รองนายกฯ หวั่นภัยแล้ง เผยเร่งเจาะบาดาลเพิ่ม 500 บ่อทั่วประเทศโดยเฉพาะพื้ที่ภาคเหนือ และ อีสาน วอนชาวนา หยุดทำนาปรัง หันมาปลูกพืชน้ำน้อยทดแทน ขณะข้อมูลน้ำทั่วประเทศ ณ 12 ธ.ค. มีทั้งสิ้น 5.1 หมื่นล.ลูกบาศก์เมตร ถือว่ามีปริมาณน้อย

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2562 วันนี้(20 ธ.ค.62) ว่า ในปีนี้เป็นปีที่น้ำแล้งมากกว่าปกติ ซึ่งจะส่งผลไปถึงปีหน้า 2563 ดังนั้นต้องเตรียมการนำน้ำใต้ดินและน้ำบนดิน มาใช้อย่างอย่างเพียงพอทั้งในการอุปโภคและบริโภค ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ในส่วนของน้ำใต้ดินได้ทำการเจาะน้ำบาดาลเพิ่มประมาณ 500 บ่อทั่วประเทศ ในพื้นที่ภาคอีสานและภาคเหนือ

"อยากฝากไปถึงประชาชนขอให้ช่วยกันประหยัดน้ำ ในส่วนของการทำนาปรังขอให้เกษตรกรอย่าเพิ่งทำ เพราะเราไม่มีน้ำแล้วจะทำนาปรังได้อย่างไร และขอให้ปลูกพืชน้ำน้อยดีกว่า แต่ต้องดูว่ากรมชลประทานมีน้ำสำหรับการเพาะปลูกหรือไม่ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) ได้ดำเนินการอยู่แล้ว โดย รัฐบาลได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อเป็นการจูงใจแก่พี่น้องชาวเกษตรกรในการเปลี่ยนการเพาะปลูกไปแล้ว" พล.อ.ประวิตร กล่าว

พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในที่ประชุมได้รับทราบการรายงานสถานการณ์น้ำในปัจจุบันจากผลการสำรวจ เมื่อ 12 ธันวาคม 2562 พบว่า ปริมาณน้ำทั้งประเทศจำนวน 51,364 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) เป็นปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 38 แห่ง ขนาดกลาง 354 แห่ง และขนาดเล็ก 141,097 แห่ง ถือว่ามีปริมาณน้ำน้อย จึงจำเป็นต้องเร่งบริหารจัดการน้ำ ส่วนอื่นๆ มาทดแทน

นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีการพิจารณาเห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านการจัดการน้ำเสียชุมชน 20 ปี (2561 - 2580) เห็นชอบโครงการพัฒนาปี 2562 และปี 2563 (การประปาส่วนภูมิภาค) และเห็นชอบโครงการพัฒนาแหล่งน้ำและการจัดการทรัพยากรน้ำรองรับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) รวมถึงเห็นชอบแผนหลักการพัฒนาหนองหาร จ.สกลนคร ซึ่งเป็นไปตามแผนงานที่ได้ผ่านการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการกลั่นกรองแล้วด้วย

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

ครม. ถก ปัญหา "น้ำแล้ง-น้ำท่วม"เตรียมวางแผนแก้ระยาว