คนกรุงฯขานรับนโยบายคัดแยกขยะของกทม. 5 เดือนลดได้กว่า 6 หมื่นตัน ประหยัดงบ127.8 ลบ.

by ThaiQuote, 24 กรกฎาคม 2566

กทม. เผยหลังรณรงค์จัดการขยะจากต้นทาง 5 เดือน ลดขยะได้กว่า 6 หมื่นตันประหยัดงบประมาณในการดำเนินการได้ 127.8 ล้านบาท

 

นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า การที่กรุงเทพมหานครมีนโยบายส่งเสริมการจัดการขยะ โดยรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนลดและคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทางอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2565 ผลปรากฎว่าจากสถิติปริมาณขยะที่ศูนย์กำจัดขยะ 3 แห่ง ของกรุงเทพมหานครพบว่าปริมาณขยะในกรุงเทพฯ ลดลงตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยปริมาณขยะเริ่มลดลงติดต่อกัน 5 เดือน คือระหว่างกุมภาพันธ์ถึงมิถุนายน 2566 โดยปริมาณขยะลดลงทั้งหมด 67,248 ตัน หรือเฉลี่ย 444 ตัน/วัน ทำให้กรุงเทพมหานครสามารถประหยัดงบประมาณในการดำเนินการได้ 127.8 ล้านบาท

จากปริมาณขยะเมื่อเทียบ 5 เดือน ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ - มิถุนายน ในปี 2565 และปี 2566 พบว่า เดือนกุมภาพันธ์ ปริมาณขยะลดลง 200 ตัน/วัน คิดเป็น 2.25% เดือนมีนาคม ปริมาณขยะลดลง 272 ตัน/วัน คิดเป็น 3% เดือนเมษายน ปริมาณขยะลดลง 318 ตัน/วัน คิดเป็น 3.6% เดือนพฤษภาคม ปริมาณขยะลดลง 713 ตัน/วัน คิดเป็น 7.5% และเดือนมิถุนายน ปริมาณขยะลดลง 719 ตัน/วัน คิดเป็น 7.4% ซึ่งรวมทั้งหมด 5 เดือน กรุงเทพมหานครสามารถลดปริมาณขยะได้ทั้งหมด 67,248 ตัน หรือเฉลี่ย 444 ตัน/วัน และประหยัดงบประมาณไปได้ถึง 127.8 ล้านบาท

ปริมาณขยะที่ลดลงนี้แสดงให้เห็นว่านโยบายแยกขยะต้นทางที่ กทม. ดำเนินการมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นโครงการ BKK Zero Waste ไม่เทรวมหรือโครงการมือวิเศษกรุงเทพฯ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชนในการลดและแยกขยะใช้ประโยชน์ที่ต้นทางทำให้ขยะที่ส่งไปกำจัดลดลง

ทั้งนี้ จากนโยบายโครงการส่งเสริมการลดและคัดแยกขยะที่ต้นทาง (Zero waste) ที่กรุงเทพมหานครมุ่งเน้นส่งเสริมชุมชน องค์กร สถานประกอบการ ลดและคัดแยกขยะมุ่งผลสำเร็จตามหลักการของเสียเหลือศูนย์ (Zero waste) และสำนักงานเขตได้ดำเนินการส่งเสริมให้มีการลดและคัดแยกขยะที่แหล่งกำเนิดมาใช้ประโยชน์ โดยแบ่งตามประเภทแหล่งกำเนิด ซึ่งในปี 2565 มีองค์กร/ชุมชน/สถานประกอบการเข้าร่วม โครงการ 6 ประเภท ได้แก่ ชุมชน สถานศึกษา อาคาร ตลาด วัดและศาสนสถาน และงานกิจกรรมหรือเทศกาลในพื้นที่เขต จำนวน 998 แห่ง

ในปี 2566 มีการขยายผลกำหนดเป้าหมายเป็น 16 ประเภทแหล่งกำเนิด ได้แก่ ชุมชน โรงเรียน วัดและศาสนสถาน ตลาด ห้างสรรพสินค้า สถานบริการน้ำมัน โรงแรม ธนาคาร สถานพยาบาล สวนสาธารณะ หน่วยงานสังกัดกทม. ซุปเปอร์มาเก็ต/มินิมาร์ท ร้านอาหาร สำนักงานโรงงาน แฟลตหรือคอนโดมิเนียม งานกิจกรรมหรือเทศกาล โดยเข้าร่วมโครงการแล้ว จำนวน 5,558 แห่ง จากเป้าหมายให้เข้าร่วมโครงการ 8,390 แห่ง

นอกจากนี้ ยังมีนโยบาย “ส่งขยะคืนสู่ระบบ” มุ่งเน้นการแยกขยะที่มีประโยชน์กลับมาหมุนเวียนใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด โดยมีการจัดการขยะประเภทต่าง ๆ ดังนี้ ขยะเศษอาหารและกิ่งไม้ใบไม้ ดำเนินการตามโครงการ “ไม่เทรวม” ซึ่งปัจจุบันสามารถคัดแยกขยะเศษอาหาร ได้เฉลี่ย 55 ตัน/วัน จาก 1,112 แหล่งกำเนิด รวมถึงขยะรีไซเคิล ที่ดำเนินการผ่านโครงการ “มือวิเศษ กรุงเทพ” ตามภารกิจ “แยกเพื่อให้...พี่ไม้กวาด” เพื่อช่วยเหลือพนักงานกวาดถนน ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ สำนักงานเขต ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ผลงานนี้เกิดจากโครงการ“ไม่เทรวม” เป็นโครงการรณรงค์แยก “ขยะเศษอาหาร” ออกจาก “ขยะทั่วไป” ซึ่งเป็นนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในการสร้างต้นแบบการแยกขยะ ต่อยอดให้การแยกขยะระดับเขตสมบูรณ์ครบวงจร เพื่อลดปัญหาขยะปลายทางผ่านการแยกขยะและลดการเกิดขยะต้นทาง โดยมีขตปทุมวัน เขตพญาไท และเขตหนองแขม เป็นเขตนำร่อง

โครงการไม่เทรวมแบ่งออกเป็น 3 ระยะเพื่อติดตามประเมินและปรับปรุงแก้ไข โดยระยะที่ 1 (ก.ย.-ต.ค. 65) ช่วงนำร่อง กำหนด 1 เขต 1 เส้นทาง จากนั้นระยะที่ 2 (พ.ย.-ธ.ค. 65) จะขยายเป็นเก็บทุกเส้นทางในระดับแขวง และระยะที่ 3 (ม.ค.-มี.ค. 66) จะขยายทั่วทั้งพื้นที่ 3 เขตนำร่อง 3 ขยายผลเต็มพื้นที่เขต

ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าปริมาณขยะที่ลดลงอยู่ในระดับก้าวหน้า และทำเพียงบางพื้นที่เท่านั้นหากสามารถทำต่อเนื่องและขยายพื้นที่การรณรงค์เชื่อว่าปริมาณขยะจะลดได้มากกว่านี้

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

ฝนตกหนักที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้พื้นที่ติดตั้งโซลาร์ฟาร์มเสี่ยงดินถล่ม
https://www.thaiquote.org/content/250798

วช.จับมือสมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย พัฒนา AI ท่องเที่ยวแนวใหม่ จังหวัดระนอง และ จังหวัดชุมพร
https://www.thaiquote.org/content/250795

Asahi Soft Drinks ทดลองติดตั้งเครื่องขายอัตโนมัติที่สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้
https://www.thaiquote.org/content/250784