อ่านแล้วจะร้องไห้ “ลักเงิน 160 บาท” เพื่อข้าวของลูก

by ThaiQuote, 5 กันยายน 2562

ดราม่า ครอบครัวคนใช้ชีวิตในเมืองกรุง แม่โดนจับเพราะลักทรัพย์เงิน 160 บาท เพื่อเอาไปซื้อข้าวให้ลูก 2 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Jaturong Prombooth ซึ่งคาดว่าเป็นตำรวจร้อยเวร ประจำ สน.บางซื่อ ได้โพสต์ข้อความเล่าถึง กรณีการจับกุมผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ เงิน 160 บาท จากถังทำบุญกฐิน ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง โดยมีรายละเอียดว่า #อันนี้สาระ วันนี้เป็นวันที่เข้าเวรตั้งแต่หกโมงเช้าถึงหกโมงเย็น มันมีเรื่องมาพีคตอน 20 นาทีสุดท้าย

คือ... มี นาง ก. อายุ54ปี ไปลักทรัพย์จำนวน 160 บาท (เงินทำบุญกฐินที่เสียบไม้ซึ่งวางตั้งไว้ในห้างแห่งหนึ่งในท้องที่) บันทึกจับกุมทำแบบจับโดยประชาชนเนื่องจากพนักงานของห้างเป็นผู้ควบคุมขณะเกิดเหตุ สายตรวจของเราไปรับตัวมาเพื่อส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี พอมาถึงร้อยเวรจึงสอบถามเนื่องจากเป็นความผิดที่ยอมความไม่ได้ในทฤษฎี ทางห้างยืนยันที่จะดำเนินคดีเราจึงต้องทำตามหน้าที่
ก็ได้ใจความว่า.. เงินที่ขโมย160บาท จะเอาไปซื้อข้าวให้ลูก2คน (อายุ12และ13)กิน เนื่องจากเงินที่ได้ในแต่ละวันไม่พอใช้ นาง ก. รับจ้างล้างจานในร้านฟาสต์ฟู้ดส์ ได้ค่าแรงวันละ300 บาท รายจ่ายที่มีคือค่าเช่าบ้าน 3,300 บาท เงินให้ลูกทั้ง 2 ไปโรงเรียน ซึ่งการใช้ชีวิตในกรุงเทพ มันยากอยู่นะ
จากนั้นสักพักจึงตามตัวลูกทั้ง 2 ได้ ซึ่งเที่ยวเล่นกับเพื่อนตามประสาเด็กที่เลิกเรียน ลูกชายวัย13ขวบ มาถึงโรงพักก่อน วิ่งเข้ามาในห้องสอบสวน มาถึงก็ร้องไห้ไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าแม่จะโดนจับ
"แม่ทำทำไม แม่สอนผมตลอดว่าต่อให้เราไม่มีกินก็ห้ามขโมยของคนอื่น" แม่ก็ขอโทษลูกๆๆๆ จังหวะนั้นคือร้อยเวร พี่ๆน้องๆพนักงานสอบสวนก็เดินออกจากห้องเลย (ถ้าอยู่ก็ร้องไห้ตรงนั้นอ่ะ) จริงๆตัวเขาก็คงไม่อยากให้ลูกรู้ แต่ถ้าอยู่ๆแม่ต้องโดนควบคุมตัวลูกก็คงร้อนใจไม่ต่างกัน
สักพักลูกสาววัย 12 ปี ตามมา ก็โวยวายใหญ่เลยว่าเงินแค่160บาท คืนไปแล้วทำไมยังจะจับแม่หนู ตรงนี้มันก็เข้าใจได้นะ เค้ายังเด็ก และเห็นว่าเงินคืนไปแล้ว จะอธิบายตามกฎหมายก็คงไม่เข้าใจ
เด็กทั้ง2 นั่งเฝ้าร้อยเวรสอบปากคำแม่ ลูกชายก็ไปซื้อข้าวซื้อน้ำให้แม่ และไปหาผู้ใหญ่ที่พอจะไปธุระที่ศาลได้ ลูกสาวมาถึงก็เดินไปบอกร้านฟาสต์ฟู้ดส์ที่แม่ทำงานเพื่อแจ้งว่าแม่มีธุระต้องไปศาล ขอลางาน1วัน เด็กกลับมาบอกว่า "ผจก.ร้านไม่เชื่อ" มันก็ไม่น่าเชื่อนะที่เด็ก 12 ขวบมาขอลางานให้แม่ เพราะแม่ต้องไปขึ้นศาลอ่ะ
สอบปากคำเสร็จจะนำแม่เข้าห้องควบคุม

พี่ๆ... หนูขอนอนกับแม่(ในห้องขัง)ได้ไหม?
