“ธนาธร” แนะรัฐบาลถือหุ้นการบินไทย 0-25% เปิดทาง 5 เจ้าสัวซื้อกิจการ

by ThaiQuote, 11 พฤษภาคม 2563

อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ไม่เห็นด้วยรัฐบาลอุ้มการบินไทย ชี้ ต้องใช้เงินจริงถึง 130,000 ล้านบาท แนะถือหุ้น 0-25% เปิดเสรีน่านฟ้า ชี้ มีแค่ 5 ตระกูลรวยซื้อกิจการได้

วันที่ 10 พ.ค.63 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แกนนำคณะก้าวหน้า ได้ไลฟ์เฟซบุ๊ก แสดงความคิดเห็นถึงกรณีการบินไทย ในหัวข้อ “การบินไทยยังไงดี?” หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เห็นชอบให้กระทรวงการคลัง ค้ำประกันกู้เงิน 50,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องในการดำเนินงาน

โดยนายธนาธร ระบุว่า การที่รัฐบาลเข้ามาอุ้มการบินไทยครั้งนี้ไม่ได้ใช้เงินเพียงแค่ 50,000 ล้านบาท เพราะใช้เพียงหล่อเลี้ยงสภาพคล่อง และจ่ายเงินเดือนพนักงาน ในขณะที่ธุรกิจการบิน การท่องเที่ยว และสนามบินยังปิดอยู่ ต่อไปถ้าการบินไทยล้มละลาย เจ้าหนี้ได้เงินทุกบาททุกสตางค์จากรัฐบาล

“แต่ยังมีก้อนที่สองที่พูดถึงกันน้อย คือการเพิ่มทุนเพื่อปรับปรุงงบการเงินให้แข็งแรง และเดินหน้าธุรกิจในระยะยาวอีก 80,000 ล้านบาท ซึ่งรวมแล้วจะต้องใช้เงิน 130,000 ล้านบาท” นายธนาธร กล่าว

อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับวิธีการอุ้มการบินไทยแบบรัฐบาล เพราะเจ้าหนี้และผู้ถือหุ้นตามมาตรการของรัฐบาลนี้ไม่ต้องมีความรับผิดชอบใดๆ กับผลประกอบการของการบินไทย ไม่ว่าจะขาดทุนเท่าไหร่ก็ตาม ถ้ามีกำไรพวกเขาได้ประโยชน์ แต่กลับกันในส่วนของประชาชน ถ้าการบินไทยไปได้ดี ประชาชนไม่ได้อะไรเลย แต่ถ้าการบินไทยเจ๊ง ประชาชนจะต้องเป็นคนแบกหนี้ เป็นคนที่จะต้องจ่ายเงินเพิ่มทุนลงไป จึงเห็นว่าเรามีรูปแบบอื่น มีวิธีแบบอื่นที่จะจัดการปัญหาของการบินไทยในวันนี้ได้ดีกว่านี้

ส่วนประมาณการงบกำไรขาดทุนในแผนฟื้นฟูระหว่างผู้บริหารการบินไทยกับรัฐบาล ที่ระบุว่าในปี 2567 จะมีกำไร 13,000 ล้านบาทนั้น นายธนาธรมองว่า ในฐานะที่ทำธุรกิจ เป็นไปไม่ได้ที่การบินไทยจะลดต้นทุน 42% ภายใน 2 ปี ซึ่งแผนธุรกิจนี้เป็นไปไม่ได้

แผนธุรกิจนี้ทำขึ้นมาเพื่อให้สวยหรูเพื่อขอเงินกระทรวงการคลังได้ จากประสบการณ์ที่ผ่านมา การบินไทยไม่สามารถปรับปรุงตัวเองให้กลับมามีกำไรยั่งยืนได้ ในปีที่แล้วขาดทุนกว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากจะปรับต้นทุนจาก 200,000 ล้านบาท ให้เหลือ 116,000 ล้านบาท ต้องลดต้นทุนกว่า 40% ภายใน 2 ปี เป็นไปได้ยากมาก

“ไม่มีความเชื่อมั่นในแผนธุรกิจฉบับนี้เลย ว่าภายในปีหน้าปีเดียวการท่องเที่ยวจะกลับมา เราจะสามารถลดต้นทุนได้ เราจะขายฝูงบิน (Fleet) ได้ และจะกลับมามีกำไรได้ 4,500 ล้านบาทภายใน 1 ปี”

นายธนาธร ระบุว่า มีทางเลือกอยู่ 4 ทาง คือ

1.เปิดเสรีน่านฟ้า รัฐบาลถือหุ้นการบินไทยเหลือ 0% แล้วให้สายการบินทุกแห่งแข่งขันอย่างเสรี

