“ธนาธร” เสนอ “บิ๊กแดง” เปิดชื่อ เปิดงบ เปิดทาง เป็นแนวทางปฏิรูปกองทัพอย่างจริงจัง

by ThaiQuote, 16 กุมภาพันธ์ 2563

“ธนาธร”เสนอ “บิ๊กแดง” ให้ปฏิรูปกองทัพอย่างจริงจังด้วย 3 ป.คือเปิดชื่อ เปิดงบ เปิดทาง ส่งเสริมให้ภาคประชาชน สื่อได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการปฏิรูปโครงสร้างกองทัพ เตรียมตั้งกรรมาวิสามัญวิสามัญตรวจสอบการปฏิรูปกองทัพ

เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้จัดเวทีเสวนาในหัวข้อเรื่อง “จากโคราชสู่การปฏิรูปกองทัพ” โดยกล่าวว่าเหตุการณ์ที่โคราชบอกพวกเราว่าถ้าสังคมยุติธรรมกว่านี้เหตุการณ์เช่นนั้นอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ ดังนั้น เราต้องมาพูดถึงบ่อเกิดความไม่ยุติธรรม คือ โครงสร้างของกองทัพที่มีปัญหา โดยทางกองทัพมีแหล่งรายได้ต่างๆ มากมาย เช่นธุรกิจมวย สนามม้า เงินนอกงบประมาณ และรายได้จากคลื่นวิทยุโทรทัศน์ต่างๆ ที่ผ่านมาตอนเป็นกรรมาธิการงบประมาณ ได้เรียกร้องให้เปิดงบเหล่านี้ ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ
นายธนาธร กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องถามเรื่องพวกนี้เพราะเป็นเรื่องโครงสร้างของกองทัพที่ไม่มีใครเห็นและเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดความอยุติธรรมเกิดขึ้น ความไม่ยุติธรรมที่เป็นตัวอย่าง คือ กรณีธุรกิจบ้านจัดสรรของกองทัพ จ่าสิบเอกคนหนึ่งอยากมีบ้านสักหลัง การไปกู้จากกรมสวัสดิการทหารบกทำได้ยาก จึงต้องเข้าหานายหน้าคนสนิทของผู้พันเพื่อติดต่อผู้พันให้เซ็นอนุมัติเงินกู้ เมื่ออนุมัติเงินกู้ให้แล้วก็ไปติดต่อธุรกิจบ้านจัดสรรเพื่อซื้อที่ดินและสร้างบ้านให้เป็นเงิน 1 ล้านบาท และนำเอกสารเหล่านี้ไปหากรมสวัสดิการทหารบกเพื่อขอกู้เงิน และจ่ายเงินตรงให้กับธุรกิจบ้านจัดสรร บ้านที่จ่าสิบเอกไปซื้อไม่ได้อยู่ในเมืองแต่ไปอยู่ชนบทมีขนาด 40 ตารางวา ราคาประเมินจากผู้เชี่ยวชาญและการก่อสร้างประมาณ 7 แสนบาทเท่านั้น จ่าสิบเอกเป็นยศที่สูงสุดของชั้นประทวน และโอกาสในทางอาชีพการงานไปถึงสัญญาบัตรทำได้ยากมาก ดังนั้น การผ่อนบ้านด้วยเงินเท่านี้จึงเป็นเรื่องลำบากมาก กรณีเช่นนี้เกิดขึ้นทั่วประเทศแต่อาจต่างกันในรายละเอียด“แน่นอนว่าจ่าสิบเอกย่อมมีช่องทางเรียกความยุติธรรมผ่านศาลยุติธรรมหรือใช้ความสัมพันธ์ในการทวงคืน แต่ไม่ว่าช่องทางไหนย่อมจะนำไปสู่ความแตกหักกับผู้บังคับบัญชา จ่าสิบเอกอาจถูกซ่อมโดยไม่มีสิทธิเรียกร้องความเป็นธรรมได้

 