"พี่ไม่อนุญาต" "ถ้าหนูจะนอนพี่ให้หนูนอนตรงเบาะห้องประจำวัน" (มีแอร์, ทีวี)
จากนั้นเราก็ชวนน้องคุย...
น้องก็โตเกินวัยนะ เพราะสภาพสังคมมันทำให้น้องต้องสู้อ่ะ
น้องรู้หมดว่าถ้าที่ทำงานรู้ว่าแม่ต้องไปขึ้นศาล"ในฐานะผู้ต้องหา" แม่คงตกงาน
เราเลยถือโอกาสสอนน้องให้อดทน ตั้งใจเรียน เติมเงินมือถือให้ เพราะน้องโทรออกไม่ได้ "เผื่อมีไรให้โทรติดต่อพี่นะ"
พอน้องเดินกลับไปจึงเห็นในระยะสายตาว่า... แม้แต่รองเท้าน้องก็ยังไม่มีใส่
พอกลับมาถึงที่พัก น้องโทรมา บอกว่า
พี่ๆ หนูกลับไปทำกับข้าวให้แม่ หนูเอามาให้แม่ได้ไหม?
"ได้สิ"
เรื่องนี้มันสะท้อนไปทั้งระบบสังคมเลย
คนทำผิด ผิดจริง ก็ควรว่าไปตามผิด
แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าสภาพสังคมที่บัดซบเฮงซวยและระยะห่างของชนชั้นมันก็มีผลให้คนตัดสินใจก่ออาชญากรรม
หัวโล่ง ว่างเปล่า เรื่องเห-ยๆในชีวิตเล็กไปเลย
หนูเอ้ยยย... เดี๋ยวพี่ไปเอาเสื้อผ้าของน้องสาวที่โคราชมาให้
ตั้งใจเรียนโตมาล่ะดูแลแม่ให้ดีๆนะ
ป.ล.สามีของนาง ก. พ่อของเด็กเสียชีวิตหลังจากที่น้องผู้หญิงเกิดได้ 8 วัน เนื่องจากอุบัติเหตุทำงานบนที่สูง ทาสีบนอาคารและตกลงมาเสียชีวิต
#อัพเดทครั้งที่2
- แม่ออกจากศาลแล้ว แต่ต้องชำระค่าปรับเป็นเงิน 5,000 บาท
- ศาลอนุญาตให้เลื่อนชำระค่าปรับไปอีก 1 เดือน คือให้จ่ายภายในวันที่ 4 ต.ค.62
- จริงๆแล้วมีอีกทางออกคือให้ทำงานบริการสังคม ทดแทนค่าปรับ ตาม ป.อาญา มาตรา 30/1 เป็นเวลา 10 วัน วันละ 4 ชั่วโมง แต่ทางเจ้าหน้าที่ศาลและทางตัวผู้ต้องหาเห็นพ้องกันว่าถ้าต้องมาทำวันละ 4 ชั่วโมง จะทำให้ขาดรายได้ (เพราะไม่สามารถลางานได้ ซึ่งใจของผู้ต้องหาก็อยากจะไป แต่ขาดงานไม่ได้จริงๆ
- แต่อย่างน้อยตอนนี้ 3 แม่ลูกก็ได้กลับมาอยู่ด้วยกันและแม่ไม่ต้องไม่ต้องติดคุกเพื่อชดเชยค่าปรับ
- ขอบคุณเจ้าหน้าที่ศาลที่ช่วยดำเนินเรื่องให้เลื่อนการชำระค่าปรับ ถึงแม้จะยังคงเหลือโทษปรับ
- พรุ่งนี้แม่ก็คงกลับไปทำงานที่เดิมได้ตามปกติ
