ทำความรู้จัก Forest company ธุรกิจปลูกป่า ที่โลกได้ประโยชน์

by ThaiQuote, 6 พฤศจิกายน 2563

Forest company ปลูกป่าได้เงิน วินๆ ทั้งธุรกิจ และสิ่งแวดล้อม

 

Forest company คือธุรกิจเอกชนหรือองค์กรเอกชนหวังผลกำไรที่มุ่งปลูกป่าด้วยนวัตกรรมที่ล้ำสมัย เพื่อพลิกฟื้นผืนป่าให้กับโลก พร้อมๆ กับสร้างรายได้ให้กับเจ้าของ “ผืนโลก” เพราะโลกของเราไม่ใช่ดินแดนที่ว่างเปล่าไร้การจับจองอีกต่อ แต่จะทำอย่างไรให้ผู้ที่มีกรรมสิทธิ์เหนือที่ดิน ตระหนักว่าพวกเขาสามารถสร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ ไปพร้อมๆ กับสร้างความรุ่มรวยให้กับสิ่งแวดล้อมได้ในเวลาเดียวกัน

Forest company เป็นกระแสที่กำลังติดลมบน เป็นการใช้ประโยชน์จากการทำป่าไม้ที่วิน-วินด้วยกันทุกฝ่าย ไม่เหมือนกับการทำป่าแบบเดิม (Deforestation) ที่ทำลายป่ามากกว่าปลูกใหม่ แต่นี่คือการปลูกใหม่แล้วใช้ประโยชน์เท่าที่จำเป็นจากป่า (Reforestation)

และไม่ใช่แค่การปลูกป่าแบบปัจเจกบุคคลเท่านั้น แต่ระบบเศรษฐกิจยังได้อานิสงส์ไปด้วย โดยรายงานจาก World Resources Institute (WRI) และ Nature Conservancy (TNC) พบว่าธุรกิจที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภค การจัดการโครงการ และภาคป่าไม้เชิงพาณิชย์ ต่างก็ทำเงินจากการปลูกต้นไม้โดยมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่าต่อปี และแนวโน้มนี้กำลังไปได้ด้วย เพราะรูปแบบธุรกิจใหม่กำลังเกิดขึ้น

ธุรกิจนี้เรียกว่า การฟื้นฟู (Restoration) หรือเศรษฐกิจการฟื้นฟู (Restoration economy) รายงานของ WRI และ TNC นิยามว่า เป็นเป็นกิจกรรมที่ช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบนิเวศของภูมิประเทศที่เสื่อมโทรม มุ่งเน้นที่การฟื้นฟูโดยใช้ต้นไม้เป็นหลัก ซึ่งอาจมีตั้งแต่การปลูกป่า คือการปลูกทดแทนพื้นที่ที่ถูกทำลายด้วยต้นไม้อย่างสมบูรณ์ ไปจนถึงวนเกษตร คือการสร้างระบบเกษตรที่รวมป่าไม้เป็นส่วนหนึ่งด้วย

ส่วนเศรษฐกิจการฟื้นฟู หมายถึงเครือข่ายธุรกิจนักลงทุนและผู้บริโภคที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูผืนดิน ซึ่งตลาดของเศรษฐกิจระบบนี้มีตั้งแต่การทำป่าไม้แบบยั่งยืน ไปจนถึงสินค้าอุปโภคบริโภคของมนุษย์และอาหารสัตว์ จะเห็นได้ว่าการพลิกฟื้นป่าแบบนี้มีประสิทธิภาพอย่างมาก

รูปแบบธุรกิจของเศรษฐกิจการฟื้นฟูป่ามีหลากหลาย เช่น บริษัทที่เน้นเทคโนโลยีในการปลูกป่า บริษัทที่ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคจากป่าปลูกใหม่และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงสุขภาพของผู้บริโภค และบริษัทประเภทจัดการโครงการ

บริษัทสายเทคโนโลยี คือบริษัทที่พัฒนาและปรับใช้เทคโนโลยี เพื่ออำนวยความสะดวกในการฟื้นฟูป่า โดยเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพโดยใช้ลดต้นทุนต่ำ เช่น

