ราชกิจจาฯ ประกาศแล้ว ระเบียบ กกต.ว่าด้วยเลือกตั้งท้องถิ่น 2562

by ThaiQuote, 18 ธันวาคม 2562

ราชกิจจานุเบกษา ประกาศระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 แล้ว

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 โดยมีข้อกำหนดทั้งหมด 231 ข้อ มีสาระที่สำคัญ อย่างเช่น

การกำหนดเขตเลือกตั้ง กทม.-ท้องถิ่น

ข้อ 12 เขตเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้

(1) การเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ให้ถือเขตเป็นเขตเลือกตั้ง ถ้าเขตใดมีจำนวนราษฎรตามหลักฐานการทะเบียนราษฎรที่ประกาศในปีสุดท้ายก่อนปีที่มีการเลือกตั้งเกินหนึ่งแสนห้าหมื่นคนให้แบ่งเขตนั้นออกเป็นเขตเลือกตั้งตามจำนวนสมาชิกสภากรุงเทพมหานครที่จะพึงมี โดยแต่ละเขตเลือกตั้งต้องมีจำนวนราษฎรใกล้เคียงกัน สำหรับจำนวนสมาชิกสภากรุงเทพมหานครที่จะพึงมีในแต่ละเขตให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร

(2) การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ให้ถือเขตอำเภอเป็นเขตเลือกตั้ง ในกรณีที่อำเภอใดมีสมาชิกได้เกินกว่าหนึ่งคน ให้แบ่งเขตอำเภอเป็นเขตเลือกตั้งเท่ากับจำนวนสมาชิกที่จะพึงมีในอำเภอนั้น และมีสมาชิกเขตเลือกตั้งละหนึ่งคน สำหรับจำนวนสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่จะพึงมีในแต่ละอำเภอให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยองค์การบริหารส่วนจังหวัด

(3) การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำบล ให้แบ่งเขตเทศบาลเป็นสองเขตเลือกตั้งการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลเมือง ให้แบ่งเขตเทศบาลเป็นสามเขตเลือกตั้ง การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนครหรือการเลือกตั้งสมาชิกสภาเมืองพัทยา ให้แบ่งเขตเทศบาลหรือเขตเมืองพัทยาเป็นสี่เขตเลือกตั้ง ในการแบ่งเขตเลือกตั้งต้องมีจำนวนสมาชิกสภาเทศบาลหรือสมาชิกสภาเมืองพัทยาเท่ากันทุกเขตเลือกตั้ง

(4) การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ให้ถือเขตหมู่บ้านเป็นเขตเลือกตั้งเว้นแต่กฎหมายว่าด้วยสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบลจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น

(5) การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ให้ถือเขตขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นเป็นเขตเลือกตั้ง เว้นแต่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น

หลักเกณฑ์คำนวณค่าใช้จ่ายเลือกตั้ง

ข้อ 119 เมื่อจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นประเภทใดแล้ว ให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดประกาศกำหนดจำนวน เงินค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของผู้สมัครก่อนประกาศให้มีการเลือกตั้ง คำนึงถึงหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้

(1) ขนาดพื้นที่ และลักษณะทางภูมิศาสตร์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

(2) จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

(3) จำนวนหน่วยเลือกตั้ง

(4) ดัชนีราคาผู้บริโภคตามประกาศของกระทรวงพาณิชย์

เพื่อประโยชน์ในการกำหนดจำนวนเงินค่าใช้จ่ายตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไม่เกินจำนวนเจ็ดคน ซึ่งประกอบไปด้วยผู้อำนวยการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดเป็นประธาน ปลัดจังหวัดหรือผู้แทน พาณิชย์จังหวัดหรือผู้แทน ท้องถิ่นจังหวัดหรือผู้แทน ผู้แทนหัวหน้าพนักงานส่วนท้องถิ่นแต่ละประเภทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และบุคคลอื่นที่ ประธานอนุกรรมการเห็นสมควรเป็นอนุกรรมการ โดยให้พนักงานของสำนักงานที่ผู้อำนวยการ การเลือกตั้งประจำจังหวัดมอบหมายเป็นเลขานุการ เพื่อพิจารณาให้ความเห็น

สำหรับกรุงเทพมหานคร ให้มีคณะอนุกรรมการตามวรรคสองไม่เกินจำนวน 7 คน ซึ่งประกอบไปด้วย ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานครเป็นประธาน ผู้แทนสำนักงาน ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนสำนักงานปกครองและทะเบียนกรุงเทพมหานคร ผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ ผู้แทนสำนักการคลังกรุงเทพมหานคร และบุคคลอื่นที่ประธานอนุกรรมการเห็นสมควรเป็นอนุกรรมการ โดยให้พนักงานของสำนักงานที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานครมอบหมายเป็น เลขานุการ เพื่อพิจารณาให้ความเห็น

