“วีรศักดิ์” เสริมแกร่งเกษตรกรอีสานใต้ สร้างแต้มต่อการค้าด้วย FTA

by ThaiQuote, 14 ธันวาคม 2562

รมช.พาณิชย์ นำทัพกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เสริมศักยภาพเกษตรกรอีสานใต้ ให้ความรู้ด้าน FTA หวังติดปีกสินค้าเกษตรไทย ขยายส่งออกสู่ตลาดโลก

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนา “เพิ่มศักยภาพเกษตรกรในยุคการค้าเสรี” ซึ่งกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ร่วมกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2562 ณ โรงแรมสุนีย์ แกรนด์ แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ จังหวัดอุบลราชธานี ว่า กระทรวงพาณิชย์ มีนโยบายส่งเสริมให้เกษตรกรไทยสามารถพัฒนาผลผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด และใช้ประโยชน์จาก ความตกลงการค้าเสรี หรือเอฟทีเอ ขยายการส่งออกสินค้าเกษตรไทยสู่ตลาดโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้จัดสัมมนาครั้งนี้ขึ้น

 

 

โดยได้เชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ทั้งการตลาด การพัฒนาสินค้า และข้อมูลเอฟทีเอ มาแบ่งปันประสบการณ์กับเกษตรกรกลุ่มภาคอีสานใต้ 4 จังหวัด ทั้งอุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร อำนาจเจริญ ที่เข้าร่วมกว่า 150 คน พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมสัมมนานำสินค้าเกษตรของตนมาให้ผู้เชี่ยวชาญแนะนำการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบสนองความต้องการตลาด ซึ่งมีผู้สนใจร่วมนำผลิตภัณฑ์ อาทิ ข้าวอินทรีย์ ชาหอมแดง น้ำมันรำข้าว มัลเบอรี่แปรรูป ผ้ากาบบัว และผ้าไหม มาให้วิเคราะห์อย่างคึกคัก

 

 

ทั้งนี้ ตนตั้งเป้าว่าความร่วมมือระหว่างกรทรวงพาณิชย์และสภาเกษตรกรแห่งชาติครั้งนี้ จะช่วยสร้างความเข้มแข็งและสร้างรายได้แก่เกษตรกรไทยอย่างยั่งยืน

“ปัจจุบันไทยมีการทำเอฟทีเอ รวม 13 ฉบับ กับ 18 ประเทศ เช่น ประเทศสมาชิกอาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง อินเดีย. ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ประโยชน์ที่เกษตรกรจะได้รับ คือ สามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่แลกเปลี่ยนกันในวันนี้ไปพัฒนาสินค้าของตนให้สามารถตอบสนองความต้องการของตลาด เพิ่มยอดขาย และสร้างรายได้ที่แน่นอนมั่นคงให้กับกลุ่มเกษตรกร และสมาชิกในเครือข่ายของสภาเกษตรกรแห่งชาติต่อไป” นายวีรศักดิ์กล่าว

นายวีรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในโอกาสนี้ยังได้ลงพื้นที่พบปะเกษตรกร วิสาหกิจชุมชนโคขุนสมุนไพรดอนมดแดง ที่ผลิตอาหารสัตว์เองจากแปลงข้าวโพดและแปลงหญ้าของเกษตรกร ทำให้สามารถลดต้นทุนและควบคุมคุณภาพของเนื้อโคขุนได้ และมีโอกาสที่จะพัฒนาแม่พันธุ์โค และโคขุน คุณภาพพรีเมี่ยมเพื่อส่งออก

ซึ่งตนได้แนะนำเกษตรกรให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล รวมถึงให้ใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอมาสร้างแต้มต่อทางการค้าและขยายตลาดส่งออก โดยขณะนี้ประเทศคู่ค้าของไทย เช่น อาเซียน และจีน ได้ยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากรกับสินค้าโคเนื้อส่งออกจากไทยแล้ว

 

 

ดังนั้น หากเกษตรกรพัฒนาคุณภาพสินค้าโคเนื้อของไทยให้ตอบสนองความต้องการของตลาด มีกระบวนการผลิต และโรงงานชำแหละที่ได้มาตรฐาน GMP ฮาลาล และความปลอดภัย แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลากหลาย เช่น เนื้อชาบูสไลด์แช่แข็งพร้อมบริโภค เนื้ออบกรอบ เป็นต้น จะทำให้ผลิตภัณฑ์โคเนื้อของไทยมีโอกาสสูงในการขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ

 

 

ทั้งนี้ ในช่วง 10 เดือนแรก (มกราคม-ตุลาคม) ของปี 2562 ไทยส่งออกโค/กระบือมีชีวิตสู่ตลาดโลก 192.29 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปี 2561 ร้อยละ 30 มีตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ ลาว สัดส่วนร้อยละ 95 ของการส่งออกโคกระบือมีชีวิตทั้งหมดของไทย รองลงมาคือ มาเลเซีย สัดส่วนร้อยละ 4 เวียดนาม สัดส่วนร้อยละ 1 กัมพูชา สัดส่วน ร้อยละ 0.1 และ เมียนมา สัดส่วน ร้อยละ 0.04

“วิสาหกิจชุมชนเลี้ยงโคขุนสมุนไพรดอนมดแดง เป็นกลุ่มเกษตรกรที่มีความเข้มแข็ง มีโอกาสที่จะพัฒนาแม่พันธุ์โคและโคขุนให้ได้คุณภาพพรีเมียมเพื่อส่งออก เกษตรกรต้องให้ความสำคัญการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล และใช้ประโยชน์ความตกลงจากเอฟทีเอ ประกอบกับพันธกิจของกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ด้านการสร้างความรู้ ความเข้าใจเรื่องความตกลงการค้าเสรี ซึ่งเป็นประโยชน์กับเกษตรกรซึ่งช่วยเพิ่มแต้มต่อทางการค้า รุกตลาดทางการค้าเอฟทีเอ ตลอดจนยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันในระยะยาว” นายวีรศักดิ์ กล่าว

 

 

นายวีรศักดิ์ เพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ยังได้ลงพื้นที่จุดผ่านแดนถาวรช่องเม็ก อำเภอสิรินธร เพื่อเยี่ยมชมการดำเนินการ ณ ที่ด่าน และได้หารือถึงความเป็นไปได้ที่จะขยายเวลาทำการของด่านเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนอีกด้วย โดยจุดผ่านแดนช่องเม็กถือเป็นจุดผ่านแดนที่สำคัญติดกับเมืองปากเซ สปป.ลาว ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 3 ของ สปป. ลาว รองจากนครหลวงเวียงจันทน์ และสะหวันนะเขต

 

อีกทั้งสามารถเชื่อมต่อไปยังเวียดนามตอนใต้ และกัมพูชาตอนเหนือได้ ปัจจุบัน การค้าชายแดนที่จุดผ่านแดนนี้ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2562 มีมูลค่าประมาณ 8,500 ล้านบาท เป็นการนำเข้า 2,300 ล้านบาท และส่งออก 6,200 ล้านบาท สินค้าหลักที่มีการซื้อขายที่ชายแดนของไทย ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง รถยนต์และส่วนประกอบ ทองแดงและผลิตภัณฑ์ สินค้าปศุสัตว์ เครื่องรับส่งสัญญาณโทรศัพท์ เป็นต้น


ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

พาณิชย์ พร้อมลุย หนุนแบรนด์ไทยลุยโอกาสสงครามการค้า