เปิดทุกคำของการแถลงข่าวใหญ่ “4 กุมาร” ลาออกจากพลังประชารัฐ ย้ำบรรลุงานการเมืองแล้ว แต่งานบริหารประเทศเพื่อประโยชน์ชาติ “จะเดินหน้าต่อให้เต็มที่”

เวลา 12.00 น. วันที่ 9 มิถุนายน 2563 นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง พร้อมด้วยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง หรือที่รู้จักกันดีในนามกลุ่ม 4 กุมารตามที่คอการเมืองตั้งชื่อให้ แถลงข่าวร่วมกันถึงประเด็นจุดยืนทางการเมือง และประเด็นที่ถูกสังคมพูดถึงว่าจะเป็นการประกาศลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ

ก่อนการแถลงข่าว บรรยากาศโดยรอบห้องประชุมในโรงแรมเซนทารา เซ็นทรัลลาดพร้าว มีกองทัพนักข่าวจำนวนหลายสิบชีวิตปักหลักรอการแถลงของทั้ง 4 คน โดยรูปแบบการจัดแถลงข่าว มีการเว้นระยะห่างกันอย่างชัดเจนราว 4-5 เมตรจากโต๊ะแถลงข่าว พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่มีการแจ้งถึงประเด็นการแถลงข่าวเบื้องต้นว่า จะเป็นการแถลงการลาออกของทั้ง 4 คน

นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง และอดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นำทีมทั้งกลุ่ม 4 กุมารเดินออกจากห้องรับรองเพื่อมายังจุดแถลงข่าว โดยทั้งหมดมาในชุดเหมือนกัน คือชุดสูทสีดำ เน็กไทด์สีเหลือง พร้อมกับสวมหน้ากากอนามัยกันอย่างครบถ้วน และเมื่อเปิดหน้ากากอนามัยเพื่อเตรียมแถลงข่าว ก็ปรากฎเป็นรอยยิ้มของทั้ง 4 คน

งานพรรคบรรลุเป้าหมาย ถึงเวลาที่ต้อง "ลาจาก"

ก่อนที่จากนั้น นายอุตตม จะเป็นคนแรกที่เปิดการแถลงข่าว โดยระบุว่า กลุ่มของพวกเราทั้ง 4 คน มีแนวทางการทำงานเหมือนกันโดยเฉพาะงานด้านการเมือง จากเดิมเป้าหมายที่วางเอาไว้คือ ต้องการสร้างพรรคพลังประชารัฐ ให้เป็นสถานบันทางการเมือง และมีคนหลากหลายสายงานจากหลายกลุ่มทางการเมืองมาร่วมงานกัน และเป็นผลสำเร็จที่พรรคเป็นหลักของทางการเมืองได้

"ดังนั้น ภารกิจทางด้านพรรคการเมืองของพวกเราทั้ง 4 คนก็ถือว่าบรรลุไปแล้ว และวันนี้พลังประชารัฐมีคณะผู้บริหารใหม่ ที่พร้อมจะนำพาพรรคให้เดินไปข้างหน้าได้ ก็เป็นเวลาที่เหมาะสมที่เราจะหยุดภารกิจงานทางด้านพรรคการเมืองในพรรคพลังประชารัฐ แต่ทั้งนี้ เราทั้งหมดก็จะเดินหน้าทำงานด้านบริหารในตำแหน่งรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อย่างเต็มที่ต่อไป" นายอุตตม กล่าว พร้อมขยายความว่า ทั้ง 4 คน อยากทำงานให้ประเทศชาติ ให้ประชาชนต่อไป เพราะขณะนี้กำลังเผชิญกับความท้าทายจากปัญหาโควิด-19 ซึ่งยังถือว่าเป็นหน้าที่ และต้องทำต่อไป

นอกจากนี้ นายอุตตม กล่าวด้วยว่า แม้ว่าจะลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ แต่ก็พร้อมจะสนับสนุนทุกกิจกรรรมของพรรค หากว่าเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและสังคมก็พร้อมจะสนับสนุน

'สนธิรัตน์' พวกเราไม่ใช่นักการเมือง

ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน และอดีตเลขาธิการพลังประชารัฐ เสริมนายอุตตมในการแถลงข่าวด้วยเช่นกันว่า พวกเราไม่ใช่นักการเมือง และวันที่เราเข้ามาทำงานร่วมกันก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ เราทราบดีว่าการเมืองอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ซึ่งขณะนั้นก่อนการเลือกตั้งที่เกิดขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุดที่จะพาประเทศเปลี่ยนผ่าน และนำประเทศในช่วงรอยต่อนี้ นั่นคือที่มาที่พวกเราทั้ง 4 คนมาร่วมกันทำงานพรรคการเมือง และร่วมกันกับอีกหลายคนตั้งพรรคพลังประชารัฐขึ้นมา

"มาถึงวันนี้ เราได้ทำงานอย่างเต็มที่และเดินหน้าจนสำเร็จดั่งความตั้งใจ และเราทราบดีครับว่า วันนี้บทบาททางการเมือง หรือหน้าที่ มันย่อมมีการเปลี่ยนแปลง เราไม่ได้ยึดติดกับบทบาทใด หรือต้องมาคิดว่าจะต้องมีตำแหน่ง และมีหน้าที่ให้อยู่ได้ อยู่นานมากที่สุด ดังนั้น จึงเป็นที่มาของการตัดสินใจครั้งนี้

