการและกำชับให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ"พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว

รองโฆษก ตร. กล่าวอีกว่า การนำข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือบิดเบือน ทำให้เกิดความสับสน วุ่นวาย เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อาจเข้าข่ายความผิด ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 จำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือ ผู้ยุงยง ผู้สนับสนุนหรืออยู่เบื้องหลัง อาทิ เช่น การสร้างกระแส บิดเบือน ปั่นหุ้น เว็ปบิท หรือภัยออนไลน์ในลักษณะต่างๆ ก็อาจจะเข้าข่ายในฐานความผิดที่มีโทษทางอาญาและถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย

ดังนั้น ขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชน ซึ่งในยุคปัจจุบันมีการใช้และเข้าถึงโลกโซเซียลมีเดียได้สะดวกและง่าย ขอให้ใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร อย่าพึ่งเชื่อ อย่าพึ่งแชร์ ให้ทำการตรวจสอบข้อมูลหรือรายละเอียดต่างๆให้ดีเสียก่อนที่จะนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ หรือการกระทำที่อาจจะให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับความเสียหาย อาจจะตกเป็นเหยื่อถูกหลอกลวง หรือแม้กระทั่งเกิดความสับสนวุ่นวายในสังคมได้ โดยในการตรวจสอบข้อมูลขอให้ติดตาม จากเว็บไซด์ข่าวที่น่าเชื่อถือได้ หรือ เว็บไซด์ของหน่วยงานราชการ พร้อมกันนี้

"ขอฝากเตือนไปยังผู้ที่จะนำข้อมูลอันเป็นเท็จ บิดเบือนข้อเท็จจริง โดยมีเจตนาทุจริต เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์หรือโซเชียลมีเดียและอาจทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย หรือเพื่อมุ่งหวังหวังผลประโยชน์ในทางที่มิชอบหรือ จะด้วยความคึกคะนอง รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ท่านก็อาจจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายได้"พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว

ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อมูลหรือเบาะแส สามารถแจ้งข้อมูลไปยัง ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ โทรศัพท์ 02 252 788 3-4 โทรสาร 02 252 788 1-2 สายด่วน 1155 และ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) หรือช่องทาง Facebook/jahooktcsd โทร. 02-142-2556 , 02-142-2557 Email : [email protected]

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
ธนากร ขบวนการสร้างข่าวเท็จสร้างความแตกแยก