2.เปิดเสรีน่านฟ้า รัฐบาลถือหุ้นการบินไทยไม่เกิน 25% แต่ให้กลไกตลาดมีอำนาจพอที่จะกำกับการบินไทย

3.ทำแบบปัจจุบัน ที่รัฐบาลถือหุ้นมากกว่า 51%

4.รัฐบาลถือหุ้นการบินไทย 100%

โดยการจัดการในปัจจุบันสามารถดำเนินการได้ 3 แบบ คือ

1.ปล่อยการบินไทยล้มละลายไปเลย รัฐบาลไม่เข้าไปยุ่ง ให้กลไกตลาดเป็นตัวจัดการ ถ้ามีคนสนใจ ผู้ซื้อรายใหม่จะไปดำเนินการ

2.การเข้าไปช่วยการบินไทยปล่อยกู้ในระยะสั้นเพื่อนำไปสู่การขาย หรือล้มละลายอย่างมีการจัดการ (Bridge Loan)

3.ยึดการบินไทยกลับมาเป็นของรัฐ (Nationalization) โดยตัดผู้ถือหุ้นและเจ้าหนี้ทิ้ง แล้วรัฐบาลถือหุ้น 100% เหมือนกรณีเจแปนแอร์ไลน์ จากนั้นนำการบินไทยเข้าสู่แผนฟื้นฟูและปรับปรุงกิจการ ในอนาคตรัฐบาลอาจลดการถือหุ้นลง หรือถือ 100% เหมือนเดิมก็ได้ โดยผ่านมารัฐบาลอุ้มการบินไทยหลายครั้ง แต่การบินไทยไม่สามารถปรับปรุงตัวเองได้ จึงควรตัดตัวเลือกที่รัฐบาลจะเข้าไปถือหุ้น 51-100% ออกไป วิธีที่ดีที่สุดคือ เปิดเสรีน่านฟ้าแล้วรัฐบาลลดหุ้นการบินไทยเหลือ 0-25% โดยนำการบินไทยไปประมูลเพื่อนำเงินคืนรัฐบาล

ผู้ที่จะซื้อกิจการการบินไทยที่มีศักยภาพในไทยมีเพียงแค่ 5 เจ้า ได้แก่ กลุ่มซีพี กลุ่มเบียร์ช้าง กลุ่มบีทีเอส กลุ่มกัลพ์ และกลุ่มคิง เพาเวอร์ ซึ่งมีธุรกิจบางอย่าง หรือผลประโยชน์บางอย่างที่สามารถใช้ประโยชน์จากการบินไทยได้ ส่วนต่างชาติแคนดิเดตที่เป็นไปได้ คือสายการบินจากประเทศจีน เนื่องจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐบาลจีนมีความใกล้ชิดกันสูง และครอบงำธุรกิจด้านต่างๆ ในประเทศไทย

นอกจากนี้ในเชิงยุทธศาสตร์ สายการบินอื่นที่ทำให้การบินไทยอยู่ในกลุ่มบริษัทสายการบิน ที่มีส่วนแบ่งการตลาดในตลาดโลกสูง แต่ตัวเลือกนี้ก็ลำบาก เพราะสายการบินใหญ่ๆ ทั่วโลกล้วนแต่ประสบปัญหาความลำบากในช่วงนี้ ดังนั้นโอกาสที่สายการบินใหญ่ๆ จะมีศักยภาพเข้ามาซื้อกิจการการบินไทยในช่วงนี้มีน้อยมาก กลุ่มสุดท้ายคือกองทุนจากภาคการเงิน ทั้ง Private equity หรือ Hedge Fund เข้ามาซื้อกิจการที่มีปัญหาและฟื้นฟูกิจการเพื่อขายในตลาดเอากำไร

สุดท้าย นายธนาธรยืนยันว่า รัฐบาลมีทางเลือกอื่นที่ประชาชนไม่ต้องรับต้นทุนทั้งหมดของการอุ้มการบินไทย ในขณะที่ถ้าจะเลือกให้รัฐบาลถือหุ้นต่อไป เลือกที่จะถือหุ้นที่เล็ก น้อยกว่า 25% เพื่อนำไปสู่การเปิดเสรีน่านฟ้า

“เชื่อว่าเงิน 130,000 ล้านบาทเป็นเงินจำนวนที่เยอะ คิดเป็น 3-4% ของงบประมาณประเทศต่อปี เรากำลังบอกว่า เราจะใช้เงินก้อนนี้ไปอุ้มการบินไทย โดยที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียคนอื่นไม่ต้องรับผิดชอบเลย ไม่เห็นด้วย เชื่อว่าเรามีทางเลือกที่ดีกว่านี้" นายธนาธร กล่าว

 

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