"วราวุธ" สั่งสอบ "เอ๋ ปารีณา" ครองที่ดิน ภทบ.1,700 ไร่

by ThaiQuote, 12 พฤศจิกายน 2562

รมว.ทส. สั่งกรมป่าไม้ ตรวจสอบ การครอบครองที่ดิน ภทบ. 5 กว่า 1,700 ไร่ ของ ส.ส. ปารีณา เผยใช้เวลา 1-2 วัน ยันทุกอย่างต้องว่ากันตามระเบียบ หลักเกณฑ์

วันนี้(12 พ.ย.62) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้กรมป่าไม้ไปตรวจสอบรายละเอียด กรณี ที่ดิน ภทบ.5 กว่า 1,700 ไร่ ที่ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ครอบครอง ว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร เพราะที่ดิน ภบท.นั้น มีอยู่มากมายเหลือเกิน ในเบื้องต้นต้องดูก่อนว่าพื้นที่ที่ดินดังกล่าว 1,700 ไร่นั้น เป็นของหน่วยราชการใดที่เป็นคนรับผิดชอบ ป่าไม้ หรือ ส.ป.ก.

“ทาง ส.ส. ปารีณายินดีให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ซึ่งได้สั่งการไปแล้ว ถ้าเป็นของกรมป่าไม้ก็ต้องมาพิจารณากันว่าหลักเกณฑ์การได้มานั้น ได้มาตั้งแต่เมื่อไร อย่างไร แล้วถึงว่ากันตามระเบียบเพราะทุกอย่างเขียนไว้ชัดเจน ไม่มีอะไรซับซ้อนเช่นกัน คงต้องใช้เวลาตรวจสอบ อีก 1-2 วัน เนื่องจากขณะนี้ประชุมคณะรัฐมนตรีกันอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี” นายวราวุธ กล่าว

สำหรับการตรวจสอบที่ดินดังกล่าว เมื่อวานนี้ (11 พ.ย. 62) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ได้ส่งเอกสารคำร้องทางไปรษณีย์อีเอ็มเอสถึง ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบการครอบครองพื้นที่ ภบท.5 ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ตามที่ได้ยื่นแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.ไว้ในปี 2562 ว่า มีที่ดิน ภบท.5 อยู่ในครอบครอง 58 รายการ เนื้อที่ 1,706 ไร่ ที่หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เป็นการครอบครองถูกต้องหรือไม่

โดยเฉพาะ น.ส.ปารีณาได้ให้สัมภาษณ์ ยอมรับว่า ครอบครองที่ดินดังกล่าวนานแล้วนั้นยิ่งเป็นการมัดความผิด เพราะที่ ภบท.5 ตามกฎหมายไม่สามารถครอบครองได้

ขณะที่ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ได้กล่าวถึงกรณีนายเรืองไกร ยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบที่ดิน ภบท.5 กว่า 1,700 ไร่ ในพื้นที่หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ผ่าน “รายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand เปิดความลับ” ทางช่อง 9 อสมท เอ็มคอตเอชดีว่า ที่ดินดังกล่าวได้มานานมากแล้ว เป็นที่ดินที่กรมป่าไม้อนุญาตให้เข้าทำกินได้ ทำกินมานานแล้วและได้เสียภาษีดอกหญ้ามามากกว่า 10 ปี และเสียทุกครั้งที่เรียกเก็บทำอย่างถูกต้อง

เมื่อถามว่าที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ แต่ได้รับการจัดสรรจากกรมป่าไม้ น.ส.ปารีณาตอบว่า ไม่ได้รับการจัดสรร เราสามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ได้แต่จะต้องเสียภาษี เมื่อถามต่อว่า ใครอนุญาตให้เข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ น.ส.ปารีณาตอบว่า มันเป็นกฎหมาย คือใครเข้าไปใช้ประโยชน์ได้แต่จะต้องเสียภาษี และเป็นการใช้ประโยชน์ด้านการเกษตร ซึ่งครอบครองมานานตั้งแต่ยังไม่ได้เลี้ยงไก่ มีการปลูกอ้อย ปลูกส้ม เลี้ยงหมู ทำมาหลายอย่างหลายแบบมานาน

