สภาเห็นชอบปรับลดงบประมาณปี' 63 ออกไป 1.6 หมื่นล้านบาท

by ThaiQuote, 8 มกราคม 2563

"อุตตม" แถลงหลักการงบปี 63 ปรับลด 16,231 ล้านบาท อ้างอิงความจำเป็น และตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ลดทอนค่าก่อสร้าง เพิ่มงบหน่วยงานให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ

 

วันที่ 8 มกราคม 2563 - นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง และในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 แถลงชี้แจงสาระสำคัญ ในการพิจารณารายมาตราวาระที่ 2 ที่รัฐสภา ว่า ได้มอบหมายให้แต่ละกระทรวงไปพิจารณาความจำเป็นในการใช้งบประมาณ ทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ และส่งข้อมูลมาให้คณะอนุกรรมาธิการพิจารณา ซึ่งคณะกรรมการมีมติปรับลดงบประมาณจำนวน 16,231 ล้านบาท โดยพิจารณาถึงความสอดคล้องตามยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 แผนพัฒนาเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ตลอดจนนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากแผนการใช้จ่ายงบประมาณปี 2562 ทั้งรายการที่มีเป้าหมายการดำเนินงานที่ไม่ชัดเจน การปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินงานให้เกิดการประหยัด เช่น การประชุมสัมมนา การจ้างเหมาบริการ การประชาสัมพันธ์ การเดินทางไปราชการต่างประเทศ และโครงการที่ดำเนินการล่าช้ากว่าแผนที่กำหนดไว้ และไม่สามารถใช้จ่ายได้ทัน ในปี 2563 หรือรายการผูกพันงบประมาณเดิมที่รายการจัดซื้อจัดจ้าง ต่ำกว่างบประมาณที่เสนอไว้ และรายการงบประมาณต่างๆ ที่สามารถปรับลดได้ เช่น ค่าก่อสร้างตามค่าวัสดุก่อสร้าง ที่มีแนวโน้มลดลง โครงการรายการที่สามารถใช้งบจากแหล่งอื่น ทั้งเงินนอกงบประมาณ หรืองบประมาณที่สามารถจัดเก็บเองได้ รวมถึงเงินทุนหมุนเวียน

นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มงบประมาณให้สำนักเลขาธิการวุฒิสภา สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานศาลปกครอง สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานประกันสังคม และกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา โดยให้หน่วยงานรับงบประมาณเหล่านี้ มีงบประมาณเพียงพอสำหรับการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติต่อไป และมีการเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการจำนวน 27 ล้านบาท ไปเป็นงบประมาณของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม

 

อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่า การปรับลดรายการเพิ่มงบประมาณได้ให้ความสำคัญกับความพร้อม และศักยภาพของหน่วยงาน และลดความซ้ำซ้อนของเป้าหมายการดำเนินงาน รวมไปถึงผลการบริหารงานที่ผ่านมารายการที่มีความจำเป็นเร่งด่วน และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนโดยตรงเป็นสิ่งสำคัญที่ถูกนำมาพิจารณา เพื่อให้สามารถดำเนินการตามกรอบงบประมาณรายจ่าย 3.2 ล้านล้านบาทตามที่รัฐบาลได้ตั้งเอาไว้

ทั้งนี้ สำหรับการแปรญัตติ มีการสงวนคำแปรญัตติตั้งแต่มาตรา 1 โดยนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ในฐานะกรรมาธิการเสียงข้างน้อย แปรญัตติว่าควรบัญญัติถ้อยคำว่า (ฉบับออกไม่ทันปีงบประมาณ) ต่อท้ายชื่อร่างกฎหมาย เนื่องจากร่างกฎหมายฉบับนี้ออกไม่ทันปีงบประมาณ 2563

โดยนายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมาธิการชี้แจงว่า โดยปกติชื่อว่า พ.ร.บ.จะไม่มีการวงเล็บหรือขยายความต่อท้ายว่าออกทันหรือไม่ทันตามปีงบประมาณ ซึ่งเนื้อหาส่วนนี้ได้บัญญัติไว้ในหลักการและเหตุผลของร่างกฎหมายแล้ว โดยงบประมาณสำรองจ่ายที่ใช้มาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมปี 2562 ให้ถือเป็นงบประมาณของปี 2563 แล้ว

จากนั้นที่ประชุมมีมติ 223 ต่อ 3 เสียง งดออกเสียง 175 ไม่ออกเสียง 2 เสียงเห็นชอบตามคณะกรรมาธิการเสียงข้างมาก

 

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
ครม. เห็นชอบ ม.ต่อเติม เสริมทุน SMEs สร้างไทย