สภาผู้บริโภคฯนัดรวมพลแสดงพลังก่อน กสทช.พิจารณาการควบรวมทรู-ดีแทค ขณะที่วงในคาดมีมติออกพรุ่งนี้

by ThaiQuote, 19 ตุลาคม 2565

สภาองค์กรของผู้บริโภค นัดผู้ใช้มือถือรวมตัวรอลุ้น กสทช.เคาะดีล TRUE-DTAC พรุ่งนี้ พร้อมกับยืนยันจุดยืน “ไม่ควรอนุญาตควบรวม” เพราะไม่เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม ในขณะที่แหล่งข่าวจากอุตสาหกรรมโทรคมนาคมคาดว่าพรุ่งนี้จะลงมติ โดยไม่ต้องรอผลการศึกษาที่จะส่งมาในวันที่ 14 พ.ย.นี้

 

 

สภาองค์กรของผู้บริโภค ประกาศเชิญชวนรวมพลคนใช้มือถือ นัดเจอกันเวลา 9.00 น. วันที่ 20 ต.ค. 65 ที่สำนักงาน กสทช.ซอยสายลม เพื่อรอฟังคำตอบคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะเคาะปิดดีลควบรวมกิจการระหว่าง บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) และ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) เป็นอย่างไร

 

 

ที่ผ่านมา สภาองค์กรของผู้บริโภค แสดงจุดยืนคัดค้านการควบรวม TRUE และ DTAC พร้อมเรียกร้องให้ กสทช.ยึดมั่นต่อหน้าที่ที่มีต่อประชาชนในการรักษาผลประโยชน์สูงสุด ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 60 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ด้วยการไม่อนุญาตให้เกิดการควบรวม เนื่องจากเห็นว่าหากวิเคราะห์ตาม มาตรา 21 ในพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 ประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ปี 2549 จะพบว่าได้มีการแสดงเจตนารมณ์ทางกฎหมายอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการให้มีการผูกขาด หรือลดการแข่งขันในกิจการโทรคมนาคมในธุรกิจประเภทเดียวกัน

แถลงการณ์ล่าสุดของสภาผู้บริโภคอ้างรายงานที่บริษัทปรึกษาต่างประเทศ บริษัท SCF Associates Ltd. ฉบับที่สอง ชี้ว่า การควบรวมระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท โทเทิ่ลแอ๊คแซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ไม่มุ่งประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมไทย และเสนอว่า กสทช. ไม่ควรอนุญาตให้เกิดการควบรวม

สภาองค์กรของผู้บริโภคอ้างว่า จากผลการทำวิจัยของนักวิชาการอิสระชาวต่างประเทศ ระบุว่า หาก กสทช. ไม่มีอำนาจยับยั้งการควบรวม ทางเลือกที่ต้องดำเนินการคือการกำหนดเงื่อนไขหรือมาตรการเฉพาะ ซึ่งจากการศึกษาไม่สามารถยืนยันว่าเงื่อนไขหรือมาตรการเฉพาะเหล่านี้จะมีประสิทธิภาพจริง

และทางเลือกสุดท้าย คือการป้องกันมิให้มีการขึ้นราคาและส่งผลเสียต่อผู้บริโภค โดยการกำกับดูแลโดยตรงอย่างเข้มงวด ภายใต้หัวข้อ Study on the Impact of the Merger between True Corporation Public Company Limited and Total Access Communication Public Company Limited (การวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบของการควบรวมทรู - ดีแทค) รายงานฉบับที่สองนี้ได้วิเคราะห์ผลกระทบต่อโครงสร้างตลาดมือถือจากการควบรวมในต่างประเทศ ซึ่งโดยสรุปพบว่า ในการควบรวมจาก 4 เหลือ 3 ราย มีหลักฐานยืนยันว่า เกิดการกระจุกตัวของตลาดที่เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อการขึ้นราคาค่าบริการอย่างชัดเจน ส่วนในด้านการลงทุนและคุณภาพบริการมีหลักฐานไม่เพียงพอที่จะชี้ชัดว่า การควบรวมส่งผลเชิงบวกหรือเชิงลบ