บทลงโทษตัดสิทธิสำหรับผู้ไม่ใช้สิทธิ

ข้อ 59 ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีหน้าที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง หากผู้ใดไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งโดยมิได้แจ้งเหตุ หรือแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งแล้วแต่เหตุนั้นมิใช่เหตุอันสมควร ให้ผู้นั้นถูกจำกัดสิทธิ ตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น

ทั้งนี้ ในมาตรา 42 ของพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 ระบุว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ใดไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งและมิได้แจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง

หรือแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งแล้วแต่เหตุนั้นมิใช่เหตุอันสมควร ผู้นั้นถูกจำกัดสิทธิ ดังต่อไปนี้ (1) สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา

(2) สมัครรับเลือกเป็นกำนันและผู้ใหญ่บ้านตามกฎหมายว่าด้วยลักษณะปกครองท้องที่

(3) เข้าชื่อร้องขอให้ถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วย การลงคะแนนเสียงเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น

(4) ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการการเมือง และข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมืองตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการรัฐสภา

(5) ดำรงตำแหน่งรองผู้บริหารท้องถิ่น เลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการผู้บริหาร ท้องถิ่น ประธานที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น ที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น หรือคณะที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

(6) ดำรงตำแหน่งเลขานุการประธานสภาท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการประธานสภาท้องถิ่น และเลขานุการรองประธานสภาท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

การจำกัดสิทธิให้มีกำหนดเวลาครั้งละ 2 ปีนับแต่วันเลือกตั้งครั้งที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง หากในการเลือกตั้งครั้งต่อไปผู้นั้นไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งอีก ให้นับเวลาการจำกัดสิทธิ ครั้งหลังนี้โดยนับจากวันที่มิได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งใหม่ และหากกำหนดเวลาการจำกัดสิทธิครั้งก่อน ยังเหลืออยู่เท่าใดให้กำหนดเวลาการจำกัดสิทธินั้นสิ้นสุดลง

หลักเกณฑ์การประกาศผลเลือกตั้งใน 30 วัน

ข้อ 178 เมื่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดได้รับประกาศผลการนับคะแนนเลือกตั้ง จากคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้วเห็นว่า การเลือกตั้งและการนับคะแนนเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ให้รายงานต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งตรวจสอบเบื้องต้นแล้วมีเหตุอันควรเชื่อว่าผลการเลือกตั้ง เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมให้ประกาศผลการเลือกตั้งภายใน 30 วันนับแต่วันเลือกตั้ง ดังนี้

(1) เขตเลือกตั้งใดที่มีจำนวนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นได้หนึ่งคนให้ผู้สมัครที่ได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งมากที่สุดและมากกว่าคะแนนเสียงที่ไม่เลือกผู้ใดเป็นผู้ได้รับเลือกตั้ง

(2) เขตเลือกตั้งใดที่มีสมาชิกสภาท้องถิ่นมากกว่าหนึ่งคนให้ผู้สมัครซึ่งได้รับคะแนนเลือกตั้งมากที่สุดเรียงตามลำดับลงมาในเขตเลือกตั้งนั้นและได้คะแนนมากกว่าคะแนนเสียงที่ไม่เลือกผู้ใด เป็นผู้ได้รับเลือกตั้งตามจำนวนสมาชิกสภาท้องถิ่นที่จะพึงมีในเขตเลือกตั้งนั้น

(3) เขตเลือกตั้งใดที่มีผู้สมัครเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นน้อยกว่าหรือเท่ากับจำนวนสมาชิก สภาท้องถิ่นที่จะพึงมีในเขตเลือกตั้ง หรือในกรณีที่เขตเลือกตั้งใดมีผู้สมัครเป็นผู้บริหารท้องถิ่นเท่ากับจำนวนผู้บริหารท้องถิ่นที่จะพึงมีในเขตเลือกตั้งนั้น ผู้สมัครนั้นจะได้รับเลือกตั้งต่อเมื่อได้คะแนนเสียงเลือกตั้งไม่น้อยกว่าร้อยละสิบของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น และมากกว่าคะแนนเสียงที่ไม่เลือกผู้ใด

อ่านรายละเอียดทั้งหมดที่นี้ 

ข่าวเด่นที่น่าสนใจ
‘อนุสรณ์’อัดแรง ‘ประยุทธ์-สุภรณ์’ จะเตะหมา ให้ดูหน้าเจ้าของ