“บิ๊กตู่” ขู่หากยังดื้อเดินทาง อาจงดให้บริการขนส่งมวลชน

by ThaiQuote, 31 มีนาคม 2563

นายกฯ แถลงหลังประชุม ครม. ยังไม่ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน หลังประเมินผล 1 เดือน ขู่หากยังเดินทางมากขึ้น อาจงดให้บริการระบบขนส่งต่างๆ ตบมุกขอโทษด้วยที่ขยับหน้ากาก

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 31 มี.ค. 63 ว่า กรณีเรื่องของการลงทะเบียนรับเงินเยียวยา 5,000 บาท ซึ่งมีผู้ลงทะเบียนจำนวนมากถึง 20 ล้านคน ได้มีการสั่งการให้กระทรวงการคลังตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียน เพื่อให้ได้ผู้ที่มีคุณสมบัติตรงตามวัตถุประสงค์ของมาตรการดูแลและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ที่เดือดร้อนจริง โดยหากมีการกรอกข้อมูลอันเป็นเท็จ และมีการตรวจสอบพบหลังจากที่มีการรับเงินเยียวยาไปแล้ว รัฐจะทำการเรียกรับเงินคืนทันที

ทั้งนี้ ผมเข้าใจว่าทุกคนต่างได้รับผลกระทบจากสถานการณ์นี้อาจจะมากน้อยแตกต่างกันไป ผมจึงอยากให้ทุกคนเข้าใจเป็นใจซึ่งกันและกัน อย่าไปตัดโอกาสการเข้าถึงความช่วยเหลือของคนที่ลำบากจริง

ขณะเดียวกันผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งมีคุณสมบัติตรงกับการสนับสนุนเงินเยียวยา 5,000 บาท รัฐบาลก็พร้อมที่จะออกมาตรการอื่นๆมาเยียวยาช่วยเหลือต่อไป เพื่อลกผลกระทบต่อประชาชนทั้งประเทศให้ได้มากที่สุด ในมาตรการระยะ 3 และ ระย4 โดยให้มีการพิจารณาทุกๆ 3 เดือน ด้านงบประมาณผมได้สั่งการให้มีการจัดหางบประมาณ ทั้งภายในภายนอก ทั้งงบประมาณของปี 63 และงบประมาณตาม พ.ร.ก.เงินกู้ ซึ่งมีอยู่ในปัจจุบันเพื่อให้มีงบประมาณเพียงพอ

ที่ผ่านมาเป็นระยะเวลา 7 วันแล้วที่มีผู้เดินทางจาก กทม.กลับภูมิลำเนา ทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มมีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งสถานการณ์ที่มีการตรวจสอบและพบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น มาจากการดำเนินมาตรการการตรวจสอบที่เข้มข้นขึ้น โดยกลุ่มเสี่ยงก็เข้ามาพบแพทย์มากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ได้มีการปรับมาตรการ ให้พื้นที่มีอำนาจพิจารณามาตรการที่เข้มข้นขึ้น เช่น การห้ามดื่มสุรา การปิดสถานที่ ห้ามเล่นกีฬา และห้ามเล่นการพนัน ซึ่งเป็นอำนาจของแต่ละจังหวัดนั้น

ในส่วนของการเดินทาง หากยังมีการเคลื่อนย้ายอยู่เป็นจำนวนมากในปัจจุบัน จึงต้องมีการจัดระเบียบการให้บริการขนส่งของภาครัฐ จำเป็นต้องลดจำนวนลงหรือไม่ ทั้งรถไฟฟ้า รถไฟ รถโดยสารประจำทางต่างๆ โดยให้มีการจัดระเบียบการบริการให้เรียบร้อย ซึ่งหากไม่เรียบร้อยอาจมีความจำเป็นต้องขอให้งดการบริการทั้งหมด เพื่อลดการเคลื่อนย้ายไปมา และเกิดการแพร่เชื้อ

ด้านการพิจารณาการประเมินผล มาตรการตามที่ได้มีการออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยในวันนี้มีการประเมินการทำงานในระยะเวลา 1 เดือนแรก จากระยะเวลาการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่มีอำนาจ 3 เดือน ซึ่งจากการพิจารณาพบว่ายังไม่มีแนวโน้มที่จะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยให้หน่วยงานไปพิจารณาว่ามาตรการใดที่ได้ผลและส่งผลที่ดีขึ้น การมีการให้ผ่อนผันในส่วนนั้น หากยังไม่ดีขึ้น ก็จะมียกระดับมาตรการให้เข้มข้นขึ้น

เรื่องของการเดินทางผ่านแดน ได้มีการควบคุมให้เข้มข้นขึ้น เช่น การเดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง จะต้องเข้าสถานที่กักตัวของรัฐเป็นเวลา 14 วัน ทั้งหมดทุกคน โดยกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย จะยันทึกข้อมูลผู้ที่เดินทางเข้าประเทศในแอปพลิเคชั่นต่างๆ ในการควบคุมเรื่องของที่พำนักอยู่อาศัย

ด้านความเป็นห่วงในเรื่องของการประกอบกิจกรรมทางศาสนา โดยศาสนาพุทธ เน้นย้ำในเรื่องมาตรการการทำบุญที่วัด การสวดมนต์ต่างๆ ต้องมีการกำหนดจำนวน วิธีการในการทำบุญต่างๆให้เหมาะสม

ในส่วนการปลดล็อคความเร็วในการขับขี่ยานพาหนะ ขณะนี้กระทรวงคมนาคมได้จัดทำเครื่องหมายเพื่อกำหนดว่าในเส้นทางช่วงใดที่สามารถใช้ความเร็ว 120 กม.ต่อชม.ได้บ้าง โดยจะต้องระมัดระวังเรื่องของการขับขี่อย่างปลอดภัยด้วย

“ ผมต้องขอโทษด้วย ที่ขยับหน้ากากอีกแล้ว เพราะรู้สึกว่าจมูกผมมันจะไม่ค่อยเข้ากับหน้ากากเท่าไหร่ ขยับอยู่เรื่อยเวลาพูด อาจจะพูดเสียงดังไปนิดในวันนี้ก็ขอโทษด้วย จะระมัดระวังตัวเองให้มากที่สุดนะครับ ขอบคุณด้วยความห่วงใจจากนายกรัฐมนตรี จากรัฐบาล ถึงประชาชนที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทยทุกคน ขอให้ดูแลซึ่งกันและกันให้ดีที่สุด ขอบคุณครับ”


ข่าวที่น่าสนใจ

เซ่นโควิด-19 “เอวาซอน หัวหิน” ประกาศปิดกิจการ