พาไปดู ”จุดเสี่ยง” เชื้อโควิดกระจาย ก่อนท่านจะเป็นเหยื่อรายต่อไป

by ThaiQuote, 2 มกราคม 2564

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ โพสต์ข้อความ วิเคราะห์ 4 ข้อสถานการณ์โควิด-19ในไทย ชี้สัปดาห์หน้ายอดคนติดเชื้อจะสูงขึ้น จากการแพร่เชื้อกันโดยไม่รู้ตัวหลังจากการไปเที่ยวปีใหม่ ชี้รอบนี้คุมยากกว่า

 

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ผ่านทางเฟซบุ๊ก “Thira Woratanarat” เนื้อหาดังนี้

สถานการณ์ทั่วโลก 2 มกราคม 2564...


เอามาย้ำอีกครั้ง...ก่อนที่ท่านจะเป็นเหยื่อโควิดรายต่อไป

ปัจจุบันไทยเราระบาดหนักมาก มีโอกาสติดเชื้อได้เสมอไม่ว่าอยู่ที่ใด เวลาออกไปข้างนอกบ้าน ต้องป้องกันตัวเต็มที่

ตอนนี้ปลอดภัยสุดคือ “อยู่บ้าน...หยุดเชื้อ...เพื่อตัวคุณและครอบครัว”

ไม่ว่าเที่ยวที่ไหน ตอนนี้ล้วนเสี่ยงทั้งสิ้น...
การที่คนติดเชื้อคนหนึ่งแล้วแพร่ไปให้คนจำนวนมากนั้น เกิดขึ้นอยู่ 2 ลักษณะใหญ่ๆ คือ เป็นการแพร่กระจายในสังคมวงกว้าง (societal superspreading event) กับการแพร่กระจายในคนหมู่มากที่อยู่ในสถานที่จำเพาะ (isolated superspreading event)
แบบแรกคือการแพร่กระจายในสังคมวงกว้าง เกิดได้หลายแบบ เช่น

“พิธีทางศาสนา” ดังที่เห็นในประเทศเกาหลีใต้ อเมริกา เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ สิงคโปร์ และฮ่องกง

“หอพักคนงาน” ดังที่เห็นในสิงคโปร์

“อาคารที่ทำงาน” เช่น ในสิงคโปร์ และจีน

“โรงงานเกี่ยวกับอาหาร” ดังที่เห็นจากเยอรมัน อเมริกา สหราชอาณาจักร และกานา

“โรงเรียน” เช่น ในนิวซีแลนด์ สิงคโปร์ ฝรั่งเศส และอิสราเอล

“สถานที่ช็อปปิ้ง” เช่น ในสิงคโปร์

“โรงพยาบาล” ดังที่เห็นจากเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และจีน

“ผับบาร์” เช่น ในญี่ปุ่น สวิส นิวซีแลนด์ ออสเตรีย เยอรมัน และฮ่องกง

“สถานที่ประชุม” เช่น ในอเมริกา และญี่ปุ่น

“สถานที่แข่งขันกีฬา” เช่น ในเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น

“โรงอาหารหรือร้านอาหาร” เช่น ในสิงคโปร์ และจีน

 

 

“การเดินทางบนเครื่องบิน” เช่น เครื่องบินจากดูไบไปฮ่องกง
“รีสอร์ตสกี” ดังที่เห็นจากฝรั่งเศส

“งานศพ” เช่น ในอินเดีย

“งานแต่งงาน” เช่น ในฮ่องกง

“รถบัสโดยสารประจำทาง” เช่น ในประเทศจีน

และ “ครัวเรือนที่อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่” เช่น ในประเทศจีน

ส่วนแบบที่สอง คือ การแพร่กระจายในสถานที่จำเพาะนั้น เกิดขึ้นในเรือ ในเรือนจำ และในสถานที่ดูแลผู้สูงอายุ โดยมีรายงานจากหลากหลายประเทศทั้งจากอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี และสก็อตแลนด์

ไม่ว่าจะเป็นแบบแรกหรือแบบที่สอง ล้วนทำให้เกิดการแพร่กระจายวงกว้างได้ตั้งแต่หลักสิบไปถึงหลายพันคนครับ

การจะหยุดการระบาดซ้ำครั้งนี้ได้นั้น ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากล็อคดาวน์ให้ทันเวลา มาตรการที่ดันทุรังทำกันอยู่นั้น ไม่ได้ผลหรอกครับ


รศ.นพ.ธีระ ยังได้โพสต์ข้อความต่ออีกว่า...
สถานการณ์ทั่วโลก 2 มกราคม 2564...