สภาองค์กรของผู้บริโภคกล่าวว่า สำหรับประเทศที่มีผู้ให้บริการเพียง 1 - 2 ราย ในหลายประเทศพบว่า จะส่งผลเสียร้ายแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งในด้านการลงทุนโครงข่าย และการใช้งานที่ลดลง เนื่องจากค่าบริการแพงขึ้น ทำให้การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลช้าลง โอกาสที่จะเห็นผู้ประกอบการรายที่ 3 เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก เพราะอุปสรรคการเข้าสู่ตลาดที่ยากลำบาก มีทางเลือกแทนการควบรวมคือ การที่ผู้ให้บริการใช้โครงข่ายร่วมกันเพื่อลดต้นทุนโดยไม่ต้องมีการควบรวม จึงยังคงต้องแข่งขันให้บริการต่อผู้บริโภคเช่นเดิม เงื่อนไขสำคัญที่ผู้ควบรวมอาจช่วยคงระดับการแข่งขันคือ ผู้ควบรวมต้องช่วยเหลือให้เกิดผู้ให้บริการรายใหม่ โดยการโอนหรือขายคลื่นความถี่ การอนุญาตให้ร่วมใช้โครงข่ายหรือเสาสถานี เปิดให้รายใหม่โรมมิ่งโครงข่าย ซึ่งวิธีการทั้งหลายเหล่านี้ก็อาจไม่เพียงพอในการลดอุปสรรคในการเข้าสู่ตลาด และเป็นเงื่อนไขที่อาจบังคับให้เกิดขึ้นจริงไม่ได้ ในส่วนทางเลือกที่จะให้ขายความจุโครงข่ายแก่ผู้ให้บริการ MVNO พบว่าได้ผลในบางประเทศ แต่สภาพตลาดและการกำกับดูแลในประเทศไทยอาจไม่เหมาะกับทางเลือกนี้

ในส่วนข้อควรคำนึงในการพิจารณาดัชนีค่า HHI (Hirschman-Herfindalhl Index) หรือดัชนีวัดความกระจุกตัวของตลาดนั้น รายงานชี้ว่า ในสหรัฐอเมริกา หากค่า HHI ก่อนการรวบรวมสูงกว่า 2,500 และเพิ่มขึ้น 200 หลังจากการควบรวม จะถือว่า ผู้ควบรวมมีอำนาจในตลาดเพิ่มขึ้นและอาจเป็นผู้มีอำนาจเหนือตลาดได้ สำหรับค่า HHI ของประเทศไทยอยู่ที่ 3,420 และจะเพิ่มเป็น 4,702 หลังการควบรวม ซึ่งหากใช้เกณฑ์พิจารณาของสหรัฐอเมริกา ถือว่าเข้าใกล้สภาพตลาดที่ผูกขาดโดยผู้ให้บริการเพียง 2 ราย

สภาองค์กรผู้บริโภคกล่าวว่า จากบทสรุปจากการวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจมหภาคสภาองค์กรของผู้บริโภคเห็นว่า ในแง่ของการลงทุน หากการควบรวมยังคงรักษาระดับการแข่งขันของผู้เล่น 2 ราย ตามทฤษฎี Bertrand Duopoly การควบรวมอาจไม่เป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจไทย

แต่หัวใจสำคัญคือการคงระดับการแข่งขันที่ต่อเนื่องในระยะยาว ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากและมีความไม่แน่นอนสูง การควบรวมที่นำไปสู่การกระจุกตัวของตลาดและเกิดผู้มีอำนาจเหนือตลาด จะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจไทย ในด้านผลกระทบเชิงลบต่อ GDP (ผลิตภัณฑ์รวมในประเทศ) กระทบต่อสภาพความเป็นอยู่ของสังคม จากการลดการลงทุนเนื่องจากไม่ต้องแข่งขันกันตามเดิม

สภาองค์กรผู้บริโภคกล่าวว่า โดยสรุป ถ้าอนุญาตให้เกิดการควบรวมที่นำไปสู่ผู้มีอำนาจเหนือตลาด การกำหนดเงื่อนไขหรือมาตรการเฉพาะเพื่อสนับสนุนให้เกิดการลงทุนและการพัฒนาเทคโนโลยีต้องเข้มแข็ง เพื่อรักษาระดับการลงทุนและการขยายโครงข่ายให้อยู่ในระดับเดียวกับสภาพก่อนการควบรวม

