"จ่า" และ "เงินทอน" เมื่อทัพบกปฏิเสธการมีอยู่จริง

by ThaiQuote, 13 กุมภาพันธ์ 2563

"เงินทอน" จากการกู้ซื้อบ้านจัดสรรของ "จ่าทหารบก" อันเป็นชนวนเหตุที่ทำให้คนไทย และโลกต้องสะเทือนใจ เพราะผลลัพธ์คือการเสียชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์ 30 ชีวิต บาดเจ็บอีกครึ่งร้อย และบาดแผลในจิตใจที่ไม่รู้ว่าใช้เวลาเท่าใดถึงจะเยียวยาได้

ค่ำวันมาฆบูชา กลายเป็นคืนแห่งเลือดในเมืองโคราช เมื่อห้างสรรพสินค้าดังกลางเมืองกลายเป็นทุ่งสังหารชีวิตผู้บริสุทธิ์ จากความคลั่งและการไร้ซึ่งทางออกของทหารนายหนึ่ง

ควันปืนจางลงไป แต่การแกะปมถึงปัญหายังคงมีต่อเนื่อง หนึ่งในเหตุผลแห่งความคับแค้น คือการกู้เงินมาซื้อบ้านของทหารชั้นผู้น้อยคนดังกล่าวจากต้นสังกัด และมีการตกปากรับคำว่าจะได้เงินทอนส่วนหนึ่งเป็นเงิน 4 แสนบาท เมื่อไม่ได้ดั่งที่ต้องการเหตุสะเทือนขวัญที่ว่าจึงเกิดขึ้น

เสียงกระหน่ำในแง่ลบพุ่งเป้าไปที่กองทัพบกในทันที การวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้นว่าอาจไม่มีความโปร่งใส แม้ว่าเบอร์หนึ่งของกองทัพบก "บิ๊กแดง" พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก หรือผบ.ทบ. จะออกมาเสียงแข็งไปยังทุกหน่วยว่าจะต้องไม่มี "ธุรกิจในกองทัพ" อีกต่อไป

แต่แล้วทิศทางการเข้าใจก็ยังดูเหมือนไม่ครอบคลุมคนไทยมากพอ เพราะยังเกิดการพุ่งเป้า สอบถามปนข้อสงสัยไปถึงกรมสวัสดิการกองทัพบก ว่าหน่วยงานนี้จะมีส่วนเกี่ยวข้องทั้งในเชิงระบบ นโยบาย ขั้นตอนการเอื้อสวัสดิการให้กับกำลังพลด้วยหรือไม่

คำชี้แจงเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา จากพล.ต.ราชิต อรุณรังษี เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก พูดถึงประเด็นนี้เอาไว้อย่างน่าสนใจ บิ๊กทหารผู้นี้ อธิบายถึงขั้นตอนการกู้เงินของทหารในแต่ละหน่วย แต่ละพื้นที่นั้่น สามารถกระทำได้ผ่านผู้บังคับบัญชาหน่วยตามแต่ละลำดับชั้น ที่ตั้งของกรมสวัสดิการทหารบกในกรุงเทพมหานคร ไม่จำเป็นจะต้องมา

เรื่อง "เงินทอน" คงไม่ต้องพูดถึง เพราะระเบียบของสวัสดิการทหารบก "ไม่มีเรื่องนี้" หากทหารมากู้ตรงกับหน่วย จะไร้ซึ่งเงินทอนตามที่เข้าใจกัน

แต่จากกรณีของจ่าคนดังกล่าวที่ก่อเหตุสะเทือนขวัญขึ้น พล.ต.ราชิต ระบุว่า เป็นเพราะเขาไปกู้ซื้อกับส่วนของเอกชน ไม่ได้เกี่ยวกับโครงการบ้านของกรมธนารักษ์ที่เช่าที่ดินราชพัสดุ อันเป็นความรับผิดชอบของกองทัพ

หรือง่ายๆ คือ "มันคนละประเภทกัน"

"ทุกอย่างมีระเบียบกำหนดไว้ชัดเจน ที่ผ่านมาผบ.ทบ.ได้ให้ความสำคัญมาโดยตลอด และสั่งการกับผู้บังคับบัญชาว่าต้องให้ความสำคัญ ต้องทำทุกอย่างที่เกิดประโยชน์กับกำลังพล และครอบครัว ในส่วนของกรมสวัสดิการทหารบกถ้ามีช่องว่างตรงไหนเราก็ต้องไปดูแลให้รัดกุมมากขึ้น" คำชี้แจงจากพล.ต.ราชิต ต่อสื่อมวลชน