เมื่อถามต่อว่า นายเรืองไกรไปค้นข้อมูลว่ามีการยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.เมื่อปี 2557 แต่ไม่ได้มีการระบุถึงพื้นที่ 1,700 ไร่นี้เลย เป็นการได้มาหลังปี 2557 หรือไม่ น.ส.ปารีณาตอบว่า ไม่ใช่ได้มา ไม่มีใครได้ไปทั้งนั้น เป็นที่ของหลวง แต่ว่าเราเข้าไปทำประโยชน์ได้พื้นที่ ภบท.5 มีเยอะมากทั่วประเทศไทย ปัจจุบันเกษตรกรทุกคนทำลักษณะเดียวกับตนทั้งนั้น คือครอบครองทำกินเสียภาษี แต่ไม่มีเอกสารสิทธิ เป็นการจ่ายภาษีคล้ายภาษีดอกหญ้า เราไปแจ้งบัญชีทรัพย์สินไม่ได้เพราะไม่ใช่ของของเรา บัญชีทรัพย์สินคือต้องเป็นทรัพย์สินของเราแต่นี่ไม่ใช่ของเราแต่เป็นทรัพย์สินของกรมป่าไม้ของหลวงเลยไม่ได้แจ้ง ป.ป.ช. แต่ปัจจุบันบัญชีทรัพย์สินปี 2562 ป.ป.ช.ขอให้แจ้ง แต่ไม่ได้แจ้งว่าเราเป็นเจ้าของ

ถ้าดูรายละเอียดให้ดีคือ การประเมินราคาประเมินด้วยความลำบากมาก เพราะกรมที่ดินไม่รับประเมิน เพราะเป็นป่า ก็ใส่อะไรไปก็ได้เพราะเราไม่มีความสามารถในการประเมินได้อยู่แล้ว แต่ว่า ป.ป.ช.ขอความร่วมมือว่า ถ้ามีที่ดินประเภทของกรมป่าไม้ที่เข้าไปทำกินอยู่ให้แจ้งด้วยจึงได้แจ้งไป

เมื่อถามว่า ที่ดินที่เรียกว่า ภบท.5 ซึ่งเรียกว่าที่ดินมือเปล่า ใครเข้าไปครอบครองไม่ได้ จึงอาจเรียกว่าเป็นการเข้าไปทำประโยชน์หรือเข้าไปบุกรุกในที่ต้องห้าม น.ส.ปารีณาตอบว่า แตกต่างกันระหว่างเข้าไปทำประโยชน์กับการเข้าไปบุกรุก คือที่ดินของป่าไม้ ภบท.ต่างๆมีหลายประเภท ป่าไม้เองมีป่าชุมชน เช่น กรณีที่นางสมพร มารดาของนายธนาธร ถูกชาวบ้านขอคืน และมีประเภทแบบป่าไม้สงวนรกร้าง ที่เข้าไปทำประโยชน์ได้เลย และป่าไม้ประเภทที่ไม่อนุญาตให้เข้าไปทำประโยชน์ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการเก็บเห็ดหรือหาอึ่ง ดังนั้น คนอาจจะสับสนว่า บางคนทำไมถูกข้อหาบุกรุกและต้องติดคุก ซึ่งการบุกรุกที่ป่าไม้มันติดคุกอย่างเดียว แต่ว่าบางประเภทเป็นป่าสงวนรกร้าง หรือป่าชุมชน แต่คนอาจจะไปตีรวมกันหมดว่าเป็นการบุกรุก

เมื่อถามว่า ที่ดิน ภบท.5 ของ น.ส.ปารีณา และนางสมพร ต่างก็อยู่ในเขต ต.รางบัว อ.จอมบึงเหมือนกัน น.ส.ปารีณาตอบว่า ตนอยู่หมู่ 6 นางสมพร อยู่หมู่ 13 ของเขาคาบเกี่ยว 3 หมู่บ้าน ของนางสมพร มี ภบท. 5 กับ นส. 2 ซึ่งชาวบ้านขอคืนเพื่อไปทำป่าชุมชน