“ปิยบุตร”ชี้นายกฯเป็นโรคไม่แยแสรัฐธรรมนูญ เตรียมซักฟอกใหม่สมัยหน้า

by ThaiQuote, 19 กันยายน 2562

ปิยบุตรประเมินฝ่ายค้านทำงานเต็มที่แล้ว แต่นายกรัฐมนตรีเป็นโรคไม่แยแสรัฐธรรมนูญ เตรียมหารือฝ่ายค้าน เปิดสมัยประชุมหน้า ยื่นประธานสภาเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในเดือน พ.ย.

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ภายหลังจบการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 และปิดสมัยการประชุมรัฐสภาว่า ตนคิดว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านอภิปรายได้ดี และใช้เวลากระชับครบถ้วนทุกประเด็น การอภิปรายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ถือเป็นการอภิปรายครั้งแรกในประเทศไทย เสียดายที่คำถามที่ถามไปไม่ได้รับคำตอบอย่างชัดแจ้งจากคณะรัฐมนตรี (ครม.)

ส่วนจะกลายเป็นบรรทัดฐานการถวายสัตย์หรือไม่นั้น นายปิยบุตร กล่าวว่า ตนจึงได้ลุกอภิปรายถามซ้ำอีกรอบหนึ่งว่า จะยึดถือประเพณีการถวายสัตย์ต่อไปอย่างไร แต่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ไม่ได้ตอบ ซึ่งนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ก็ได้ถามย้ำอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ยังไม่มีการตอบในเรื่องนี้ นายวิษณุกลับตอบว่า การถวายสัตย์เป็นเรื่องของคณะรัฐมนตรีกับพระมหากษัตริย์

จึงอาจจะทำให้คนเข้าใจได้ว่า หากกล่าวถ้อยคำไม่ครบแล้วมีพระราชดำรัสลงมา อย่างนี้จะถือว่าเป็นการสมบูรณ์หรือไม่ เป็นไปไม่ได้ที่ในอนาคตจะมีนายกฯ ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือรองนายกฯ ชื่อ นายวิษณุ คนเดียวไปเรื่อยๆ เรื่องนี้จึงต้องหาบรรทัดฐานที่ชัดเจนต่อไป

ส่วนจะเป็นกลายปัญหาต่อไปในอนาคตหรือไม่นั้น นายปิยบุตร กล่าวว่า ปัญหาทั้งหมดเป็นอาการของ “โรค” ความจริงเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตสามารถแก้ไขได้ แต่วันนี้นายกฯ กลับหนีปัญหา หากยอมรับและแก้ไขก็จบ แต่ท่านไม่ได้พิสูจน์ความเป็นผู้นำและรับผิดชอบสิ่งที่พูด ดังนั้น ความรับผิดชอบของท่านคืออะไร ตนอยากทราบว่า อะไรทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ หยิบกระดาษออกมาจากกระเป๋าแล้วกล่าวถ้อยคำปฏิญาณไม่ครบถ้วน

สำหรับคำถามที่ว่า เมื่อยังไม่ได้รับคำตอบหลังจากนี้จะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป นายปิยบุตร กล่าวว่า ทางพรรคฝ่ายค้านยังไม่ได้คุยกัน ทางเลือกหนึ่งที่ได้มีการพูดคุยกันเอาไว้ แต่ยังไม่ทราบว่าจะมีการดำเนินการหรือไม่คือสิ่งที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ได้อภิปรายเอาไว้ ซึ่งในความเห็นส่วนตัวของตนเห็นว่าน่าจะพอสมควรแก่เหตุ วันนี้ตนคิดว่าพี่น้องประชาชนตัดสินใจและประเมินได้ว่าทางฝ่ายค้านเราพยายามเต็มที่แล้วในการยึดรัฐธรรมนูญเป็นหลัก

และทางนายกฯ ก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าท่านเป็นคนที่ไม่ได้แยแสต่อรัฐธรรมนูญเหมือนที่ตนได้อภิปรายในรัฐสภา เรื่องนี้เป็นปัญหาในภาพรวมทั้งหมดต้องไม่ลืมว่ารัฐธรรมนูญบอกว่าใน 1 ปีจะเปิดอภิปรายตามมาตรา 152 ได้ 1 ครั้ง อภิปรายแบบลงมติไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 ได้ 1 ครั้ง ปีนี้เราเหลืออีก 3 เดือน ซึ่งซีกพรรคฝ่ายค้านเราก็พิจารณาเรื่องนี้อยู่ว่า 3 เดือนสุดท้ายหลังเปิดประชุมสภาในเดือน พ.ย.เราจะมีการขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่

“เรื่องนี้มันใหญ่เกินไปถ้าไปถึงจุดที่ว่าสังคมไทยมองเห็นกันว่านายกฯ ที่ชื่อพล.อ.ประยุทธ์ทำอะไรก็ได้รับการยกเว้นจากรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะส่งไปองค์กรไหนท่านก็รอดหมดทุกอัน จนทำให้สังคมคิดกันว่าตัวพล.อ.ประยุทธ์ได้รับข้อยกเว้นตลอดแบบนี้มันเกินกว่าที่ฝ่ายค้านจะประเมินแล้ว แต่เป็นเรื่องของสังคมไทยทั้งประเทศว่ารัฐธรรมนูญใช้กับทุกคนแต่มีข้อยกเว้นให้พล.อ.ประยุทธ์”นายปิยบุตร กล่าว