- มีผู้ใหญ่ใจดีหลายท่านจะเสนองานให้แม่ และเป็นห่วงเรื่องของเด็กๆ แต่ก็ต้องดูอีกทีว่าอะไรที่ขาดแคลนจริงๆ
#อัพเดทครั้งที่3
1.เรื่องค่าปรับ มีผู้ใจบุญ โอนมาช่วยเหลือครบถ้วนเป็นเงิน 5,000 บาท แล้วครับ จะไปดำเนินการชำระในวันเสาร์นี้ (วันหยุดงานของคุณแม่)
2.เรื่องทุนการศึกษา ทางโรงเรียนวัดไผ่ตัน ประสานกับเด็กๆทั้ง 2 คนในวันพรุ่งนี้น่าจะมีข่าวดีครับ
3.มีผู้ใหญ่ใจดี ซื้อรถจักรยานให้แม่ขับไว้ไปทำงาน
4.มีผู้ใหญ่ใจดีสั่งสินค้าเป็นข้าวสารอาหารแห้ง จัดส่งให้ไปยังที่พักของน้องๆเพื่อเป็นการบรรเทาค่าใช้จ่าย
5.มีผู้ใหญ่ใจดีช่วยออกเงินซื้อหม้อหุงข้าวใบใหม่เนื่องจากที่มีอยู่มันพังแล้ว
6.ที่ผมไม่โพสต์เลขบัญชีเพื่อทำการเรี่ยไรเงินเพราะ การเรี่ยไรเงินที่ถูกตามกฎหมายตาม พระราชบัญญัติควบคุมการเรี่ยไร ปี 2487 ระบุคุณสมบัติว่าผู้เรี่ยไรต้องไม่เคยต้องโทษในความผิดฐานลักทรัพย์ หากจะเอาบัญชีตัวเองเรี่ยไรหรือบัญชีบุคคลอื่นก็ยิ่งเป็นการไม่เหมาะสม อาจจะเป็นประเด็นในเรื่องของทุจริตต่อหน้าที่
7.สุดท้าย แม่กลับเข้าสู่อ้อมกอดลูก ไม่ต้องถูกคุมขัง และมีพี่ใจดีท่านนึงฝากข้อความให้บอกกับน้องๆว่า
"...ไม่ใช่เพราะแม่ไปหยิบของคนอื่นมาแล้วได้รับผลตอบแทนแบบนี้นะคะ ที่ทุกคนช่วยกัน เพราะอยากให้เด็กๆเป็นอนาคตที่ดีของสังคม นี่ไม่ใช่การตอบแทนที่ไปทำผิด แต่เราควรช่วยคนที่กำลังเดือดร้อน ที่ช่วยนี่เพราะเคยลำบากยากจนมาก่อน เคยเพราะไม่มีเงินตอนเด็กๆ แต่เพราะมีโอกาสได้เรียน ได้ทำงานที่ดี ได้สังคมดีๆ เลยมีโอกาสช่วยคนอื่น..."
ขอขอบพระคุณทุกๆท่านที่ให้โอกาสครอบครัวนี้ กลับสู่สังคม
ซึ่งผมมั่นใจว่าไม่ได้มีแค่ครอบครัวนี้ครอบครัวเดียวแต่ยังมีอีกเป็นร้อยๆครอบครัวที่ประสบปัญหาเช่นนี้ ปัญหาสังคม ปัญหาเศรษฐกิจ ความสามารถในการเข้าถึงปัจจัย4 ที่ไม่เท่ากัน ผมเชื่อว่ามันเป็นสิ่งบีบคั้นที่ทำให้คนก่ออาชญากรรม ซึ่งก็ต้องมองเป็นกรณีๆไป แต่กรณีนี้จากการเป็นพนักงานสอบสวนมาเกือบๆ 2 ปี ถือว่าสะท้อนสังคมได้มากที่สุด
...ขอขอบคุณและขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ...
