ธนาธร เปิดแผน "พินอคคีโอ" เผด็จศึกซักฟอก 5 รมต.

by ThaiQuote, 14 กุมภาพันธ์ 2563

“ธนาธร” เปิดแนวทางซักฟอก 5 รมต. ใช้รหัส "พินอคคีโอ" วางขุนพล 16 คน ใช้เอกสาร หลักฐาน ข้อกฎหมาย และความเสียหายจริง ไม่เน้นโวหาร ยำใหญ่ 5 ด้าน บริหาร ศก.ผิดพลาด เอื้อประโยชน์พวกพ้อง นโยบายสร้างความเสียหายให้ปท. ละเมิดสิทธิมนุษยชน และ ขาดจริยธรรมไม่เหมาะนั่งในตำแหน่ง

วันนี้ (14 ก.พ.63) ที่พรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) แถลงข่าว การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลระหว่างวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์ นี้ ว่า พรรคอนาคตใหม่ให้ความสำคัญกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้มาก เพราะหนึ่งในปัญหาที่สำคัญมากในระบอบประชาธิปไตยแบบตัวแทน คือ หากผู้มีอำนาจที่มาจากประชาชน ทรยศประชาชน ทรยศต่อผลประโยชน์ของประชาชน เราจะมีอำนาจจัดการอย่างไรได้บ้าง รัฐธรรมนูญจึงกำหนดให้มีกลไกฝ่ายนิติบัญญัติ ในการตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหาร นั่นคือการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเป็นรายบุคคล หรือทั้งคณะ ถ้าเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรลงมติไม่ไว้วางใจ รัฐมนตรีท่านนั้นก็ต้องถูกถอดออกจากตำแหน่งในทันที กลไกอภิปรายจึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญ และมีน้ำหนักที่สุดของฝ่ายค้าน หรือฝ่ายนิติบัญญัติที่จะตรวจสอบฝ่ายบริหาร เมื่อพวกเราเลือกใช้กลไกนี้แล้ว เราต้องทำให้ดีที่สุด เพื่อให้สมศักดิ์ศรีของกลไกนี้

“เราได้เริ่มเตรียมการการอภิปรายมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 และในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน ได้เริ่มใช้รหัสเพื่อเรียกโครงการนี้ภายในพรรค คือ โปรเจกต์ "พินอคคีโอ" โดยมีผมเป็นหัวหน้าทีม เหตุผลที่เลือกพินอคคีโอ มาใช้ในการปฏิบัติการ เพราะตัวละครพินอคคีโอ คือ ตัวละครที่ทำผิดซ้ำซาก และพยายามปกปิดความผิดของตัวเองไปเรื่อยๆ จนเรื่องบานปลาย ท้ายที่สุดก็ปกปิดไม่ได้ ซึ่งเหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม” นายธนาธร กล่าว

 

นายธนาธร ยังกล่าวอีกว่า หลังการทำรัฐประหาร 2557 เป็นต้นมา พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เคยถูกตรวจสอบ และปกปิดความผิดตัวเองจากสาธารณะ ภายใต้ข้ออ้างของความสงบ และการคอร์รัปชั่น แต่ความจริงแล้วเป็นการลิดรอนสิทธิมนุษยชน และการปิดบังประชาชนที่กล้าวิพากษ์วิจารณ์ เมื่อไม่มีประชาธิปไตย ไม่มีฝ่ายค้าน ก็ไม่มีการตรวจสอบ ครั้งสุดท้ายที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือ เดือนพฤศจิกายน 2556 หรือ 6 ปี 2 เดือน วัตถุประสงค์ของโปรเจกต์พินอคคีโอ จึงเป็นปฏิบัติการกระชากหน้ากากของพินอคคีโอ ให้ประชาชนรับรู้ถึงจมูกอันยืดยาว และข้อผิดพลาดของรัฐบาลในรอบ 6 ปี

ในการอภิปรายครั้งนี้ พรรคอนาคตใหม่มีส.ส. ที่จะอภิปรายจำนวน 16 คน ทำงานร่วมกับทีมกฎหมายของพรรค และทำงานร่วมกับทีมนโยบายอีก 50 กว่าคน เป็นเวลา 4 เดือนเต็ม ฉะนั้นการอภิปรายครั้งนี้จึงไม่ใช่ของผลงานใครคนใดคนหนึ่ง การอภิปรายไม่ไว้วางใจจะใช้เวลาประมาณ 3 วันครึ่ง คือเริ่มตั้งแต่เวลา 13.30 น. ของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ คือ 1 วัน เราสามารถอภิปราย 12 ชั่วโมง โดยพรรคอนาคตใหม่ได้ขอโควตาจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน 11 ชั่วโมง เฉลี่ยคนละ 40 นาที โดยจะมีคนอภิปรายในภาพรวม 1 คน ที่เหลือ อีก 15 คน จะอภิปรายในรายประเด็นไม่ซ้ำกัน

พรรคอนาคตใหม่จะเลือกอภิปรายไม่ไว้วางใจ 5 รัฐมนตรีจาก 6 รัฐมนตรีที่มีชื่ออยู่ในญัตติ คือ 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม 2.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง 3.นายวิษณุ เครืองาม ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย

4.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ 5.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์

ทั้งนี้ การอภิปรายของพรรคอนาคตใหม่ จะอภิปรายอ้างอิงจากเอกสารชั้นต้น หลักฐานแวดล้อม ข้อกฎหมาย หลักนิติรัฐนิติธรรม และความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง จะอภิปรายอย่างสร้างสรรค์ ตรงประเด็น และกระชับ ไม่เน้นการใช้โวหาร พูดยืดยาว นอกประเด็น หรือกล่าวหาอย่างเลื่อนรอย

สำหรับเนื้อหาการอภิปรายแบ่งเป็น 5 ด้าน คือ 1.การบริหารเศรษฐกิจที่ผิดพลาด 2.การเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง และกลุ่มที่ใกล้ชิด 3.นโยบายที่ก่อให้เกิดความเสียหายกับประเทศ 4.เรื่องความมั่นคง และการละเมิดสิทธิมนุษยชน และ 5.คุณสมบัติ และจริยธรรมที่ไม่เหมาะสมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ภายใต้การบริหารของพล.อ.ประยุทธ์ 5 ปีที่ผ่านมา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :