”กรณ์” กระตุ้นให้รัฐกล้าจ่าย 5,000 บาท 24 ล้านคน

by ThaiQuote, 31 มีนาคม 2563

“กรณ์ จาติกวณิช” ว่าที่หัวหน้าพรรคกล้า เรียกร้องให้รัฐบาลออกมากล้าจ่ายเงิน 5,000 บาท สำหรับ 24 ล้านคน ใน 3 กลุ่มที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากวิกฤตโควิด-19 และเพิ่มเบี้ยยังชีพให้กลุ่มอ่อนแอทางสังคม เช่นผู้พิการ และคนชรา ที่เป็นภาระของ 3 กลุ่มแรก

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2563 นายกรณ์ จาติกวณิช ว่าที่หัวหน้าพรรคกล้า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Korn Chatikavanij โดยระบุว่าควรจ่าย 5,000 บาท สำหรับ 24 ล้านคน โดยข้อความระบุว่า

5,000 บาท สำหรับ 24 ล้านคน

เมื่อมีผู้ขึ้นทะเบียนเงิน 5,000บาท
ทะลุ 20 ล้านคนแล้วจะทำอย่างไร?

ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า ‘ไม่เกินความคาดหมาย’ เพราะคนที่เดือดร้อนมีมากกว่า 3 ล้านคนแน่นอน และถึงแม้อาจจะมีคนที่ไม่ควรมีสิทธิแฝงเข้ามาบ้าง แต่ในการประเมินของ ‘กล้า’ เราคิดว่าผู้ที่ควรได้รับความช่วยเหลืออยู่ที่ประมาณ 24 ล้านคน

24 ล้านคนมาจากไหน!?

คำตอบคือ..

1. ผู้มี "อาชีพอิสระ" 12 ล้านคน ส่วนใหญ่มีรายได้ต่ำ(สมาชิกประกันสังคมตามมาตรา 39 และ 40 จำนวน 5 ล้านคน และอิสระอื่นๆ 7 ล้านคน) พ่อค้าแม่ขายรายเล็ก หาบเร่แผงลอย เจ้าของธุรกิจ SME ขนาดเล็ก-กลาง ที่ลำบากหมุนเงินไม่ไหว

2. "เกษตรกร" 4 ล้านคนที่ไม่อยู่ในโครงการประกันรายได้ของรัฐบาล ผู้ผลิตอาหาร ข้าว พืช ผัก ผลไม้เข้าเมือง และส่งออก จ่อด้วยภาวะภัยแล้งที่กำลังจะโถมเข้ามาซ้ำเติม

3. "ลูกจ้างรายได้น้อย" หรือผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ที่มีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ชำระภาษีเงินได้ 8 ล้านคน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานในภาคธุรกิจท่องเที่ยวและบริการที่เดือดร้อนหนักมากตอนนี้

รวมสามกลุ่มนี้ 24 ล้านคน เป็นกลุ่มที่ยากลำบากได้รับผลกระทบจากโควิดแต่แรก และวันนี้หากินไม่ได้ มีรายได้ลดลงจากเดิม ทั้งที่รายได้เดิมก็ไม่เยอะอยู่แล้ว ถือเป็นกลุ่มที่จำเป็นต้องช่วยเหลือเร่งด่วน รอช้ากว่านี้จะยิ่งเจ็บลึกครับ

วงเงินที่ต้องใช้ทั้งหมดคือ 120,000 ล้านบาทต่อเดือน หากคำนวณสามเดือนคือ 360,000 ล้าน หรือประมาณ 2.1% ของ GDP

หลายประเทศเขามีมาตรการช่วยเหลือประชาชนคิดเป็นมูลค่าสูงถึง 10%+ ของ GDP ทั้งๆ ที่หนี้สาธารณะของเขามีสัดส่วนต่อจีดีพีที่สูงกว่าเรามาก

ส่วนเงินนั้นเราจะหามาจากไหน?

คำตอบคือ ได้ จาก 3 ส่วนหลักดังนี้
1. ปรับโอนงบประมาณปี 63 ไม่ใช่แค่ขอให้ลดแล้วช่วยแบ่งมา ต้องออกกฎหมายเร่งด่วนให้ชัดเจน
2. ออก พ.ร.ก.เงินกู้ ในกรณีที่จะต้องมีแผนชัดว่าจะช่วยเหลือแบบไหน อย่างไร
3. ปรับพ.ร.บ. งบประมาณปี 64 ที่ครม. อนุมัติขั้นต้นไปเมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา (สามารถใช้ได้ต้นเดือนตุลาคม) ให้ตอบสนองต่อภาวะวิกฤตเศรษฐกิจจากโควิด

ทีมกล้าคิดไปถึงกรณีว่า รัฐบาลควรเพิ่ม "เบี้ยยังชีพ" ให้แก่กลุ่มที่อ่อนแอที่สุดในสังคม อย่างเช่น 1-ผู้สูงอายุ 2-แม่ลูกอ่อน และ 3-คนพิการด้วย เพราะกลุ่มนี้ปกติต้องพึ่งพาเงินสมทบจากสมาชิกในครอบครัวที่ทำมาหากิน ตอนนี้คนวัยทำงานหาเลี้ยงครอบครัวลำบากกันหมด คนกลุ่มนี้จึงยิ่งต้องได้รับการดูแลที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

#สู้ไปด้วยกัน #กล้า
#เรามาเพื่อลงมือทำ

 

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