1. BioCarbon Engineering

เชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีโดรนแบบพิเศษและภาพถ่ายดาวเทียมเพื่อฟื้นฟูภูมิทัศน์ของผืนป่าในพื้นที่ห่างไกล ข้อมูลที่ได้จากโดรนจะนำมาทำเป็นแผนที่ของพื้นที่ที่จะมีการปลูกป่าเพื่อการจัดการระบบนิเวศอย่างมีประสิทธิภาพ เช่นการประมวลผลเพื่อสร้างรูปแบบการเพาะปลูกที่เหมาะสมที่สุดในพื้นที่นั้นๆ และยังมีการใช้แอพพลิเคชั่นเพื่อจัดระเบียบการใช้สารเคมีฆ่าวัชพืชและปุ๋ยบำรุง

2. Land Life Company

เป้าหมายของพวกเขาคือ การคืนชีวิตให้พื้นที่เสื่อมโทรม 2 พันล้านเฮกตาร์ของโลก โดยก่อนที่จะมีการ “ปลุกป่า” ขึ้นมาใหม่ ทีมงานเทคโนโลยีชีวิตและนิเวศวิทยาของ Land Life จะทำการประเมินที่ดินและสถานการณ์ทางนิเวศวิทยาอย่างละเอียด และได้พัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยให้สามารถปลูกป่าใหม่ได้หลายร้อยเฮคเตอร์ในคราวเดียว ด้วยการปลูกผ่านระบบ GPS และระบบการปลูกแบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพ และยังมีนวัตกรรมที่เรียกว่า Cocoon ออกแบบมาปกป้องต้นอ่อนในช่วงปีแรกที่สำคัญในการเจริญเติบโต นอกจากนี้ Land Life Company ยังทำการจดสิทธิบัตรผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ต้นไม้ได้เติบโตในที่แห้งแล้งและเสื่อมโทรมด้วย

3. TerViva

ทำการปลูกต้นหยีน้ำ (Millettia pinnata) บนพื้นที่การเกษตรด้อยคุณภาพ ซึ่งหยีน้ำเป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่แห้งแล้ง ใช้ปลูกเพื่อป้องกันการพังทลายของดิน ในเมล็ดมีน้ำมันใช้ผลิตไบโอดีเซลได้เช่นเดียวกับสบู่ดำ โครงการปัจจุบันคือการสร้างโครงการนำร่องและขนาดเชิงพาณิชย์ในฮาวายและฟลอริดา ซึ่งเหมาะกับการปลูกต้นหยีน้ำ โดยได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มทุนสำคัญ เช่น The Yield Lab และ Elemental Excelerator

4. F3 Life

บริษัทนี้เน้นนวัตกรรมด้านการเงิน ซึ่งต่างจากรายอื่นๆ ที่เน้นด้านวิทยาศาสตร์ โดยอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงสินเชื่อสำหรับเกษตรกรรายย่อยในประเทศเคนยา และเป็นผู้ชนะรางวัลปฏิบัติการนวัตกรรมระดับโลกสำหรับการเงินด้านภูมิอากาศ (Global Innovation Lab for Climate Finance) และนวัตกรรมทางการเงินเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จาก UNDP

สำหรับบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภค คือ บริษัทที่ขายผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัตถุดิบจากกิจกรรมการฟื้นฟูป่า หรือให้การสนับสนุนโครงการฟื้นฟูป่า ตัวย่างของบริษัทกลุ่มนี้ เช่น Guayakí ซึ่งขายเครื่องดื่มที่ทำจากเยอร์บา มาเต ที่ปลูกในป่าฝนเขตร้อนแอตแลนติก มาเต หรือชาบราซิล เป็นพืชพื้นเมืองในอเมริกาใต้ ตามที่ราบลุ่มแม่น้ำในอาร์เจนตินา บราซิล อุรุกวัย และปารากวัย

 

เป็นพืชที่นิยมนำมาทำเครื่องดื่ม มีสรรพคุณขับปัสสาวะ แก้อาการเมื่อยล้า ในยุโรปนิยมดื่มเป็นเครื่องดื่มเพื่อลดน้ำหนัก เพราะทำให้เบื่ออาหาร นอกจากนี้ยังมี Tentree บริษัทเครื่องแต่งกาย มีเจตนารมณ์ที่จะปลูกต้นไม้ 10 ต้น เมื่อขายสินค้าได้ 1 ชิ้น และ Ecosia ผู้ให้บริการเครื่องมือค้นหาออนไลน์ ใช้ผลกำไรเพื่อปลูกต้นไม้


ขอบคุณข้อมูลจาก กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ

นักวิทย์เผย แผ่นน้ำแข็งแตก “เพนกวิน” ตายเป็นเบือ!