เปิดใจกับสื่อ "4 กุมาร" ไม่คิดตั้งพรรคการเมือง

การแถลงความในใจของกลุ่ม 4 กุมาร มีเพียงนายอุตตม และนายสนธิรัตน์เท่านั้นที่ทำหน้าที่ชี้แจงต่อกล้องหลายสิบตัวที่ถ่ายทอดสดพวกเขาไปทั้งประเทศ ด้วยจำนวนกองทัพนักข่าวที่มหาศาลอัดแน่นในพื้นที่แถลงข่าว หลังใช้เวลาราว 10-12 นาทีสำหรับการแถลง ก็ถึงคราวที่ 4 กุมารจะเปิดโอกาสให้นักข่าวได้ซักถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และคำถามแรกคือ คิดจะตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาหรือไม่?

นายอุตตม เป็นผู้ตอบคำถามนี้ พร้อมกับยืนยันหนักแน่นว่า ไม่มีความคิดเรื่องตั้งพรรคการเมือง หรือไปคิดเรื่องพรรคการเมืองเลย เพราะทุกวันนี้ยังคงทำงานอย่างเต็มที่ มีงานบริหารตามตำแหน่งรัฐมนตรีที่ต้องทำเต็มที่เพื่อประโยชน์ของประชาชน ดังนั้น เรื่องพรรคการเมืองพวกเราไม่ได้คิด ขอทำงานด้านบริหารให้ดีที่สุด เต็มที่ที่สุดก่อนดีกว่า

"วันนี้เรามาแถลงในนามของพรรคพลังประชารัฐ มาในเรื่องของพรรค ไม่ได้มาในตำแหน่งของฝ่ายบริหารตามตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งอนาคตตำแหน่งนี้จะเปลี่ยนไปหรือไม่อย่างไร ก็เป็นอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ ที่จะพิจารณา" นายอุตตม กล่าว

สอดรับกับนายสนธิรัตน์ ที่ระบุตอบถึงคำถามนี้เช่นกันว่า เราทั้ง 4 คน แยกบทบาทอย่างชัดเจนระหว่าง งานพรรคการเมือง และงานบริหารประเทศ เราแยกออกมาเป็น 2 บทบาท บทบาทงานในพรรคเราทำหน้าที่มาถึงวันนี้แล้ว ส่วนบทบาทฝ่ายบริหารก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไรก็ขอให้นายกฯ เป็นผู้พิจารณา

"ที่ผ่านมาผมภูมิใจมากที่เป็นส่วนหนึ่งของพรรคพลังประชารัฐ และสายสัมพันธ์ที่ดีในพรรคก็เป็นสายใยที่ไม่ได้ตัดขาด เรายังเป็นคนที่เคยอยู่ในครอบครัวเดียวกัน ไม่ได้มีการขัดแย้งหรือโกรธเคืองอะไร เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงวิถีของการเดินไปข้างหน้า เพียงแต่ว่ากลุ่มเรามีความคิดเช่นนี้ มีจุดยืนเช่นนี้ เราก็เลือกเส้นทางเดินนี้" สนธิรัตน์ กล่าว และย้ำว่าขอให้สื่อมวลชนขีดเส้นใต้กำกับเลยว่า อย่าไปกังวลใจเรื่องพรรคการเมือง เพราะ 4 กุมารไม่คิดตั้งพรรคการเมืองแน่นอน

พลันที่นายสนธิรัตน์ กล่าวประโยคนี้จบ นายอุตตม ก็ขอเสริมทันทีถึงความสัมพันธ์ของ 4 กุมาร ว่า ที่ผ่านมาเราทั้ง 4 คนทำงานร่วมกันมาตลอด และมีความผูกพันกันอย่างมาก เรามาทำงานการเมืองร่วมกันด้วยเจตนาที่ดี ดังนั้น ความผูกพันนี้จะเดินหน้าต่อไปแน่นอน แต่อนาคตจะมีงานอะไร หรือเป็นงานการเมืองใด เราก็พร้อมจะทำร่วมกัน

บอกกับ "อาจารย์สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" แล้วหรือยัง?

เป็นที่ทราบกันดีว่า 4 กุมาร คือมันสมองที่สอดรับกับความรู้ความสามารถด้านเศรษฐกิจของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจมาโดยตลอด และการตัดสินใจของ 4 กุมารครั้งสำคัญบนถนนการเมือง ผู้สื่อข่าวถามทั้งหมดว่าได้มีการพูดคุยกับนายสมคิดหรือยัง ก่อนที่จะมีการตัดสินใจ

คนตอบคือนายสนธิรัตน์ ระบุว่า ได้เรียนให้ท่านทราบแล้ว และท่านก็ได้ให้กำลังใจกลับมา พร้อมกับบอกว่า สิ่งใดที่พวกเราตัดสินใจ หรือได้พิจารณาแล้ว ท่านก็พร้อมจะเคารพการตัดสินใจนั้น

ข่าวที่น่าสนใจ

• “ธนกร” ลั่น ไม่สนผลโพล ชี้ผลงานรัฐบาลจับต้องได้ คะแนนนิยม “บิ๊กตู่” ยังนำโด่ง
• “โพล” ชี้ ปชช.นิยม "พรรคก้าวไกล” เพิ่มขึ้น ”ปชป.-พปชร." นิยมดิ่งฮวบ