เราเรียนรู้บทเรียนสำคัญสองประการ คือ 1.ต่อให้คุณได้รับความอยุติธรรมมากแค่ไหนแต่ก็ไม่ใช่ใบอนุญาตให้ฆ่าคนบริสุทธิ์ได้ และ 2.เราเรียนรู้ว่าอาชญากรไม่ได้หล่นมาจากท้องฟ้าแต่เกิดจากเนื้อนาดินของสังคม เมื่อเราเกิดมาเมื่อเราเป็นเด็กเราเหมือนผ้าขาว แต่สภาพแวดล้อมที่ต่างกันและการบ่มเพาะทำให้พวกเรามีประสบการณ์ชีวิตแตกต่างกัน คนที่ดิ้นรนเพื่อให้ชีวิตที่ดีขึ้น หากเขามีอาชีพที่ดีมีความมั่นคงในชีวิตโอกาสจะเป็นอาชญากรน้อยลง ถ้าเราเคารพในความเป็นมนุษย์ได้รับเกียรติและสิทธิโอกาสจะเป็นอาชญากรจะน้อยลง”ายธนาธรกล่าว
นายธนาธร กล่าวต่อว่า การปฏิรูปกองทัพเป็นเรื่องจำเป็นของประเทศ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ผบ.ทบ. บอกว่าจะปฏิรูปกองทัพ 5 ประการ จะทำให้เสร็จภายใน 90 วัน หรือแม้แต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ก็เห็นถึงการปฏิรูปเช่นกัน แต่มีปัญหาที่สำคัญ คือ เราจะเชื่อใจผบ.ทบ. และนายกฯ ได้อย่างไรว่าจะปฏิรูปกองทัพอย่างจริงจัง โดยผมมี เหตุผลที่ทำให้ไม่ไว้ใจนายกฯ และผบ.ทบ. ได้แก่ 1.ทรัพย์สินของนายพลหลังการรัฐประหารปี 2557 ที่เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) 81 คน พบว่ามีทรัพย์สินเฉลี่ย 78 ล้านบาทต่อคน 2.คนกลุ่มนี้ยังเป็นคนกลุ่มที่มีทหารรับใช้ด้วย ข้าราชการระดับบนในกระทรวงอื่นๆ กลับบ้านต้องทำกับข้าวเองหรือจ่ายเงินคนรับใช้เอง แต่นายพลเหล่านี้กลับมีทหารรับใช้ ความมั่นคงของนายพลไม่เท่ากับความมั่นคงของชาติ ตนจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะมีการปฏิรูปกองทัพกันจริงๆ ที่จะไปกระทบกับคนกลุ่มนี้ 3.นายกฯ ก่อนหน้านี้มีมาตรา 44 จะทำอะไรก็ได้ แต่กลับไม่เคยใช้มาตรา 44 ปฏิรูปกองทัพ แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะจริงใจกับการปฏิรูปกองทัพ เรื่องนี้ล้อเล่นไม่ได้ วันหนึ่งจะมาร้องไห้อีกวันหนึ่งจะจูงหมามาด่าคนไม่ได้ ตนจึงไม่ไว้วางใจให้นายกฯ และผบ.ทบ.เข้ามาปฏิรูปกองทัพ “หน้าที่ของประชาชน คือ ต้องทำให้การปฏิรูปกองทัพไม่ใช่แต่การแสดง หรือเพื่อเฉือนเนื้อส่วนน้อยออกเพื่อรักษาเนื้อส่วนใหญ่เอาไว้ นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดเพื่อการปฏิรูปกองทัพโดยจะให้พวกเขาทำกันเองไม่ได้” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าว
นายธนาธร กล่าวอีกว่า โครงสร้างปัญหาของกองทัพมีด้วยกัน 3 ประการ 1.โครงสร้างของกองทัพที่ไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนตรวจสอบ เป็นอาณาจักรที่มืดมิด กลายเป็นรัฐอิสระ 2.โครงสร้างเกี่ยวกับสิทธิมุนษยชน ที่เกิดการละเมิดสิทธิอย่างสม่ำเสมอ ทหารชั้นผู้น้อยบาดเจ็บและล้มตายจากการซ่อม แต่กลับไม่เคยได้รับความยุติธรรม เราสร้างทหารที่มีวินัยกับการซ่อมทหารเป็นคนละเรื่องกัน เพราะการซ่อมเป็นข้ออ้างของผู้บังคับบัญชาเพื่อสร้างระบบอุปถัมภ์เท่านั้น และ 3.วัฒนธรรมคนผิดลอยนวล นายทหารชั้นสูงไม่ว่าจะมีส่วนต่อการซ่อมไม่เคยมีใครต้องมารับผิดชอบ ปัญหาโครงสร้างเหล่านี้ที่ทำให้ตนเชื่อว่าเราต้องมีมาตรการเพิ่มเติมอีก 3 มาตรการหรือ 3 ป. ไปถึงผบ.ทบ. ได้แก่ 1.เปิดชื่อ คือ มีนายทหารที่เกษียณไปแล้วยังใช้บ้านพักทหารกี่คน การพาณิชย์ของกองทัพต้องเปิดให้หมด 2.เปิดงบ ตกลงว่างบประมาณที่ใช้ในการบริหารเชิงพาณิชย์และในการปฏิบัติการต่างๆมีเท่าไหร และ3.เปิดทาง เราปล่อยให้กองทัพปฏิรูปกันเองไม่ได้ เพราะต้องเปิดทางการมีส่วนร่วมของประชาชน สื่อมวลชน ส.ส.เข้าไปร่วมติดตามและตรวจสอบการปฏิรูปกองทัพ นายธนาธร กล่าวว่า ไม่มีเหตุผลใดๆ เลยที่จะไม่เปิดทางให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วม หากผบ.ทบ.ตั้งใจปฏิรูปกองทัพจริงๆ ตนก็ให้กำลังใจเพราะต้องเจอกับแรงเสียดทานจากเพื่อนพี่น้องจำนวนมาก

