“อนุทิน” ยันไม่มีร่วมจ่าย ‘บัตรทอง’ ลั่น! รบ.นี้ ไม่เพิ่มภาระ ปชช.

by ThaiQuote, 15 สิงหาคม 2562

“อนุทิน" ยันรัฐบาลนี้ "บัตรทอง" ไม่ร่วมจ่าย ลั่นไม่เพิ่มภาระ ปชช. อะไรที่ให้แล้วไปไม่เอาคืน มีแต่ให้เพิ่ม พร้อมส่งเสริมสุขภาพ ลดเจ็บป่วย ลดแออัด รพ.ลดค่าใช้จ่าย ชี้! ใช้งบบัตรทอง 2-3 แสนล้านบาทให้คุ้มค่าที่สุด

วันนี้ (15 ส.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (ประธานบอร์ด สปสช.) กล่าวเปิดการประชุมจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นทั่วไปจากผู้ให้บริการและผู้รับบริการระดับประเทศ ปี 2562 ว่า รัฐบาลยืนยันที่จะสานต่อระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) จึงไม่ต้องไปกังวลเรื่องของการร่วมจ่ายหรือโคเพย์เมนต์ (Co-Payment) ระบบนี้ยังต้องอยู่ต่อไป ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

นายอนุทิน กล่าวใจความสำคัญ ในการมอบนโยบายว่า ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของประเทศไทย ถือว่าประสบความสำเร็จ ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ รัฐบาลจะเดินหน้าหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) เพื่อคุ้มครองความมั่นคงทางสุขภาพให้กับประชาชน จะไม่มีการร่วมจ่าย (Co-Payment) ค่ารักษาพยาบาลในสิทธิบัตรทอง และระบบนี้จะอยู่ต่อไป ไม่มีทางเปลี่ยนแปลง

ทั้งนี้ การเพิ่มประสิทธิภาพของระบบหลักประกันฯ จะทำให้เกิดความมั่นคงทางสุขภาพของประชาชน โดยมุ่งเป้าหมายลดความเหลื่อมล้ำของสิทธิประโยชน์และคุณภาพการบริการทั้ง 3 กองทุน ให้เกิดความยั่งยืน ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพ ไม่เดือดร้อนหรือล้มละลายจากค่าใช้จ่ายสุขภาพ ได้รับความเท่าเทียมในการรับบริการ

นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่จะดำเนินการเพิ่ม คือ สร้างหลักประกันสุขภาพที่ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม เข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็นอย่างเท่าเทียม นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ทางการแพทย์ เชื่อมโยงข้อมูลบิ๊กดาตาด้านสุขภาพ กำหนดทิศทางบริหารกองทุนให้รองรับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเจ็บป่วยจากสภาพแวดล้อม สังคม โรคอุบัติใหม่ โรคอุบัติซ้ำ โรคไม่ติดต่อ อุบัติเหตุ ฯลฯ ขยายบริการรูปแบบใหม่ เช่น กองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ ร้านยาชุมชนอบอุ่น เป็นต้น สำหรับการรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ ทุกไอเดียมีความหมาย สปสช.และ สธ.จะคัดเลือกสิ่งที่ดีที่สุดแน่นอน

"นโยบายที่มอบให้หน่วยงานใน สธ. คือ บริการให้ดีที่สุด ไม่ต้องคิดเรื่องอื่น ขณะเดียวกันอยากฝากให้ประชาชนดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง อย่าป่วย อย่าคิดว่ามีคนมารักษา มีบัตรทองไม่เสียเงิน หรือรายได้ดีก็เข้าโรงพยาบาลชั้นนำได้ เพราะสุดท้ายก็จะเจ็บทั้งตัวและกระเป๋า

