เปิด 10 อาชีพมาแรง ในพื้นที่ อีอีซี รมว.แรงงานเร่งจ้างงานหลังโควิด-19 กว่า 40,951 อัตรา หวังฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังโรงงานปิดตัวมาก แนะเด็กไทยเรียนสายอาชีพ สอดรับตลาดแรงงาน

นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เร่งแก้ปัญหาการว่างงานที่เกิดในทุกภาคส่วนของประเทศไทย ซึ่งวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อการจ้างงานของไทยเป็นอย่างมาก

แม้กระทั่งในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่ต้องเผชิญกับสภาวะดังกล่าว ซึ่งกรมการจัดหางาน ได้เร่งช่วยเหลือให้ประชาชนได้เกิดการจ้างงาน โดยเฉพาะในส่วนพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ใน 3 จังหวัด คือ ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา โดยเร่งเตรียมตำแหน่งงานว่าง เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เนื่องจากเป็นพื้นที่ส่งเสริมการลงทุน ประกอบกับรัฐบาลมีมาตรการในการจูงใจนักลงทุนให้มาลงทุนในพื้นที่ EEC โดยเฉพาะการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมใหม่

นายสุชาติ เผยว่า ขณะนี้ สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศได้คลี่คลายลง กรมการจัดหางานมีแนวคิดจะกระตุ้น การจ้างงาน ในพื้นที่ EEC ทันที ซึ่งจะสอดรับการเป็นพื้นที่การลงทุนของรัฐบาล ที่ดึงให้นักลงทุนมาประกอบกิจการเพื่อพลิกฟื้นสถานการณ์ในพื้นที่ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว โดยประเภทงานที่ EEC มีความต้องการแรงงานมากที่สุด 10 อันดับแรก ได้แก่

1.) แรงงานด้านการผลิตอื่นๆ แรงงานทั่วไป 12,706 อัตรา
2.) พนักงานรักษาความปลอดภัย 11,437 อัตรา

3.) พนักงานบริการอื่นๆ 1,807 อัตรา

4.) ช่างอัญมณีและช่างประดิษฐ์เครื่องประดับอื่นๆ 1,186 อัตรา
5.) ผู้ตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ 872 อัตรา

6.) ช่างเทคนิควิศวกรรมไฟฟ้า 826 อัตรา

7.) ช่างเทคนิควิศวกรรมโยธา (ก่อสร้าง) 618 อัตรา

8.) พนักงานขาย และผู้นำเสนอสินค้าอื่น ๆ 609 อัตรา

9.) เจ้าหน้าที่เทคนิคเคมี , ช่างเทคนิค (อินทรีย์เคมี , ยาง , พลาสติก, โพลิเมอร์, สี , กระดาษ , น้ำมัน , เส้นใย , อาหารและเครื่องดื่ม) 604 อัตรา

10.) เจ้าหน้าที่การตลาด 516 อัตรา และอื่นๆ (ช่างเทคนิควิศวกรรมเครื่องกลอื่น ๆ, แม่บ้านและผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ, ช่างเชื่อมโลหะด้วยไฟฟ้า , ฯลฯ) 9,770 อัตรา

โดยแรงงานที่ต้องการในพื้นที่ EEC มีทุกระดับตั้งแต่แรงงานฝีมือ กึ่งฝีมือ และไรฝีมือ ซึ่งมีความต้องการครอบคลุมตั้งแต่ระดับประถมศึกษา จนถึงปริญญาตรี ขึ้นไป

ทั้งนี้กรมการจัดหางานยังได้ร่วมกับหน่วยที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ในการพัฒนาทักษะแรงงาน เพื่อส่งเสริมฝีมือและผลิตบุคลากรให้ทำงานในภาคอุตสาหกรรม เช่น ร่วมกับสถาบันพัฒนาบุคลากรสาขาเทคโนโลยีการผลิตอัตโนมัติและหุ่นยนต์ (MARA) ฝึกอบรม เกี่ยวกับหุ่นยนต์อุตสาหกรรม เทคโนโลยีการเชื่อมด้วยหุ่นยนต์ อุตสาหกรรมการผลิต ได้ประชุมหารืออย่างเข้มข้น และลงนามบันทึกข้อตกลงทางวิชาการ เพื่อประโยชน์และพัฒนาศักยภาพแรงงานในอนาคต

“เศรษฐกิจทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกยังอยู่ในระยะการฟื้นฟู จากความต้องการแรงงานดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า การเรียนในสายอาชีพเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานเป็นอย่างมาก และสายงานเหล่านี้ยังสามารถอยู่ได้แม้ในภาวะวิกฤต

ดังนั้น เพื่อรองรับต่อภาคอุตสาหกรรม จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกหาก หันมาเลือกเรียนในสายอาชีพเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน ตอบโจทย์ความต้องการของประเทศ และไม่ตกงาน” อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว

อย่างไรก็ตาม กรมการจัดหางานจะเร่งดำเนินมาตรการให้แรงงานไทยได้บรรจุงาน มีงานทำ รวมทั้งได้พัฒนาทักษะแรงงาน ด้วย เพื่อให้มีศักยภาพรองรับการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย เพื่อมารองรับเทคโนโลยีใหม่ทั้งด้านหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติต่อไป

ข่าวที่น่าสนใจ

• 5 แบรนด์ไทย ปลุกกระแสใส่ใจ “รักษ์โลก” อย่างยั่งยืน
• รมว.แรงงาน ผุดไอเดีย ตั้ง “ศูนย์อำนวยการงานแห่งชาติ” ดูแลแรงงานทั้งระบบ