#160บาทที่แพงที่สุดในชีวิต
#ค่าแรง300บาทที่อาจเป็นเงินที่อุ้ม3ชีวิตใน1วันและอาจเป็นเงินที่ผมใช้กินข้าวได้เพียง1มื้อ
#อัพเดทครั้งที่4
1.ทาง ผอ.โรงเรียงวัดไผ่ตัน ท่านทราบถึงปัญหานี้และได้ดำเนินการดูแลมาโดยตลอด อีกทั้งยังแจ้งว่าเด็กทั้ง 2 ได้รับสิทธิประโยชน์จากนโยบายของรัฐบาลเกี่ยวกับการศึกษาครบถ้วน แต่ปัญหาคือเด็กๆเรียนในชั้นเรียนที่มีเพื่อนร่วมชั้นเรียนอายุน้อยกว่าตนจึงมีปัญหาในการเรียนในห้องเรียน ซึ่งทางท่าน ผอ.แจ้งว่าจะประคับประคองเด็กไปจนถึงที่สุดและหากมีความจำเป็นหรือเด็กต้องการศึกษาในระบบนอกโรงเรียนก็จะได้ติดต่อกับ กศน. ให้เด็กต่อไป
2. ครอบครัวที่มีปัญหาในลักษณะนี้ มีเยอะมากในท้องที่ ทางโรงเรียนทราบถึงปัญหาและแจ้งว่ายังมีเด็กที่ยากไร้กว่านี้อีก ฉะนั้นการช่วยเหลือไม่อยากให้ไปกระจุกตัวที่ครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง หากท่านใดจะบริจาคสิ่งของเครื่องใช้ที่เป็นประโยชน์กับเด็กๆและครอบครัว ติดต่อที่โรงเรียนวัดไผ่ตันได้ครับ
3. #ย้ำ ว่าเคสนี้ไม่เปิดรับการบริจาคเป็นเงินเด็ดขาด และไม่ได้มอบหมายให้ผู้ใดนำไปเรี่ยไรต่อ จะมีเพียงผู้ใหญ่ที่สงวนนาม 3 ท่าน ที่ช่วยชำระค่าปรับและมอบเงินสนับสนุนยังชีพให้ครอบครัวไปตั้งตัว
4. เรื่องนี้ผมไม่ทราบว่าจะเหมาะสมหรือไม่ แต่ก็ขอให้ใช้วิจารณญาน เพราะตัวผมเองก็เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ การทำอะไรย่อมมีข้อบังคับ กฎเกณฑ์ ระเบียบ กฎหมาย ควบคุมอยู่ ทางห้างสรรพสินค้าเองก็มีนโยบายที่จะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุซึ่งทุกๆคนก็ควรเข้าใจ และทราบดีแล้วว่าเป็นคดีอาญาแผ่นดิน ผมไม่อยากให้ไปต่อว่าห้าง หรือต่อว่าใครๆก็ตามที่เกี่ยวข้องว่าทำเกินไป ทุกคนมีหน้าที่ของตน คุณจะใช้ความขัดสนยากจนไปทำผิด มันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง
แต่การที่ผมแชร์เรื่องนี้เพราะว่า ปกติผมก็ขี้บ่นชอบระบายอยู่แล้ว และไม่คิดว่าจะมีคนมาสงสารเห็นใจจนมาช่วยเหลือกันมากมาย.... คุณแม่ที่ไปลักขโมย ผิดก็คือผิดเค้าคือคนผิด... แต่เคสนี้ก็ดีใจที่คนพร้อมให้โอกาสในขณะที่ทางผู้เสียหายคือห้าง เค้าไม่ได้ทำผิดอะไรและถ้าพูดตามตรงเค้าเสียหาย หากปล่อยปะละเลยก็อาจมีการกระทำความผิดซ้ำ ดังนั้นการนำตัวผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการกฎหมายของห้างก็เป็นเรื่องที่สมเหตุ สมผล และการให้โอกาสจากสังคมก็เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมยินดี

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
แท็กซี่มึน ถ่ายทุกข์เบาในรั้วบ้านคนอื่น สาวโพสต์คลิปประจาน