พบ ”ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่” เพิ่มอีก 6 ชนิด ใน"ค้างคาวเมียนมา"

by ThaiQuote, 13 เมษายน 2563

ทีมนักวิทยาศาสตร์ในโครงการ PREDICT ซึ่งทำงานภายใต้องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ หรือยูเสด (USAID) เผยว่า ได้ค้นพบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มมาอีก 6 ชนิด จากการตรวจค้างคาวหลายกลุ่มในประเทศเมียนมา

โดยทีมนักวิทยาศาสตร์ในโครงการ PREDICT ได้วิเคราะห์ตัวอย่างน้ำลายและมูลค้างคาวหลายร้อยตัวอย่าง ซึ่งเก็บจากค้างคาว 11 ชนิดพันธุ์ จำนวนทั้งสิ้น 464 ตัว ในสถานที่ 3 แห่งของเมียนมา ระหว่างปี 2016-2018
สถานที่ซึ่งใช้เก็บตัวอย่างเหล่านี้ ล้วนเป็นถ้ำที่มนุษย์มักเข้าไปใกล้ชิดกับฝูงค้างคาวอยู่เป็นประจำ ทั้งชาวบ้านที่เข้าไปเก็บมูลค้างคาวซึ่งเป็นปุ๋ยชั้นดีมาขาย รวมทั้งคนที่เข้าไปสักการะพระพุทธรูปในถ้ำและบรรดานักท่องเที่ยว

 

 

ทั้งนี้ผลการวิเคราะห์พบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ทีมผู้วิจัยตั้งชื่อว่า PREDICT-CoV-90 ในค้างคาวเพดานใหญ่ รวมทั้งค้นพบเชื้อ PREDICT-CoV-47 และ PREDICT-CoV-82 ในค้างคาวปากย่น ส่วนเชื้อค้นพบใหม่อีกสามชนิดคือ PREDICT-CoV-92, PREDICT-CoV-93, PREDICT-CoV-96 พบอยู่ในค้างคาวหน้ายักษ์สามหลืบ

สำหรับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 6 ชนิดที่ค้นพบล่าสุดนี้ จัดอยู่ในวงศ์ Coronaviridae เช่นเดียวกับไวรัส SARS-CoV-2 หรือเชื้อที่ก่อโรคทางเดินหายใจโควิด-19 แต่กลับมีพันธุกรรมไม่สู้จะใกล้เคียงกันนัก ทั้งยังมีข้อมูลพันธุกรรมแตกต่างไปจากเชื้อไวรัสโรคซาร์ส (SARS) และเชื้อไวรัสโรคเมอร์ส (MERS) พอสมควรด้วย จึงยังไม่ทราบแน่ว่าจะทำให้เกิดการติดเชื้อในมนุษย์ขึ้นได้หรือไม่

 

 

 

 

ดร. ซูซาน เมอร์เรย์ หนึ่งในทีมผู้วิจัยบอกว่า "ไวรัสโคโรนาหลายชนิดอาจไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ แต่ถ้าเราได้รู้จักมันก่อน เราจะมีโอกาสศึกษาทำความเข้าใจเชื้อโรคใหม่ ๆ ที่มีความเสี่ยงสูงล่วงหน้า เพื่อป้องกันการเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ได้"

ทั้งนี้ค้างคาวเป็นสัตว์ที่ต้องสงสัยว่าเป็นแหล่งกักเก็บเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 และไวรัสโคโรนาอีกนับพันชนิด โดยมีการสันนิษฐานว่าเชื้อดังกล่าวติดต่อมาสู่คนผ่านสัตว์ที่เป็นพาหะตัวกลางอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งล่าสุดมีความเป็นไปได้ว่า ตัวนิ่มที่ใช้ลิ้นกวาดกินแมลงตามพื้นดิน อาจติดเชื้อโรคโควิด-19 จากมูลค้างคาวได้

ด้าน ศ.นพ.มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยเป็นเลิศด้านการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ได้เปิดเผยข้อมูลการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกี่ยวข้องกับค้างคาว ผ่านเฟซบุ๊ก Manop Pithukpakorn ระบุข้อความส่วนหนึ่งว่า

 

 

ข้อมูลสนับสนุนว่า รหัสพันธุกรรมของ SARS-CoV-2 มีความคล้ายคลึงกับ SARS-CoV และ MERS-CoV ซึ่งก่อให้เกิดโรค SARS และ MERS ที่เคยระบาดไปก่อนหน้านี้ เป็นไวรัสที่มี RNA เป็นสารพันธุกรรมในตระกูล coronaviridae กลุ่มที่เรียกว่า beta-coronaviridae นอกจาก SARS-CoV และ MERS-CoV แล้ว ยังมีเชื้อชื่อแปลกๆ อย่าง OC43 และ HKU1 ซึ่งเป็นสาเหตุของไข้หวัดปกติที่เราเป็นกันอยู่แทบทุกปี

ข้อมูลรหัสพันธุกรรมของ SARS-CoV-2 ยังบอกเราอีกว่าไวรัสนี้มีเครือญาติใกล้ชิดกับไวรัสที่อาศัยอยู่ในค้างคาว จึงเชื่อได้ว่าแหล่งต้นกำเนิดของไวรัสนี้มาจากค้างคาว เช่นเดียวกับ SARS-CoV และ MERS-CoV แต่การแพร่ของเชื้อมายังมนุษย์ไม่ได้เกิดจากการรับเชื้อจากค้างคาวโดยตรง

แต่น่าจะส่งผ่านจากค้างคาวไปยังตัวนิ่ม (pangolin) ก่อน พออาศัยในตัวนิ่มอยู่ซักพัก จากนั้นมนุษย์ก็คงจับตัวนิ่มไปกินเลยสัมผัสเชื้อมา โมเดลนี้คล้ายคลึงกับ MERS ที่พบว่าค้างคาวเป็นแหล่งต้นกำเนิด โดยมีอูฐรับเชื้อจากค้างคาวมาก่อนจะส่งไม้ต่อให้มนุษย์อีกที

 

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