โต๊ะสี่เหลี่ยมวงประชุม “พลังประชารัฐ” ภาพแบ่งฝ่ายที่ชัดเจน แต่สุดท้ายคือชื่นมื่น

by ThaiQuote, 19 มิถุนายน 2563

ทุกเรื่องราวในวงประชุมของพรรคพลังประชารัฐ บนโต๊ะสี่เหลี่ยมผืนผ้า ภาพแบ่งฝ่ายที่ชัดเจน แต่สุดท้ายคือชื่นมื่น เมื่อ “อุตตม-สนธิรัตน์” คือประวัติศาสตร์ของพรรคนี้ แต่อนาคตร่วมกับพรรค ทั้งคู่ “ยังไม่แน่”

 

โดย....กองบรรณาธิการ ThaiQuote

โต๊ะขนาดใหญ่สี่เหลี่ยมผืนผ้า ถูกเซ็ตเอาไว้บนชั้นสามในห้องประชุมของพรรคพลังประชารัฐ เพื่อรองรับเกือบ 40 ชีวิตของรักษาการกรรมการบริหารพรรคการเมืองพรรคนี้ เพื่อเปิดวงหารือว่า “ชื่อ” ของใครจะเหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งหัวหน้าพรรค

บรรยากาศที่ก่อหวอดว่าจะวุ่นวาย เพราะกระแสข่าวที่ถาโถมเข้าใส่พรรคพลังประชารัฐที่เป็นแกนนำรัฐบาลมาตลอดเกือบเดือน ดูเหมือนจะมลายไปสิ้น เพราะทั้งกลุ่ม 18 กรรมการบริหารพรรค ที่ยื่นหนังสือลาออกเพื่อเปิดทางให้มีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่แทนที่นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ในฐานะหัวหน้าพรรค รวมไปถึงตัวนายอุตตมเอง ตลอดวงการประชุมกว่า 2 ชั่วโมงแว่วว่าก็มีแต่รอยยิ้มและความชื่นมื่นระหว่างกัน

 

 

แต่ที่น่าสนในคือในโต๊ะสี่เหลี่ยมผืนผ้าตัวนี้ หัวโต๊ะที่นั่งก็คือนายอุตตม และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการของพรรคที่สถานะปัจจุบันคือรักษาการ และยังเป็น รมว.พลังงาน นั่งควบคุมการประชุม แต่ฝั่งที่ขนาบข้างของนายสนธิรัตน์ ที่เป็นแนวยาว พบว่าเป็น “ทีม” ของรักษาการกรรมการบริหารพรรค ก๊วนที่ยกแผงกันลาออก ผสมโรงเพิ่มเติมกับกรรมการบริหารบางส่วนที่ขอนั่งในฝั่งนี้

ฝั่งความยาวของโต๊ะสี่เหลี่ยมผืนผ้าฝั่งหนึ่ง เราจึงเห็นอีกฝั่งของรักษาการกรรมการบริหาร ที่มีหน้านายไพบูลย์ นิติตะวัน รักษาการรองหัวหน้าพรรค นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม “เสี่ยแฮงค์” นายอนุชา นาคาศัย แกนของกลุ่มสามมิตร “ครูตั้น” นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ “บี” พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อยู่ร่วมฝั่งเดียวกันพร้อมกับคนอื่นๆ อีกราว 14-15 ชีวิตที่ร่วมฝั่งนั่งในวงประชุมฝั่งเดียวกัน และภาพในเฟรมก็ปรากฎยืนยันเช่นนั้น

ส่วนอีกฝั่งความยาวของโต๊ะสี่เหลี่ยมผืนผ้าตัวนี้ ก็ปรากฎเป็นภาพของ “บิ๊กเนม” มากพอตัวเหมือนกัน แต่ที่น่าสนใจคือหนึ่งในนั้นเป็นภาพของนายสันติ พร้อมพัฒน์ พร้อมด้วยนายสุพล ฟองงาม “อาจารย์แหม่ม” นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนของพรรค รวมกันกับคนอื่นๆ อีกเกือบๆ 10 คน

แต่ที่น่าสนใจจนจากการสังเกต เป็นภาพอีกฝั่งหนึ่งนั่งกันแน่นขนัด ประหนึ่งว่าเป็นพวกเดียวกัน ขณะที่อีกฝั่งหนึ่งก็นั่งกันแบบหลวมๆ ทำให้ดูเหมือนว่าจะสวนทางกันกับบรรยากาศอันชื่นมื่นที่บรรดาคนในของพรรคจะพยายามออกมาพูดกับกองทัพนักข่าวที่รอผลการประชุมกันเนืองแน่น

คล้อยหลังไปราว 2 ชั่วโมง วงประชุมแห่งนี้จึงเลิก เราจึงได้เห็นมูฟเมนต์ว่าชื่อเดียวที่ถูกเสนอให้เป็นหัวหน้าพรรคคือ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพียงคนเดียว และรอคอยให้สมาชิกพรรคทั้งหมดได้ลงคะแนนทางเลือกเดียวทางเลือกนี้ ในวันประชุมใหญ่ของพรรคคือวันที่ 27 มิถุนายน 2563 เวลา 13.00-17.00 น. ที่อิมแพค อารีนา เมืองทองธานี

ประสานเสียง “วงประชุม” สุดชื่นมื่น “ไพบูลย์” ชู ประวัติศาสตร์จะจารึก “อุตตม-สนธิรัตน์”

นายวิรัช รัตนเศรษฐ หนึ่งในรักษาการบริหารพรรค เป็นคนแรกที่พาตัวเองเข้าสู่วงสัมภาษณ์ของนักข่าว ก่อนเผยวงในที่ประชุมว่า แคนดิเดตที่จะเป็นหัวหน้าพรรคมีคนเดียว คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ส่วนตำแหน่ง “พ่อบ้าน” หรือเลขาธิการพรรค มีการเสนอชื่อนายอนุชา นาคาศัย และนายสันติ พร้อมพัฒน์ ถูกเสนอให้เป็นผู้อำนวยการพรรค

“บรรยากาศในวงประชุมก็เป็นไปอย่างราบรื่น ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใสไม่มีเรื่องราวอะไร” นายวิรัช กล่าว

คนต่อมาที่ทำให้คอการเมืองเห็นภาพในการประชุมพรรคพลังประชารัฐ คือนายไพบูลย์ นิติตะวัน รักษาการรองหัวหน้าพรรค กล่าวว่า ชื่นชมสปิริตของนายอุตตม และนายสนธิรัตน์ ที่จัดประชุมขึ้นในวันนี้ และทำให้บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวมทั้งสนับสนุนให้มีการประชุมใหญ่ของพรรคอย่างเต็มที่เช่นกัน

ส่วนเรื่องกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จะปรากฏว่ามีชื่อของนายอุตตม และนายสนธิรัตน์ อยู่ร่วมทำงานด้วยหรือไม่ นายไพบูลย์ บอกว่า ไม่ทราบ

“แต่ท่านทั้งสองก็คือบุคคลแรกที่นำพรรค ทั้งในตำแหน่งหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค ประวัติศาสตร์จะจารึกเรื่องนี้เอาไว้ และใครก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้” นายไพบูลย์ กล่าว

 

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