ฮือฮา!เสียงคล้าย “จักรทิพย์-วิระชัย” ปมห้ามยุ่งคดี “บิ๊กโจ๊ก”

by ThaiQuote, 9 มกราคม 2563

ยังคงต้องจับตาต่อเนื่อง คดียิงรถ “บิ๊กโจ๊ก” มีคลิปเสียงหลุด คล้าย “จักรทิพย์-วิระชัย” ใจความห้ามยุ่งคดีนี้มากเกินไป ด้านเจ้าตัวยอมรับโทรรายงานคดีกับผบ.ตร.จริง แต่ไม่รู้มีเสียงหลุด ชี้ถูกดักฟัง ด้านประวิตร ไม่รู้เรื่องบอกไม่ได้คุมตำรวจแล้ว

จากกรณีคนร้ายยิงปืนรถยนต์ส่วนตัวของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับความเสียหาย และต่อมา พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า สาเหตุที่มีการลอบยิงตนนั้น มาจากประเด็นการยกเลิกโครงการจัดซื้อจัดจ้างเครื่องไบโอเมทริกซ์ มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ขณะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งทำให้มีคนที่เสียผลประโยชน์ พร้อมกับระบุด้วยว่ารู้ว่าใครสั่งการ รวมทั้งยังกล่าวย้ำด้วยว่า “ถ้าผมเป็น ผบ.ตร.จับคนร้ายไม่ได้ผมต้องรับผิดชอบ” และด้าน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เข้ามาร่วมในการทำงานดูแลคดีนั้น

ล่าสุด รายการเจาะลึกทั่วไทย ประจำวันที่ 9 ม.ค. ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 เอ็มคอท ได้มีการนำเสนอข่าว “แฉคลิปลับ....เบรกคดีโจ๊ก” โดยในคลิปเสียงดังกล่าว เป็นการสนทนาของผู้ชาย 2 คน และเนื้อหามีประเด็นการพูดถึงคดีของพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ และมีการระบุในเชิงเปรียบเทียบว่า คล้ายกับเสียงของ พล.อ.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจได้มีการตรวจสอบรถยนต์ของพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เพิ่มเติมเพื่อเก็บหลักฐาน โดยมีพล.ต.อ.วิระชัย ได้เข้าร่วมในการเก็บหลักฐานด้วย และมีการตรวจพบหัวกระสุนปืนเพิ่มอีก 6 หัว รวมกับที่พบก่อนหน้านี้เป็น 8 หัว โดยยังไม่ยืนยันว่าเป็นกระสุนขนาด .38 หรือ 9 มม. แต่หัวกระสุนปืนดังกล่าวค่อยข้างสมบูรณ์และใช้เป็นหลักฐานสำคัญในทางคดีได้

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่จะนำหัวกระสุนทั้งหมดตรวจผ่านระบบไอบิท เพื่อตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์หาข้อมูลของเกลียวหัวกระสุนปืนว่าถูกยิงจากอาวุธปืนชนิดใดและกระบอกใด คาดว่าใช้เวลาไม่นาน

พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวกับสื่อมวลชนที่ติดตามรายงานข่าวว่า ในกรณีพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ จะกล่าวว่าใครมีส่วนอยู่เบื้องหลัง และเป็นการสร้างสถานการณ์ หรือแค่ข่มขู่หรือไม่นั้น จะต้องรอการตรวจสอบให้แน่ชัดก่อน

อย่างไรก็ตาม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวยอมรับว่า ได้มีการพูดคุยทางโทรศัพท์กับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ เพื่อรายงานความคืบหน้าทางคดีจริง แต่ปฏิเสธไม่ขอตอบประเด็นถูก ผบ.ตร. สั่งเบรกให้ทำคดีนี้หรือไม่ ส่วนกรณีคลิปเสียงหลุดคล้ายตนเองกับ ผบ.ตร. นั้นระบุว่า ยังไม่ได้ฟังและขอเวลาตรวจสอบก่อน ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นการดักฟัง เพราะโทรศัพท์ปัจจุบันสามารถทำได้ง่าย

“ประวิตร” ยังไม่รู้คลิปหลุดเสียงคล้ายตำรวจใหญ่
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้กล่าวต่อคำถามสื่อมวลชนในกรณีนี้ว่า ในขณะนี้ตน ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับทั้ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ทาง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ระบุว่า ถูกลอบยิงมาจากการยกเลิกโครงการไบโอแมทริคซ์

ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึงกรณีคลิปเสียงที่หลุดออกมานั้นว่า ยังไม่ทราบกรณีคลิปเสียงคล้าย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ที่สนทนากับ พล.ต.อ.วิระชัย ที่ใจความมีการพูดในทำนองกดดันไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับคดีการยิงรถพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ในทำนองไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคดีนี้ เพราะตนไม่ได้คุมตำรวจแล้ว


ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองยัน โอเมทริกซ์ใช้ได้จริง
พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) ได้แถลงข่าวถึงกรณีถูกพาดพิงจาก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ว่าระบบไบโอเมทริกซ์ (Biometrics) ไม่มีประสิทธิภาพและเป็นโครงการที่ไม่โปร่งใสว่า ไม่ทราบว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เอาข้อมูลมาจากไหน ทั้งที่ไบโอเมทริกซ์เป็นระบบที่มีประสิทธิภาพสูงใช้งานได้จริงในระดับสากล ที่ผ่านมาสามารถจับกุมชาวต่างชาติที่ต้องคดี หรือมีประวัติก่ออาชญากรรม ที่พยายามหลบหนีเข้าประเทศไทยได้จำนวนมาก สร้างความเชื่อมั่นแก่นานาประเทศว่าประเทศไทยมีระบบคัดกรองที่มีมาตรฐานมีความปลอดภัย อีกทั้งป้องกันการทุจริตของเจ้าหน้าที่ได้อีกด้วย จึงถือว่าการนำระบบไบโอเมทริกซ์มาใช้คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป จึงต้องการชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจแก่สังคม

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

บิ๊กโจ๊ก ชี้ "ไบโอเมทริค" ปมถูกยิงรถ ลั่น ผบ.ตร.จับไม่ได้ต้องรับผิดชอบ