ท้ายที่สุดแล้ว รายงานชิ้นนี้เผยข้อสรุปผลกระทบจากการรวบรวม ดังนี้ จากการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ พบว่า ผลกระทบเชิงลบต่อผู้ใช้บริการมากกว่าประโยชน์ที่จะได้รับยิ่งไปกว่านั้น เงื่อนไขหรือมาตรการเฉพาะที่มีประสิทธิภาพ เป็นสิ่งที่ไม่อาจเกิดขึ้นได้จริงในสถานการณ์ของประเทศไทย

สภาองค์กรของผู้บริโภคกล่าวว่าหากคำนึงถึงการลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล การส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากโทรศัพท์มือถือในระบบเศรษฐกิจดิจิทัล ต้องไม่อนุญาตให้มีการควบรวม เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางเศรษฐกิจ ซึ่งพื้นฐานของเศรษฐกิจดิจิทัลของคนไทยเกิดขึ้นผ่านการใช้งานโทรศัพท์มือถือ

การรักษาสมดุลของตลาดโทรศัพท์มือถือในสหภาพยุโรป พิจารณาจากค่า HHI โดยหลีกเลี่ยงมิให้ค่านี้สูงกว่า 2,500 - 3,000 และในส่วนของข้อสรุปคำแนะนำจากการศึกษา ได้เสนอว่า ไม่ควรอนุญาตให้เกิดการควบรวม เพราะการควบรวมไม่ได้มุ่งประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมไทย

อย่างไรก็ตามสภาองค์กรของผู้บริโภคเห็นว่า หาก กสทช. ไม่มีอำนาจยับยั้งการควบรวม ทางเลือกที่ต้องดำเนินการคือ การกำหนดเงื่อนไขหรือมาตรการเฉพาะ ซึ่งจากการศึกษาไม่สามารถยืนยันว่าเงื่อนไขหรือมาตรการเฉพาะเหล่านี้จะมีประสิทธิภาพจริง พร้อมกับเสนอว่าทางเลือกสุดท้ายคือการป้องกันมิให้มีการขึ้นราคาและส่งผลเสียต่อผู้บริโภค ด้วยการกำกับดูแลโดยตรงอย่างเข้มงวด

สภาองค์กรของผู้บริโภคกล่าวว่า “เมื่อ กสทช. รับทราบรายงานทั้งสองฉบับแล้ว สภาองค์กรของผู้บริโภค และสมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน ขอเรียกร้องให้ สำนักงาน กสทช. ต้องเปิดเผยรายงานฉบับเต็มเพื่อให้สาธารณชนรับทราบโดยทันที ตามหน้าที่ที่ถูกบัญญัติไว้ใน มาตรา 59 (5) พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 มิเช่นนั้นจะถือว่าเป็นการละเมิดกฏหมาย และเท่ากับเป็นการจงใจปิดบัง ความเสียหายอย่างใหญ่หลวงที่จะเกิดต่อประเทศชาติ”

ทางด้านสำนักข่าวจากเว็บไซต์ www.ryt9.com อ้างว่า แหล่งข่าววงในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ประเมินว่าในวันพรุ่งนี้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะพิจารณาการควบรวมกิจการระหว่าง บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) และ บมจ.โทเทิ่ล แอ็สเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) โดยให้น้ำหนัก 80-90% มีโอกาสลงมติ โดยเชื่อว่าจะไม่มีการเลื่อนการพิจารณาอีก แม้ว่ารายงานผลการศึกษาของที่ปรึกษาอิสระต่างประเทศจะยังเหลือฉบับที่ 3 ซึ่งเป็นฉบับสุดท้ายกำหนดจะส่งมาในวันที่ 14 พ.ย.นี้ เพราะคณะกรรมการ กสทช.ได้ข้อมูลเพียงพอที่จะพิจารณาแล้ว.

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

ครม.ไฟเขียวแพ็คเกจมาตรการทั้งทางด้านสินเชื่อ ดอกเบี้ย และภาษีช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยปี 2565
https://www.thaiquote.org/content/248473

อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ขับเคลื่อนธุรกิจการประชุมและงานแสดงสินค้าตามแนว SDGs เต็มรูปแบบ
https://www.thaiquote.org/content/248474

BYD รถยนต์ไฟฟ้าของจีน เปิดฉากเข้าสู่ตลาด EV ของยุโรปเพื่อแข่งขันกับ VW และ Tesla
https://www.thaiquote.org/content/248470