ทะลุ 84 ล้านไปแล้ว 
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 556,994 คน รวมแล้วตอนนี้ 84,287,784 คน ตายเพิ่มอีก 9,749 คน ยอดตายรวม 1,833,555 คน 
อเมริกา เมื่อวานติดเชิ้อเพิ่ม 172,043 คน รวม 20,575,877 คน ตายเพิ่มอีกถึง 2,538 คน ยอดตายรวม 355,997 คน

อินเดีย ติดเพิ่ม 17,080 คน รวม 10,303,409 คน
บราซิล ติดเพิ่มถึง 8,305 คน รวม 7,684,278 คน
รัสเซีย ติดเพิ่ม 27,039 คน รวม 3,186,336 คน 
ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 19,348 คน รวม 2,639,773 คน 
อันดับ 6-10 เป็น สหราชอาณาจักร ตุรกี อิตาลี สเปน และเยอรมัน ส่วนใหญ่ติดกันหลักหมื่นต่อวัน 

 

 

สหราชอาณาจักรติดเชื้อเพิ่มเกินห้าหมื่นคนอย่างต่อเนื่อง เมื่อวานนี้ 53,285 คน ยอดติดเชื้อต่อวันสูงเป็นอันดับที่ 2 ของโลกรองจากอเมริกา 

ฝั่งอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย อย่างโคลอมเบีย เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ยูเครน แคนาดา รวมถึงอิหร่าน บังคลาเทศ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย และเกาหลีใต้ ยังติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลายหมื่น 

แถบสแกนดิเนเวีย รอบทะเลบอลติก และแถบยูเรเชีย ก็ยังมีติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง

เมียนมาร์ และไทย ติดเพิ่มหลายร้อย ส่วนจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และกัมพูชา ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่เวียดนามติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ

...สถานการณ์ในเมียนมาร์ เมื่อวานติดเพิ่มขึ้นอีก 412 คน ตายเพิ่มอีก 15 คน ตอนนี้ยอดรวม 125,042 คน ตายไป 2,697 คน อัตราตายตอนนี้ 2.2%
วิเคราะห์สถานการณ์ของไทยเราตอนนี้...

หนึ่ง การตอบสนองของแต่ละจังหวัดและของระดับประเทศเป็นไปในลักษณะที่ช้ากว่าที่ควร ทำให้เป็นไปได้ยากที่จะจบศึกระบาดซ้ำนี้เร็วกว่าปลายมีนาคม และหากการตอบสนองยังอยู่ในลักษณะต่างคนต่างทำเช่นนี้ต่อไป จะมีโอกาสยืดเยื้อยาวนานกว่าเดิมประมาณ 20%

สอง การติดเชื้อในระลอกนี้ ไม่ได้มีเฉพาะกลุ่มเสี่ยงแบบที่เห็นมาในระลอกแรก แต่กระจายไปทั่ว ทำให้คนในสังคมมีโอกาสติดเชื้อและแพร่เชื่อได้โดยไม่รู้ตัวระหว่างการดำเนินชีวิตประจำวัน..."Everyone is at risk"

สาม ด้วยสถานการณ์การติดเชื้อแบบนี้ จุดที่ต้องระวังอย่างยิ่งเพราะมีโอกาสเกิดการแพร่เชื้อวงกว้างได้คือ แหล่งท่องเที่ยว วัด ตลาด ตลาดนัด ห้าง โรงหนัง โรงเรียน ขนส่งสาธารณะ สวนสาธารณะ โรงแรม/หอพัก/ที่พักให้เช่า โรงอาหาร/ศูนย์อาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงงานแต่งงาน งานศพ งานบวช 
สถานที่ข้างต้น ประชาชนควรหลีกเลี่ยง หากจำเป็นต้องไปต้องป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด

สี่ มีโอกาสที่จำนวนเคสจะมากขึ้นทวีคูณตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์หน้า หากมีการแพร่เชื้อหรือรับเชื้อกันโดยไม่รู้ตัวจากการออกไปท่องเที่ยวปีใหม่ และกลับสู่ถิ่นฐาน

ดังนั้นผู้ที่เดินทางไปท่องเที่ยวหรือทำธุระต่างๆ ในช่วงหยุดยาวปีใหม่นี้ ท่านจะช่วยสังคมได้มาก หากกักตัวเองเฝ้าดูอาการที่บ้าน 14 วันหลังจากกลับมาจากที่ต่างๆ อย่าตะลอน ทำงานที่บ้านได้จะดีกว่าไปที่ที่ทำงานในช่วงนี้ และถ้ามีอาการไม่สบายใดๆ โปรดรีบไปตรวจรักษา

หลายวันที่ผ่านมา หากเราทุกคนติดตามรายละเอียด จะพบว่าการติดเชื้อจำนวนมากล้วนเกิดจากความไม่ระมัดระวัง เพิกเฉยละเลย และไม่รับผิดชอบต่อตัวเองและสังคม สถานการณ์ลักษณะนี้ไม่ได้เกิดที่ไทยเพียงที่เดียว แต่เป็นมากมายหลายประเทศ และทำให้ประเทศอื่นๆ สะบักสะบอมจากการระบาดซ้ำที่รุนแรงยาวนาน เศรษฐกิจพังพินาศระยะยาว ยากที่จะฟื้นฟู

ตอนนี้ถ้าร่วมด้วยช่วยกันป้องกันบ้านของเราอย่างเต็มที่ ผลกระทบจากโรคระบาดก็จะบรรเทาลงได้บ้างไม่มากก็น้อย

#อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ #ใส่หน้ากากเสมอ #ล้างมือบ่อยๆ #คอยสังเกตอาการตนเองหากไม่สบายให้รีบไปตรวจ #ประเทศไทยต้องทำได้
ด้วยรักต่อทุกคน

 

เรื่องที่น่าสนใจ