“บิ๊กป้อม”ลงใต้ช่วยชาวเกษตรกรปาล์มยิ้มออก สั่งขับเคลื่อนนโยบาย B10 เพิ่มรายได้ต่อเนื่อง ช่วยลด PM2.5 พอใจราคาปาล์มทะลุ 7 บาท เศรษฐกิจฐานรากฟื้นตัวทันที คาดช่วยเพิ่มรายได้เดือนละ 4,500 ล้านบาท

วันนี้ (29 ม.ค.63) เมื่อเวลา 09.30 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ หรือ กนป. พร้อมด้วย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมต.ว่าการกระกรวงพลังงานและคณะ ได้เป็นประธานพิธีเปิดการสัมมนา "B10 สร้างสมดุลปาล์มน้ำมัน สู่ความยั่งยืน"และได้พบปะกับพี่น้องเกษตรกรชาวสวนปาล์มในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ณ ลานพระอาทิตย์ อบจ.กระบี่ จ.กระบี่ ที่มาให้การต้อนรับ ขอบคุณ พล.อ.ประวิตร และรัฐบาลที่ให้ความช่วยเหลือจนกระทั่งสามารถแก้ปัญหาราคาปาล์มได้จริง และรู้สึกภาคภูมิใจที่รัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ปัญหาที่ผ่านมา ตามนโยบายของรัฐบาลที่ประกาศเอาไว้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“สนธิรัตน์” หนุน ”EA” เปิดตัวนวัตกรรม “ปาล์ม บล็อกเชน” จัดการข้อมูลซื้อขายปาล์ม

พล.อ.ประวิตร กล่าวกับผู้ร่วมสัมมนาและพี่น้องเกษตรกรถึงความพยายามในการทำงานของรัฐบาลที่ผ่านมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาราคาปาล์มในภาคใต้ ผ่านทาง กนป.ด้วยการนำน้ำมันปาล์มไปผลิตไฟฟ้าโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตรับซื้อปาล์ม จ.น.96,200ตัน และผลักดันให้ใช้ B10 เป็นน้ำมันดีเซลเกรดมาตรฐาน ทั้งนี้เกิดจากการทำงานร่วมกันของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงพลังงาน จนกระทั่ง ปาล์มมีราคาสูงถึง 7 บาท จากเดิมราคา2บาทกว่าที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณปาล์มลดลงมากถึงร้อยละ 20 มีผลผลิตเดือนละ900,000 ตัน มีเงินรายได้เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มไม่น้อยกว่า 4,500ล้านบาทต่อเดือน และคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า5,000 ถึง 6,000 ล้านบาทต่อเดือนหลังจากนี้ เนื่องจาก กนป.ได้ออกมาตรการให้กระทรวงพลังงานนำปาล์มไปผลิต B10 เพื่อเพิ่มความต้องการใช้น้ำมันปาล์มซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้มากขึ้นและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นต่อไป นอกจากนั้น การส่งเสริมการใช้น้ำมันบนดินหรือน้ำมันปาล์ม เป็นการตอบโจทย์ลดการนำเข้าน้ำมันดีเซลฟอสซิล เพิ่มการผลิตไบโอดีเซลด้วยน้ำมันปาล์ม ไม่เพียงแต่จะแก้ปัญหาปาล์มล้นตลาดแล้ว ยังสามารถช่วยลดมลพิษPM 2.5 ได้อีกด้วย

พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวย้ำต่อพี่น้องเกษตรกรชาวสวนปาล์มว่า “ขอให้เชื่อมั่นว่ารัฐบาลนี้จะดูแลการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มอย่างเป็นระบบ ครบวงจร และให้มีความยั่งยืนต่อไปภายใต้ กนป.และกพช.พร้อมเป็นกำลังใจการปฏิบัติหน้าที่ของกระทรวงพลังงาน ที่มีส่วนสำคัญที่จะขับเคลื่อนนโยบาย B10 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้มั่นคงต่อไป และขอบคุณพี่น้องเกษตรกรชาวสวนปาล์มที่มีความเข้าใจ อดทน และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐในการดำเนินงานที่ผ่านมาด้วยดีตลอดมา”

นายสนธิรัตน์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า ได้แก้ปัญหาตามนโยบายของ กนป. โดยใช้มาตรการด้านพลังงานเข้ามาขับเคลื่อน ประการแรก ด้วยการนำน้ำมันปาล์มดิบไปเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า มอบหมายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับซื้อปริมาณ 9.62 หมื่นตัน ซึ่งได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการรับมอบ ประการที่สอง ได้ผลักดันในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เห็นชอบนโยบายส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลบี 10 เป็นน้ำมันดีเซลเกรดพื้นฐาน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป นับว่ารัฐบาลได้ใช้กลไกที่มีอยู่ทั้ง กนป. และ กพช. ในการขับเคลื่อนนโยบายจนแก้ปัญหาปาล์มได้อย่างเป็นรูปธรรม

"ที่สำคัญที่สุด นโยบายส่งเสริมน้ำมันดีเซล บี 10 ซึ่งถือเป็น “น้ำมันบนดิน” มีค่าไม่น้อยกว่าน้ำมันใต้ดิน เราได้นำน้ำมันปาล์มดิบไปผลิตเป็น ไบโอดีเซล (บี 100) นำมาผสมในน้ำมันดีเซล 10% นั้น นอกจากจะเป็นการช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรชาวสวนปาล์มแก้ปัญหาปาล์มล้นตลาดแล้ว ยังเป็นการช่วยลดการนำเข้าน้ำมันดีเซลและน้ำมันดิบจากต่างประเทศได้อีกทางหนึ่ง ยังลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ได้อีกด้วย ดังนั้นนโยบายดีเซลบี 10 จะช่วยสร้างเสถียรภาพราคาปาล์มในปี 2563 นี้ และเป็นไปได้อย่างยั่งยืนแน่นอน ภายใต้การดูแลของ กนป. ที่บูรณาการร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงพลังงาน ที่จะดำเนินนโยบายไปในทิศทางเดียวกัน” นายสนธิรัตน์กล่าวในท้ายสุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“สนธิรัตน์” นำเทคโนโลยีใหม่ชี้แหล่งที่มาน้ำมันปาล์มดิบเถื่อน