ทางสองแพร่ง กับเวลาทองของ"โควิด-19" ที่เราคนไทย...ช่วยหยุดมันได้

by ThaiQuote, 23 มีนาคม 2563

โดย...กองบรรณาธิการ ThaiQuote

กราฟจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากหลักหน่วย ขึ้นสู่หลักสิบคน และล่าสุดขึ้นไปทะลุร้อยคนในรอบสองวันล่าสุด มันส่งผลให้คนป่วยจากไวรัสร้ายสะสมอยู่ในบ้านเราถึง 721 คนไปแล้ว

สิ่งนี้ ย่อมสะท้อนให้เห็นภาพว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อมันพุ่งขึ้นในทุกๆ วัน หรือแทบจะทุกชั่วโมงในประเทศไทย

ยิ่งกับภาพล่าสุดที่คนไทยในกรุงเทพมหานคร บวกกับอีก 5 จังหวัดรายรอบที่เรียกว่าปริมณฑล แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่กว่าครึ่งในพื้นที่แห่งนี้ก็คือคนต่างจังหวัด เมื่อมีการประกาศออกมาปนเปไปกับความวิตกกังวล มันจึงทำให้พวกเขาหลายหมื่นคน หลายแสนชีวิต เลือกกลับไปภูมิลำเนาดีกว่า

 

 

นั่นยิ่งทำให้ความหวาดวิตกของทีมปฏิบัติหน้าที่ ทั้งบริหาร ปฏิบัติการที่ช่วยกันยับยั้งไวรัสโควิด-19 ไม่ให้แพร่ออกไปสู่ต่างจังหวัด ก็พอกพูนความหวั่นใจมากขึ้นเช่นกัน

เพราะหวั่นว่าคนที่อยู่ในกรุงเทพฯ ใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ จะเอาไวรัสร้ายไปฝากคนที่บ้านอย่างไม่รู้ตัว

และมันจะยิ่งลุกลามไปวงกว้างขึ้นไปอีก

Golden period หรือเวลาทองของ"โควิด-19" สำหรับประเทศไทย มันจึงดูเหมือนง่ายมากที่จะยิ่งแพร่ระบาดออกไปมากกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้

เส้นสายแสดงการพุ่งสูงของไวรัสโควิด-19 ที่นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่หยิบเอามาเผยแพร่ให้กับสาธารณะได้เห็นภาพ

กราฟที่หมอศุภกิจมาแสดง มันทำให้เห็นว่า เส้นที่ระบุถึงจำนวนผู้ป่วยในบ้านเราที่เกินหลัก 100 คน กำลังพุ่งสูงขึ้นในแนวตั้ง

 

 

เหมือนกับที่อิตาลี อิหร่าน และสหรัฐอเมริกา กำลังเผชิญในขณะนี้ แต่ขณะเดียวกัน ในแผนภูมิตัวนี้ ก็ยังมีประเทศในเอเชีย อย่างญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ รวมไปถึงฮ่องกงเองที่เป็นกราฟจำนวนเพิ่มขึ้น แต่เส้นบ่งบอกจำนวนผู้ป่วยมันแตกต่างจากสามประเทศในบรรทัดแรก เพราะเส้นที่แสดงจำนวนผู้ป่วยในประเทศกลุ่มเอเชีย มันอยู่ในระนาบเดียวกับแนวนอน

นั่นย่อมบ่งบอกว่าจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อมันไม่ทะยานขึ้น มันไม่พุ่งขึ้น

ประเทศไทยเอง กำลังจะเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ถูกพูดถึงแล้วเพราะยอดการติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น แต่หมอศุภกิจ ฝากข้อคิดไปถึงคนไทยในการแถลงข่าวสถานการณ์ล่าสุด ว่า "คนไทยเลือกได้ ว่าจะให้กราฟตัวนี้มันพุ่งขึ้นไป หรือจะให้มันอยู่ในระนาบแนวนอนเหมือนกับอีกหลายประเทศที่เขาทำสำเร็จเช่นกัน"

มันจึงเป็น 2 ทางเลือกที่จะกำหนดอนาคตประเทศภายใต้เงื่อนไขของไวรัสร้ายโควิด-19 คนที่กลับไปภูมิลำเนาไปแล้วก็ต้องปฏิบัติตัวตามคำแนะนำอย่างเข้มงวด ไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในจังหวัดของตัวเองให้ได้รับทราบ

อย่าไปสังสรรค์ อย่าไปเล่าถึงประสบการณ์ในเมืองกรุง เก็บตัวไว้ก่อน 14 วัน จากนั้นอะไรดีขึ้นค่อยมาว่ากันใหม่

คนกรุงเทพฯ คนที่ใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ ก็ต้องปฏิบัติตัวอย่างเข้มงวดเหมือนกัน ไม่เดินทาง ไม่เคลื่อนย้ายตัวเอง ติดตามข่าวสารจากหน่วยงานภาครัฐที่เชื่อถือได้

เพราะหากเราไม่ทำ กราฟความเป็นความตายจะพุ่งขึ้นไปเหมือนกับอีกหลายประเทศที่มีผู้ป่วยมหาศาล

เพราะเราไม่ทำ เราจะไม่เหลืออะไร

ถึงเวลาที่คนไทย ....จะต้องเลือกทำ เพื่อช่วยชาติเรายั้งเอาไว้ ไม่ให้โควิด-19 มันเข้ามามีอิทธิพลมากจนเกินไป

 

ข่าวที่น่าสนใจ