“ ถ้าท่านจะปฏิรูปจริงๆ ต้องให้พวกเราเข้าไปช่วยตรวจสอบกดดันนายพลที่สูญเสียประโยชน์ ดังนั้น เปิดชื่อ เปิดงบ และเปิดทาง คือ คำแนะนำของผมที่อยากมอบให้ผบ.ทบ.ผ่านประชาชน และในการเปิดทางนั้นเราจะไม่รอ โดยสัปดาห์พรรคอนาคตใหม่จะขอเสนอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบการปฏิรูปกองทัพตามที่ผบ.ทบ.เสนอมา ไม่มีเหตุผลใดๆ ที่ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลจะไม่ให้ตั้งคณะกรรมาธิการนี้ เพราะนายกฯ และผบ.ทบ.พูดแล้วเรื่องการปฏิรูปกองทัพ นอกจากนี้ ในการเปิดทางพบจะให้เฟซบุ๊กของตนเป็นที่รับเรื่องร้องเรียนจากนายทหารที่ถูกเอาเปรียบ ตนจะใช้เวลาที่เหลือก่อนการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ พวกตนจะเป็นปากเสียงให้กับพวกท่านเอง “ผมอยากบอกประชาชนว่าเรายืนอยู่ในช่วงเวลาประวัติศาสตร์และเป็นเวลาที่วาระการปฏิรูปกองทัพได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง จึงเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของการปฏิรูปกองทัพ อย่าทิ้งโอกาสนี้ไป การปฏิรูปกองทัพครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นสมัยรัชกาลที่ 5 และเกิดอีกครั้งสมัยสงครามโลก อีก 90 วันจะครบสัญญาที่ผบ.ทบ.จะปฏิรูปกองทัพ คือ 12 พ.ค. ผมทำคนเดียวไม่ได้ วันนั้นมาเจอกันอีกรอบเพื่อมาทวงสัญญาการปฏิรูปกองทัพด้วยกัน อย่าให้โอกาสที่ดีครั้งนี้หลุดลอย อย่าให้คนที่โคราชตายฟรี อย่าให้ลูกหลานของเราเจอกับโศฏนาฎกรรมแบบนี้อีก” นายธนาธร กล่าว


ข่าวที่น่าสนใจ