GGC จับมือ บีไอจี บริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ด้วยดิจิทัลแพลตฟอร์ม

by ESGuniverse, 15 เมษายน 2567

GGC ยกระดับธุรกิจ บริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกด้วยดิจิทัลแพลตฟอร์มบัญชีคาร์บอน ต่อยอดกลยุทธ์ ‘บทใหม่ของ GGC สู่ธุรกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืน’

 

 

การดำเนินธุรกิจด้วยความยั่งยืนกำลังเป็นประเด็นของทุกภาคส่วนทั้งในไทยและทั่วโลก แต่การจะบรรลุความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรมได้นั้น ต้องมีกระบวนการ มีมาตรวัด และได้รับการรับรองจากสถาบันตรวจสอบและเป็นกลาง

เมื่อต้องเป็นการดำเนินการความยั่งยืนที่เป็นกระบวนการ วัดได้ จึงจำเป็นต้องมีเครื่องมือที่เหมาะสมในการจัดการต่อกระบวนการเหล่านี้ ปัจจุบันนี้มีบริษัทที่เปิดมาให้บริการด้านการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกด้วยแพลตฟอร์มที่มีความแม่นยำสูงให้กับบริษัทต่าง ๆ ที่ต้องการดำเนินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ ‘GGC’ เป็นหนึ่งในบริษัทที่ต้องการลดก๊าซเรือนกระจก จึงได้จัดทำโครงการ ‘การพัฒนาแพลตฟอร์มบัญชีคาร์บอน’ ประโยชน์ของแพลตฟอร์มดังกล่าวจะนำไปใช้ในการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกขององค์กร จากการดำเนินการดังกล่าว ทำให้บริษัทฯ สามารถเพิ่มขีดความสามารถและประสิทธิภาพของบุคลากรของบริษัทฯ ในการจัดทำรายงานด้านสิ่งแวดล้อม การกำหนดและทบทวนกลยุทธ์องค์กรที่เกี่ยวข้องกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิต การพัฒนาผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ รวมถึงทิศทางการดำเนินการธุรกิจใหม่ในอนาคตได้อย่างเป็นระบบและเป็นไปตามมาตรฐานสากล นำไปสู่กลยุทธ์ The New Chapter of GGC to be the Sustainable Growth Business

นายกฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์โอลีโอเคมีแห่งแรกในประเทศไทย และเป็นบริษัทแกนนำในธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Flagship Company) เปิดเผยว่า การร่วมมือระหว่าง GGC และ บีไอจี ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการขับเคลื่อนองค์กรสู่สังคมคาร์บอนต่ำ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ความยั่งยืนถือเป็นบริบทใหม่ของประเทศไทยและเป็นบริบทของโลกที่มีความสำคัญ ซึ่งบทบาทหน้าที่อาจจะไม่ใช่ของบริษัทเอกชนใดบริษัทหนึ่งเท่านั้น แต่ต้องบูรณาการร่วมกัน อาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญจากทุกภาคส่วน เติบโตขึ้นไปพร้อมๆ กัน ก็จะทำให้เกิดการพัฒนาสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง ร่วมกันเพิ่มศักยภาพและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในประเทศอย่างทั่วถึง

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทาง GGC ยึดมั่นการดำเนินธุรกิจด้วยหลักความยั่งยืนพร้อมสร้างสมดุลระหว่าง สิ่งแวดล้อม สังคม ภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี หรือ Environment Social Governance (ESG) มีการบริหารจัดการความยั่งยืนที่เข้มแข็ง โดยได้รับการรับรองการดำเนินงานอย่างยั่งยืนและตามมาตรฐานสากล เช่น CDP Climate ที่ได้ระดับ A- และในปีนี้ GGC ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนระดับโลกจาก - S&P Global Corporate Sustainability Assessment หรือ S&P Global CSA เป็นครั้งแรก โดยได้คะแนนอยู่ในลำดับที่ 5 ในกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ จากทั้งหมด 355 บริษัทที่เข้ารับการประเมิน

ตอกย้ำการเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืนในระดับสากล ตามวิสัยทัศน์ “TO BE A LEADING GREEN CHEMICAL COMPANY BY CREATING SUSTAINABLE VALUE” หรือ “เป็นผู้นำผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ที่ยั่งยืน

  

 

 นำ ‘Climate Technology’

สนับสนุนการลดก๊าซเรือนกระจก

นายปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บีไอจี เปิดเผยว่า บีไอจี ในฐานะผู้นำนวัตกรรมด้าน Climate Technology และเป็นผู้ริเริ่มในการสร้างการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy Transition) ในภาคอุตสาหกรรมไทย โดยบีไอจีเป็นบริษัทในเครือแอร์โปรดักส์ จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมุ่งมั่นในการสร้างความยั่งยืนระดับโลก ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) เป็นเรื่องที่สำคัญและทุกคนต้องลงมือแก้ปัญหานี้ด้วยกันโดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม บีไอจีมีกลยุทธ์ GENERATING A CLEANER FUTURE ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ รวมถึงส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

“โครงการการพัฒนาแพลตฟอร์มบัญชีคาร์บอน หรือ Carbon Accounting Platform เพื่อมอนิเตอร์การใช้และลดการปล่อยคาร์บอนฯ ในกระบวนการผลิต ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน โดยความร่วมมือในการพัฒนาแพลตฟอร์มบัญชีคาร์บอนดังกล่าวนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ในการลดการใช้พลังงานไฟฟ้าอีกทั้งสามารถนำไปวางแผนการลดการปล่อยคาร์บอนฯ จากกระบวนการผลิต และร่วมกันบรรลุเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050”