ส่องประวัติ “ชัย ชิดชอบ” จากคนเลี้ยงช้าง สู่เจ้าของธุรกิจโรงโม่หินศิลาชัย เข้าสู่ถนนการเมือง ผูกขาด ส.ส.บุรีรัมย์ สูงสุดขึ้นเป็น “ประธานสภาผู้แทนราษฎร” ถึงจะแก่แต่เก๋า ลีลาลูกเล่นไม่มีใครเกิน สมฉายา “ตลกเฒ่าร้อยเล่ห์"

ชาวไทยได้รับข่าวร้ายในช่วงเช้าวันตรุษจีน เมื่อผู้สื่อข่าวรายงานว่านายชัย ชิดชอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย และอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร เสียชีวิตอย่างสงบด้วยวัย 91 ปี

ด้วยความอาลัยยิ่งต่อการจากไป ThaiQuote จึงขอรวบรวมประวัติ “ชัย ชิดชอบ” มาให้ได้รับรู้ เนื่องจากเรื่องราวของอดีตประธานสภาฯ ท่านนี้มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ถือเป็นปูชณียบุคคลอีกท่านหนึ่งในแวดวงการเมืองไทย

ประวัติ “ชัย ชิดชอบ”

จากคนเลี้ยงช้าง สู่เจ้าของธุรกิจโรงโม่หินศิลาชัย

นายชัย ชิดชอบ เกิดเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2471 (อายุ 91 ปี 9 เดือน ) ที่บ้านเพี้ยราม ตำบลเพี้ยราม อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ เป็นบุตรของนายเมียศกับนางเรียด ชิดชอบ จบการศึกษาชั้นมัธยมปลายจากโรงเรียนสุรวิทยาคาร จังหวัดสุรินทร์

ชีวิตส่วนตัว นายชัยสมรสกับนางละออง ชิดชอบ มีบุตรชาย 5 คน หญิง 1 คน บุตรคือนายเนวิน ชิดชอบ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ปัจจุบันเป็นประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ปัจจุบันเป็นเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย และเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนามคม

ช่วงวัยหนุ่ม นายชัยเคยเล่าว่าเริ่มชีวิตจากการเป็นคนเลี้ยงช้าง และได้อพยพโยกย้ายมาปักหลักทำมาหากินที่เมืองบุรีรัมย์ จนผููกพันเหมือนบ้านเกิดของตัวเอง ช่วงแรกทำธุรกิจฟาร์มกุ้งในพื้นที่ฝั่งแม่น้ำมูล ต่อมาได้ทำธุรกิจโรงโม่หิน จนประสบความสำเร็จมีความมั่นคง จึงเข้าสู่การเมืองท้องถิ่น จากการเป็นกำนันตำบลอิสาณ อ.เมืองฯ จ.บุรีรัมย์ ควบคู่ไปการทำธุรกิจโรงโม่หินซึ่งเปิดอีกหลายแห่ง

เริ่มแรกก้าวเข้าสู่การเมืองท้องถิ่น เป็นกำนันตำบลอิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ควบคู่กับทำธุรกิจโรงโม่หินศิลาชัย จนได้รับความเคารพจากชาวบ้านในพื้นที่ 

สู่ถนนการเมือง ผูกขาด ส.ส.บุรีรัมย์

นายชัย ชิดชอบ เริ่มงานการเมืองจากการเมืองท้องถิ่น เป็นกำนันตำบลอิสาน อำเภอเมืองบุรีรัมย์ และทำธุรกิจโรงโม่หิน ชื่อโรงโม่หินศิลาชัย ที่อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ คือธุรกิจที่เป็นกำลังหลักในการเติบโตบนเส้นทางการเมือง เริ่มงานการเมืองตั้งแต่ปี 2500 โดยสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบุรีรัมย์ พรรคประชาธิปัตย์

ต่อมานายชัยผูกขาดเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.บุรีรัมย์ หลายสมัยติดต่อกัน ในการเลือกตั้งปี 2512 (อิสระ), 2522 (พรรคประชาราษฎร์), 2526 (พรรคกิจสังคม), 2529 (พรรคสหประชาธิปไตย), 2535/2 2538 (พรรคชาติไทย), 2539 (พรรคเอกภาพ) เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อปี 2548 (พรรคไทยรักไทย) และสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดบุรีรัมย์ปี 2549 และในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ.2557 เขาได้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคภูมิใจไทย ลำดับที่ 2

รวมทั้งการเลือกตั้งครั้งล่าสุดในปี 2562 นายชัยก็ยังอยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับที่ 2 เช่นเดิม รองจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรค

สูงสุด “ประธานสภาผู้แทนราษฎร”

ในทางการเมือง นายชัย ขึ้นสูงสุดในการได้เป็นประธานรัฐสภาในวันที่ 15 พฤษภาคม 2551 – 10 พฤษภาคม 2554 และมีโอกาสได้เป็นประธานสภาชั่วคราว ในการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเลือกประธาน และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ประจำปี 2562

“ตลกเฒ่าร้อยเล่ห์" ลีลาลูกเล่นไม่มีใครเกิน

สำหรับบทบาทในหน้าที่ประธานสภาของนายชัย ชิดชอบ เป็นที่จดจำและถูกพูดถึงอย่างมาก เริ่มตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง โดยได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2551 นายชัยได้ทำหน้าที่ประธานโดยขึ้นนั่งบนบัลลังก์ ขณะที่นายชัยจะคุกเข่าสดับพระบรมราชโองการฯ ก็เกิดล้มหัวคะมำ และเมื่อคุกเข่ารับฟังเสร็จแล้ว จะลุกขึ้นก็ลุกไม่ขึ้น แต่นายชัยก็พยายามจะลุกให้ได้ จึงทำให้ล้มไปข้างหน้า จนมี ส.ส.ที่มาร่วมในพิธีต้องรีบเข้าไปพยุงนายชัยให้ยืนขึ้น ซึ่งเรื่องนี้เป็นที่เล่าขาน มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า หรือจะเป็นความศักดิ์สิทธิ์ของรัฐสภาในการคัดสรรผู้เหมาะสมที่จะนั่งบังลังก์

ด้วยความอาวุโสของนายชัย จึงเป็นที่เคารพของบรรดานักการเมืองและสื่อมวลชน ได้รับการเรียกขานเล่นๆ "ปู่ชัย" หรือ "ลุงชัย" นอกจากนี้ความโดดเด่นของ “ปู่ชัย” ในการทำหน้าที่ก็เป็นที่จดจำ โดยเจ้าตัวไม่เคร่งครัดระเบียบข้อบังคับมากนัก แต่เน้นเจรจาไกล่เกลี่ย ส.ส.มากกว่า ด้วยลีลาที่เป็นแบบเฉพาะบวกกับความอาวุโส มีลูกล่อลูกชน และมุกตลกแพรวพราว สร้างความสนุกสนานลดความตึงเครียดในที่ประชุมแก้ไขปัญหาความวุ่นวายในการอภิปรายของเหล่า ส.ส.ได้เป็นอย่างดี จนได้ด้รับฉายาจากสื่อมวลชนประจำรัฐสภา ว่า "ตลกเฒ่าร้อยเล่ห์" ในปี 2552

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
การเมืองเศร้า "ชัย ชิดชอบ" สิ้นแล้วด้วยวัย 92 ปี