อิศรา เปิดเอกสาร 7 พรรคกู้ยืมเงิน ลุ้นซ้ำรอย อนาคตใหม่

by ThaiQuote, 13 มกราคม 2563

สำนักข่าวอิศรา เปิดเอกสาร 7 พรรคการเมือง ‘เพื่อไทย-ภูมิใจไทย-รปช.-ชาติไทยฯ-ชาติพัฒนา-พลังชล’ ‘ไทยรักษาชาติ’ กู้ยืมเงิน กรรมการบริหารพรรค -บุคคลอื่น ลุ้นเข้าข่ายมาตรา 72 ของ พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ หรือไม่

วันนี้ (13 ม.ค.63) สำนักข่าวอิศรา ได้เปิดเผยเอกสาร ข้อมูลจากงบการเงินของพรรคการเมือง ประจำปี 2561 ที่ต้องแจ้งต่อสำนักงาน กกต. พบว่า มีพรรคการเมืองอย่างน้อย 8 พรรค ที่แจ้งว่ามีเงินกู้ยืม หรือเงินกู้ยืมทดรองจ่าย โดนมีรายละเอียดดังนี้

ไม่ใช่แค่อนาคตใหม่! เปิดอีก 7 พรรคการเมืองกู้ยืมเงิน กก.บริหารพรรค-บุคคลอื่น ‘เพื่อไทย-ภูมิใจไทย-รปช.-ชาติไทยฯ-ชาติพัฒนา-พลังชล’ ก็มา ‘ไทยรักษาชาติ’ ด้วย ส่วนใหญ่แค่หลักสิบล้าน-เงินทดรองจ่าย

ประเด็นการกู้เงินของพรรคการเมืองกำลังกลายเป็นที่สนใจจากสาธารณชน ซึ่งเป็นผลมาจากคดี ‘อนาคตใหม่เอฟเฟกต์’ กรณีพรรคอนาคตใหม่กู้เงินนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ 2 ครั้ง รวมวงเงิน 191.2 ล้านบาท จนถูกคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นำไปขยายผลก่อนส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค ข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 72 โดยศาลรัฐธรรมนูญให้เวลาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน

สำหรับมาตรา 72 แห่ง พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ ห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ดํารงตําแหน่งในพรรคการเมืองรับบริจาคเงินทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า การกระทำของ กกต. ดังกล่าวมีใบสั่งจากใครหรือไม่ และการ ‘กู้ยืมเงิน’ ของพรรค ทำได้หรือไม่ อย่างไร ?

ความคืบหน้ากรณีนี้ ภายหลังการจัดงาน #วิ่งไล่ลุง โดยมีนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ภายหลังไปร่วมกิจกรรมด้วยนั้น ต่อมาเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2563 นายสมชัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า เตรียมเปิดข้อมูลเด็ดกรณีพรรคการเมืองที่นอกเหนือจากพรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงิน เช่น พรรคพลังชล พรรคมาตุภูมิ พรรคภูมิใจไทย และพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นต้น โดยรายการส่วนใหญ่จะกู้ยืมเงินจากคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อนำไปใช้จ่ายในการบริหารกิจการของพรรค เช่น ค่าเช่าสำนักงาน เป็นต้น (อ้างอิงข่าวจาก ไทยรัฐออนไลน์)

เพื่อให้สาธารณชนทราบข้อมูลมากขึ้น สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลจากงบการเงินของพรรคการเมือง รวม 82 พรรค ประจำปี 2561 ที่ต้องแจ้งต่อสำนักงาน กกต. พบว่า มีพรรคการเมืองอย่างน้อย 8 พรรค ที่แจ้งว่ามีเงินกู้ยืม หรือเงินกู้ยืมทดรองจ่าย ได้แก่

หนึ่ง พรรคอนาคตใหม่ แจ้งในหมายเหตุงบการเงิน ข้อ 10.2 สัญญาที่มีสาระสำคัญ ระบุว่า เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 2562 พรรคทำสัญญากู้ยืมเงินจาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ โดยมีรายละเอียดสำคัญว่า 1.จำนวนเงินต้นของเงินกู้เป็นจำนวน 161.2 ล้านบาท 2.กำหนดคิดดอกเบี้ยเงินกู้ดังกล่าวในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี 3.พรรคจะชำระเงินกู้ตามสัญญานี้ภายใน 3 ปี โดยการชำระหนี้เงินกู้จำนวน 80 ล้านบาทภายในปีที่ 1 จำนวน 40 ล้านบาทภายในปีที่ 2 และจำนวน 41.2 ล้านบาทภายในปีที่ 3 และ 4.หากพรรคชำระเงินกู้บางส่วนในระหว่างสัญญา คู่สัญญาตกลงให้คำนวณดอกเบี้ยจากยอดเงินกู้ที่พรรคยังคงค้างชำระ ซึ่งพรรคได้ชำระคืนเงินกู้ดังกล่าวบางส่วนแล้ว เพื่อลดภาระดอกเบี้ยดังกล่าว

(หมายเหตุสำนักข่าวอิศรา : ในหมายเหตุงบการเงินพรรคอนาคตใหม่ มิได้ระบุถึงการกู้ยืมเงินสัญญาที่สอง ทำขึ้นเมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2562 วงเงิน 30 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 2 ต่อปี – อ่านประกอบ : โชว์ละเอียดสัญญาปล่อยกู้‘ธนาธร-อนค.’ 2 ครั้ง 191 ล.-คิดดอกเบี้ยไม่เท่ากัน?)

