จริงหรือไม่? "อากาศร้อน" ช่วยลดการระบาดเชื้อโควิด-19 ได้

by ThaiQuote, 28 เมษายน 2563

ความหวัง!! นักวิจัยทั่วโลกเร่งค้นคว้าวิจัย เดินหน้าไขข้อสงสัย! จริงหรือไม่? "อากาศร้อน" ช่วยลดการระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้

จากสถานการณ์วิกฤติของไวรัสโควิด-19 ส่วนหนึ่งในการหาหนทางการควบคุมการแพร่ระบาด นักวิจัยทั่วโลกต่างพยายามค้นหาความสัมพันธ์ระหว่างการระบาดของโรคโควิด-19 กับอุณหภูมิ เชื้อไวรัสระบบทางเดินหายใจหลายสายพันธุ์ อาทิ ไวรัสไข้หวัดใหญ่และโรคซาร์ส (SARS) มักแพร่ระบาดรุนแรงในเดือนที่อากาศหนาวเย็นและเลือนหายไปในฤดูร้อน แต่การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) จะมีรูปแบบเช่นนั้นหรือไม่

ทั้งนี้ ปัจจุบันคณะผู้เชี่ยวชาญยังไม่พบหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เพียงพอจะยืนยันว่าความร้อนและความชื้นจะชะลอการแพร่กระจายของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2)

“ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่สามารถแพร่กระจายได้ในทุกพื้นที่ รวมถึงพื้นที่ที่มีสภาพอากาศร้อนและชื้น” เป็นข้อความส่วนหนึ่งในรายงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) เมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าอุณหภูมิสูงไม่สามารถลดทอนการแพร่ระบาดได้

ด้าน ทอม คอตซิมโบซ์ รองศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยโมนาชของออสเตรเลีย และแพทย์ระบบทางเดินหายใจประจำโรงพยาบาลอัลเฟร็ด (Alfred Hospital) ในเมืองเมลเบิร์น เปิดเผยกับเดอะการ์เดียน หนังสือพิมพ์สหราชอาณาจักร ว่า ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่เป็นไวรัสเกิดใหม่ ดังนั้น “มิได้หมายความว่ามันจะมีลักษณะเหมือนไวรัสสายพันธุ์อื่น”

“ผมคิดว่าน่าสนใจตรงที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาดไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ทั้งซีกโลกเหนือและใต้” คอตซิมโบซ์ กล่าวพร้อมเสริมว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวบ่งชี้ว่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ไม่ได้พึ่งพาอุณหภูมิในการระบาดหรือการพึ่งพานั้นอาจไม่ใช่ปัจจัยสำคัญต่อการแพร่ระบาด

ขณะที่เหล่านักวิจัยพยายามขุดค้นความสัมพันธ์ระหว่างการระบาดของโรคโควิด-19 กับอุณหภูมิ มีนักวิจัยบางส่วนได้เผยข้อสรุปชวนถกเถียงออกมา

บทความในวารสารการแพทย์ เดอะ แลนเซต (The Lancet) เมื่อวันที่ 2 เม.ย. รายงานว่า คณะนักวิจัย มหาวิทยาลัยฮ่องกงของจีน ค้นพบความสัมพันธ์ระหว่างอุณหภูมิและความคงตัวของไวรัสโควิด-19 โดยระบุว่า ไวรัสฯ มีความคงตัวสูงเมื่ออยู่ที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส และมีระยะฟักตัวนานสูงสุด 14 วัน และเมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้นเป็น 70 องศาเซลเซียส ระยะเวลาในการทำให้ไวรัสฯ หมดฤทธิ์จะลดลงเหลือ 5 นาที

สำหรับบทความในวารสารยูโรเปียน เรสพิราทอรี (European Respiratory) เมื่อวันที่ 8 เม.ย. กล่าวว่า คณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฟู่ตั้นของจีน ค้นพบความเชื่อมโยงระหว่างการระบาดของโรคโควิด-19 กับอุณหภูมิหรือรังสียูวีในเมืองต่างๆ ของจีนเพียงเล็กน้อย ก่อนได้ข้อสรุปว่า “อุณหภูมิโดยรอบไม่ได้ส่งผลกระทบอันมีนัยสำคัญต่อความสามารถในการแพร่กระจายของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่” และ “นี่ค่อนข้างคล้ายคลึงกับการระบาดของโรคเมอร์ส (MERS) ในคาบสมุทรอาหรับ ซึ่งยังคงตรวจพบผู้ป่วยแม้อุณหภูมิในพื้นที่จะสูง 45 องศาเซลเซียส”

ขณะที่ จู อี้ฟาง ศาสตราจารย์ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตลอสแอนเจลิส (UCLA) ของสหรัฐฯ กล่าวกับสำนักข่าวซินหัวว่า ข้อมูลที่เกี่ยวข้องในการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างไวรัสฯ กับอุณหภูมินั้นมีอยู่จำกัด ทำให้เราไม่อาจสรุปแน่ชัดว่าผลลัพธ์ที่ได้นั้นพิสูจน์ยืนยันได้ทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม จู กล่าวเสริมว่า ไม่อาจตัดความเป็นไปได้ว่าอากาศร้อนที่กำลังจะมาเยือนซีกโลกเหนืออาจลดการแพร่ระบาดของไวรัสฯ และยังคงไม่มีข้อสรุปว่าโรคโควิด-19 จะกลับมาระบาดหนักในช่วงฤดูหนาวและกลายเป็นโรคระบาดตามฤดูกาลหรือไม่


เรื่องอื่นที่น่าสนใจ

ยังพอมีหวัง? นักวิจัยพบหลายข้อบ่งชี้ “โควิด-19” แพ้ทางอากาศร้อน

”รมช.สธ.มาเลย์” พร้อมพวก ถูกจับหลังฝืนคำสั่งรัฐ นั่งล้อมวงทานอาหารกัน