“วัชระ” ร้องเอาผิด ตำรวจ ไม่สั่งฟ้อง “สกุลธร” ปมจ่ายเงิน 20 ล้าน เจ้าหน้าที่สำนักทรัพย์สินฯ

by ThaiQuote, 7 ธันวาคม 2563

“วัชระ เพชรทอง” ร้องเอาผิด พนักงานสอบสวน ไม่สั่งฟ้อง “สกุลธร” น้อง “ธนาธร” จ่ายเงิน 20 ล้านบาท คดีเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ปลอมเอกสารประมูลเช่าที่ดิน

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (7 ธ.ค.63) ที่ นายวัชระ เพชรทอง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่สำนักงานตำรวจแหง่ชาติ (สตช.) เพื่อสอบถามกรณีที่พนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้องนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ โดยมี พ.ต.อ.นันพิเดช ศรีเขียวรัตน์ รอง ผบก.สง.ก.ต.ช. เวรอำนวยการ เป็นผู้รับเรื่องก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาต่อไป

นายวัชระกล่าวว่า จากกรณีที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 27 พ.ย.63 คดีหมายเลขดำ ที่ อท/2562 คดีหมายเลขแดงที่ อท/2563 ระหว่างพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต เป็นโจทก์ฟ้อง นายประสิทธิ์ อภัยพลชาญ เจ้าหน้าที่ฝ่ายโครงการพิเศษ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (ชื่อเดิม) และนายสุรกิจ ตั้งวิทูวนิช เป็นจำเลยที่ 1-2 นั้น

ทั้งนี้ในคำพิพากษาตอนหนึ่งระบุว่า นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ให้เงิน 20 ล้านบาท แก่จำเลยทั้ง 2 รับไว้สำหรับตนเองเพื่อเป็นการตอบแทนในการที่จำเลยทั้งสองจะร่วมกันไปดำเนินการติดต่อประสานงานและนำเงินส่วนหนึ่งไปมอบให้รองผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นเจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่ของรัฐ เจ้าพนักงานของรัฐ ตามกฎหมายโดยวิธีอันทุจริตและผิดกฎหมายเพื่อจูงใจรองผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ให้กระทำการในหน้าที่ด้วยการจัดสรรที่ดินบริเวณองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ชิดลม) ซึ่งเป็นทรัพย์สินของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ให้บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ได้สิทธิการเช่าที่ดินระยะยาว

โดยไม่ต้องผ่านการประมูลแข่งขันตามขั้นตอนปกติของการขอเช่าที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์อันเป็นคุณแก่บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และทำให้สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เสียประโยชน์ที่จะได้รับเงินจากการประมูลที่สูงที่สุด ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ผู้อื่นและประชาชน

และ ศาลพิพากษาว่าจำเลยทั้ง 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายฯ รวมจำคุกคนละ 6 ปี โดยจำเลยทั้ง 2 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง คงลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 3 ปี

ขณะเดียวกัน ด้วยเหตุตามคำพิพากษาดังกล่าวนี้ จึงขอให้ ผบ.ตร.สอบสวนพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี และ ผกก.สถานีตำรวจผู้รับผิดชอบ ว่าเหตุใดจึงสั่งไม่ฟ้อง นายสกุลธร และต่อจากนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดำเนินการทางกฎหมายต่อนายสกุลธรอย่างไร

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สรุปคดี เงินใต้โต๊ะ 20 ล้าน โยง “สกุลธร” น้องชาย “ธนาธร”