นอกจากนี้แจ้งว่า มีเงินทดรองจ่ายจากผู้จัดตั้งพรรค 7,425,903 บาท

 

สอง พรรคเพื่อไทย ระบุในหมายเหตุงบการเงินในส่วนหนี้สินหมุนเวียนว่า มีเจ้าหนี้เงินสำรองจ่ายจากกรรมการ วงเงิน 13 ล้านบาท โดยระบุว่าเงินดังกล่าว เป็นเงินที่กรรมการนำมาสำรองจ่ายเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารสำนักงานพรรค และสาขาพรรค โดยเงินสำรองจ่ายดังกล่าวไม่มีดอกเบี้ย

 

สาม พรรคภูมิใจไทย ระบุในหมายเหตุงบการเงินในส่วนหนี้สินหมุนเวียนว่า มีเงินทดรองจ่ายจากกรรมการ วงเงิน 30,164,287 บาท โดยระบุว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินทดรองจ่ายจากกรรมการบริหารพรรคมาใช้หมุนเวียนกิจการงานในพรรค ในการบริหารงานของพรรค ได้แก่ ค่าสาธารณูปโภค ค่าจ้างบุคลากร



สี่ พรรครวมพลังประชาชาติไทย ระบุในหมายเหตุงบการเงินในส่วนหนี้สินไม่หมุนเวียนว่า มีเงินกู้ยืมจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกัน วงเงิน 5 ล้านบาท โดยระบุว่า เงินกู้ยืมทั้งจำนวนเป็นเงินกู้ยืมจากกรรมการ โดยไม่มีการคิดดอกเบี้ย และไม่มีการทำสัญญา


ห้า พรรคชาติพัฒนา ระบุในหมายเหตุงบการเงินในส่วนหนี้สินหมุนเวียนว่า มีเจ้าหนี้เงินกู้ยืม จำนวน 2 ล้านบาท โดยแจ้งในส่วนหนี้สินประกอบว่าเป็นเจ้าหนี้เงินกู้ยืมจาก นายสังวรณ์ ลิปตพัลลภ จำนวนหนี้ 2 ล้านบาท ทำสัญญาเมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2554 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี

 

หก พรรคชาติไทยพัฒนา ระบุในหมายเหตุงบการเงินในส่วนหนี้สินหมุนเวียนว่า มีเจ้าหนี้-เงินยืมทดรอง จำนวน 5,050,457 บาท รวม 15 ราย เช่น นายวราวุธ ศิลปอาชา 547,330 บาท นายธีระ วงศ์สมุทร 266,000 บาท เป็นต้น


เจ็ด พรรคพลังชล ระบุในหมายเหตุงบการเงินในส่วนหนี้สินหมุนเวียนว่า มีเจ้าหนี้เงินยืมทดรองจ่าย (สาขา) วงเงิน 2,816,000 บาท รวม 8 ราย


แปด พรรคไทยรักษาชาติ (ปัจจุบันถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคไปแล้ว) ระบุในหมายเหตุงบการเงินในส่วนหนี้สินหมุนเวียนว่า มีเจ้าหนี้เงินยืมจากหัวหน้าพรรค คณะกรรมการบริหารพรรค 1,738,868 บาท โดยระบุว่า เจ้าหนี้เงินยืมจากหัวหน้าพรรค คณะกรรมการบริหารพรรค และเหรัญญิกพรรค จำนวน 1,738,868 บาท เป็นเงินที่กรรมการนำมาสำรองจ่ายเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายบริหารสำนักงานพรรค และสาขาพรรค โดยเงินสำรองดังกล่าวไม่มีดอกเบี้ย



ประเด็นที่น่าสนใจกรณีนี้ หากพิจารณาจากหมายเหตุงบการเงินของ 8 พรรคข้างต้น เห็นได้ว่า หนี้เงินกู้ของพรรคอนาคตใหม่ มีสาระสำคัญแตกต่างจากหนี้เงินกู้ของพรรคการเมืองอื่น ๆ ที่ส่วนใหญ่ระบุว่า เป็นเงินทดรองจ่ายไปก่อนจากกรรมการบริหารพรรค นอกจากนี้ยังมีจำนวนเงินที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญด้วย

ส่วนการกู้เงินของพรรคการเมืองอื่น จะเข้าข่ายมาตรา 72 ของ พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ หรือไม่ คงต้องรอดูการพิจารณาจาก กกต. อีกครั้ง

ที่มา : https://www.isranews.org/isranews/84444-isranews-84444.html

Tag :