รู้ทันคอเลสเตอรอล รู้ทันสุขภาพ หลีกหนีโรคหัวใจ

by ThaiQuote, 19 กุมภาพันธ์ 2563

คอเลสเตอรอลในหลอดเลือด ตัวการสำคัญทำให้เกิดโรคหัวใจ การป้องกันต้องรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันและคอเลสเตอรอลสูง เพิ่มอาหารที่มีเส้นใยให้มากขึ้นออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนัก


กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคทรวงอก เตือนคอเลสเตอรอลในหลอดเลือด ตัวการสำคัญทำให้เกิดโรคหัวใจ แนะป้องกันและลดคอเลสเตอรอลในหลอดเลือด ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันและคอเลสเตอรอลสูง เพิ่มอาหารที่มีเส้นใยให้มากขึ้นออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมงดดื่มชา กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดและงดสูบบุหรี่

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคหัวใจเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอับดับต้นๆ ของประเทศไทยส่วนมากมักจะเกิดกับผู้ที่มีช่วงอายุวัยกลางคนขึ้นไปและเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยเฉพาะหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคหัวใจคือคอเลสเตอรอลส่วนมากจะเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การรับประทานอาหารที่มีไขมันและคอเลสเตอรอลสูงไม่ค่อยออกกำลังกายดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่จัด ปัญหาสุขภาพเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ก่อให้เกิดภาวะคอเลสเตอรอลสูง เช่น เบาหวาน

นายแพทย์เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า คอเลสเตอรอลเป็นไขมันที่พบได้ในเลือด ซึ่งมีแหล่งที่มาจาก 2 ที่คือ
1.ภายในร่างกาย โดยสามารถสังเคราะห์ขึ้นได้ที่ตับ
2.ภายนอกร่างกายคือ จากการรับประทานอาหารในแต่ละวัน ซึ่งถ้ามีคอเลสเตอรอลในเลือดสูงจะไปเกาะสะสมที่ผนังหลอดเลือดทำให้อักเสบ เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็งเมื่อมีการสะสมของไขมันเพิ่มมากขึ้น จะทำให้หลอดเลือดตีบตัน ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบหรือหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบ นอกจากนี้ในบางรายอาจมีการปริแตกของผนังด้านในของหลอดเลือดหัวใจ ทำให้มีลิ่มเลือดมาอุดตันส่งผลให้เกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันหรือกล้ามเนื้อหัวใจตายทำให้เสีย ชีวิตได้

สำหรับการป้องกันและลดคอเลสเตอรอลในหลอดเลือด คือ
1.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันและคอเลสเตอรอลสูง เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน เนื้อสัตว์แปรรูป อาหารและขนมที่มี เนย ชีส ครีม รวมถึงเค้ก เบเกอรี่ เป็นต้น
2.รับประทานอาหารที่มีเส้นใยให้มากขึ้น เช่น ข้าวซ้อมมือ ผัก ผลไม้น้ำตาลน้อย
3.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย ครั้งละ 30 นาที 3-5 ครั้ง/สัปดาห์
4.ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
5.งดดื่มชา กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดและงดสูบบุหรี่

 

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