ข้อแตกต่างระหว่าง "การกู้เงินกับธนาคาร" และ "การกู้เงินกับกรมสวัสดิการทหารบก" คำอธิบายของพล.ต.ราชิต ที่จะกลบข้อสงสัยจากคำถามของนักข่าวที่ว่า เหตุใดจึงมีการปล่อยกู้เงินในวงเงินที่สูงกว่าเงินเดือน ประเด็นนี้ ถูกคาดเดาว่าเป็นเพราะผู้กู้ที่เป็นกำลังพล อาจจะอาจกู้ประเภทอื่นเข้าไปด้วย หรือเพราะอาจจะเกิดจากราคาประเมินที่ดิน ราคาบ้าน กระนั้นก็ตาม กำลังพลที่กู้จะต้องผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการที่ทำหน้าที่ประเมินทรัพย์สิน เพื่อพิจารณาให้รอบคอบที่สุดว่า สุดท้ายแล้วเงินเดือนของกำลังพลที่ยื่นกู้จะเหลือเพียงพอเท่าไหร่

"การกู้กับธนาคาร และกู้กับสวัสดิการทหารบกนั้น จะเข้าไปอยู่ในกิจการกออมทรัพย์กรมสวัสดิการทหารบก" พล.ต.ราชิต กล่าว

กระนั้นก็ตาม ในเอกสารที่อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาเปิดเผยข้อมูลเอกสารการกู้เงินของจ่าคนดังกล่าว มันคือเรื่องอะไร ?

"นายอัจฉริยะ คงเข้าใจผิดไปเอง มันคนละเรื่องกัน เอกสารที่มาโชว์เป็นการอนุมัติกู้เงินสร้างบ้านที่มีการชำระค่างวดมาแล้ว 5 ครั้ง เป็นเรื่องที่ตกลงกันกับผู้ซื้อ ไม่ใช่การกู้ของสวัสดิการกองทัพบก ไม่ใช่เงินทอนหรือส่วนต่างอะไร" คำทิ้งท้ายจากพล.ต.ราชิต

สิ่งที่พล.ต.ราชิตพูดถึงในประเด็นของอัจฉริยะ คือจากเพจเฟซบุ๊ก ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่ออกมาเปิดข้อมูล ระบุเนื้้อหาว่า

"เปิดหลักฐานปม เบี้ยวเงินส่วนต่างค่าบ้านที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ จสท.จักรพันธ์ทวงเงินแล้วไม่ได้ จนก่อเหตุยิงโดยที่แฟนผู้พันพูดไม่เป็นความจริงที่สำคัญยังถูกอมเบี้ยเลี้ยงและสั่งขังลงโทษ (เงินกู้1125000ลบค่าจ้างสร้างบ้าน750000บาทคงเหลือเงินทอน375000บาท) และยังมีค่านายหน้าอีก 50000 บาทต่างหาก ที่จสท.จักรพันธ์แนะนำลูกค้า"

ต่อมาเพจดังกล่าว ระบุอีกว่า

"ไม่เคยมีความคิดสนับสนุนการกระทำผิด ของ จ.ส.ท.จักรพันธ์ ถมมา แต่สิ่งที่นำเอกสารมาเปิดเผย ก็เพื่อต้องการให้กองทัพบกตรวจสอบสาเหตุและการทุจริตในกองทัพบก ไม่ใช่สุดท้ายก็เงียบ ทั้งเรื่องอมเบี้ยเลี้ยง ทั้งเรื่องบ้านสวัสดิการที่เป็นสาเหตุในครั้งนี้ ชมรมได้รับการร้องเรียนมากมายในเรื่องของทหารชั้นผู้น้อย วันนี้จะเปิดเผยข้อเท็จจริงครั้งสุดท้ายที่ต้องการให้ผบ.ทบ.นำไปตรวจสอบและแก้ไข หากมีการทุจริต ก็ขอให้ลงโทษ อย่าเงียบและทำเป็นเฉย ด้วยความรักกองทัพและบทเรียนครั้งนี้มาเป็นครูในทุกๆ ด้าน"

ข่าวที่น่าสนใจ

เปิดเรตติ้งข่าวกราดยิงโคราช “ช่องวัน” สูงปรี๊ด “ไทยพีบีเอส” ต่ำสุด

“อัษฎางค์” ถอดรหัส “บิ๊กแดง” ปัดความรับผิดชอบ?