ในทางกลับกันหากคนไทยพร้อมใจกันแข็งแรง ก็จะทำงานได้ จ่ายภาษี ทำให้เศรษฐกิจประเทศแข็งแรงด้วย เพราะสาธารณสุขคือรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจประเทศ การมีฐานรากมั่นคงแข็งแกร่งดีกว่ามียอดที่สูงใหญ่บนฐานรากที่อ่อนแอ" นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ในวันที่ 16 ส.ค. จะมีการประชุม ครม.เศรษฐกิจเป็นครั้งแรก ตนจะเสนอนายกฯ ว่า เงิน สปสช.เท่าไหร่ก็ไม่พอ แต่ทำได้อย่างเดียว คือ ทำให้ สปสช.ใช้เงินคุ้มค่าที่สุด เช่น ซื้อเวชภัณฑ์ ครุภัณฑ์ต่างๆ ต้องผลิตในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยพยุงเศรษฐกิจประเทศที่ต้องซ่อมอย่างหนักได้ เพราะการใช้จ่ายงบประมาณสุขภาพ 2-3 แสนล้านบาท หากใช้ในประเทศก็จะหมุนได้หลายรอบ เป็นโอกาสที่ไม่ได้เสียเปล่า ใช้ให้เป็นจ่ายให้เป็นรับให้เป็นก็จะอยู่ได้

เมื่อถามว่าจะไม่มีการร่วมจ่ายในยุคนี้แน่นอนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าตนเป็น รมว.สธ.และอยู่ในความรับผิดชอบของตน ก็ยังยืนยันว่า บัตรทองยังเป็นภาระที่รัฐบาลให้การดูแล สิ่งที่ประชาชนเคยได้รับมา ก็ต้องไม่เอาภาระไปเพิ่มให้ประชาชน สิ่งที่ให้ไปแล้วถ้าไม่จำเป็นก็ไม่เอาคืน และต้องได้รับสิ่งที่ดีมากยิ่งขึ้นกว่านี้ ทั้งการบริการ การรักษา การสร้างเสริมสุขภาพ

ส่วนที่ถามว่าการร่วมจ่ายไม่ได้มีแค่ ณ จุดบริการ ตรงนี้รายละเอียดยังไม่ได้ศึกษา ส่วนที่มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาในรัฐบาลก่อน ก็ไม่เป็นไร คงต้องถามเลขาธิการ สปสช. และปลัด สธ.ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ

เมื่อถามว่าสังคมผู้สูงอายุ การเพิ่มสิทธิประโยชน์ต่างๆ เงินอาจจะไม่พอ จนต้องร่วมจ่าย นายอนุทิน กล่าวว่า ก็แก้ไขไปตามสถานการณ์ สังคมผู้สูงอายุที่มากขึ้นนั้น แสดงว่าพื้นฐานสุขภาพต้องดีขึ้น ถ้ายิ่งให้ข้อมูล ความรู้ ความเข้าใจการดูแลสุขภาพตัวเอง ไม่ใช่ประเด็นน่ากลัวว่าคนป่วยทั้งประเทศแล้วรัฐดูแลไม่ไหว เพราะไม่มีใครอยากป่วย แต่ต้องทำให้คนมีความรู้ เข้าใจ มีสุขภาพแข็งแรง พึ่งพาการรักษาพยาบาลให้น้อยที่สุด ก็จะช่วยลดความแออัดใน รพ.ด้วย

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการสัมภาษณ์เสร็จสิ้น ตัวแทนเครือข่ายประชาชน 9 ด้าน ในระบบหลักประกันสุขภาพ ได้เข้ายื่นหนังสือข้อเสนอต่อเวทีรับฟังความคิดเห็นทั่วไปฯ พร้อมขอเข้าพบเพื่อหารือถึงแนวทางการดูแลด้านสุขภาพแก่ประชาชนกับรัฐมนตรีว่าการ สธ.ในเร็วๆ นี้ด้วย

ทั้งนี้ ในช่วงเช้าวันเดียวกัน นายอนุทิน และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการ สธ. ยังได้ร่วมประชุมกับคณะผู้บริหาร สธ. และ สปสช. ในประเด็นเรื่องการลดความแออัดในโรงพยาบาลด้วย

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
ไบโอไทย หนุน ‘อนุทิน’ แบนสารพิษ ชี้ทำจริงผลงานชิ้นเอก